“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

ข้อคิดจากพระวาจาประจำวัน  โดย..คุณพ่อฉลองรัฐ สังขรัตน์

วันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม 2016

สมโภชพระนางมารีย์รับเกียรติสู่สวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ

บทอ่านจากพระวรสารตามคำเล่าของนักบุญลูกา  ลก 1: 39–56

พระนางมารีย์ทรงรีบออกเดินทางไปยังเมืองหนึ่งในแถบภูเขาแคว้นยูเดีย พระนางเสด็จเข้าไปในบ้านของ เศคาริยาห์ และทรงทักทายนางเอลีซาเบธ เมื่อนางเอลีซาเบธได้ยินคำทักทายของพระนางมารีย์ บุตรในครรภ์ก็ดิ้น นางเอลีซาเบธได้รับพระจิตเจ้า เต็มเปี่ยม ร้องเสียงดังว่า “เธอได้รับพระพรยิ่งกว่าหญิงใด ๆ และลูกของเธอก็ได้รับพระพรด้วย ทำไมหนอ พระมารดาขององค์พระผู้เป็นเจ้าจึงเสด็จมาเยี่ยมข้าพเจ้า เมื่อฉันได้ยินคำทักทายของเธอ ลูกในครรภ์ของฉันก็ดิ้น ด้วยความยินดี เธอเป็นสุขที่เชื่อว่า พระวาจาที่พระเจ้าตรัส แก่เธอไว้จะเป็นจริง”

พระนางมารีย์ตรัสว่า “วิญญาณข้าพเจ้าประกาศความ ยิ่งใหญ่ของพระเจ้า จิตใจของข้าพเจ้าชื่นชมยินดีในพระเจ้า พระผู้กอบกู้ข้าพเจ้า เพราะพระองค์ทอดพระเนตรผู้รับใช้ ต่ำต้อยของพระองค์ ตั้งแต่นี้ไปชนทุกสมัยจะกล่าวว่า ข้าพเจ้า เป็นสุข พระผู้ทรงสรรพานุภาพทรงกระทำกิจการ ยิ่งใหญ่สำหรับข้าพเจ้า พระนามของพระองค์ศักดิ์สิทธิ์ พระกรุณาต่อผู้ยำเกรงพระองค์แผ่ไปตลอดทุกยุคทุกสมัย พระองค์ทรงยกพระกรแสดงพระอานุภาพ ทรงขับไล่ ผู้มีใจมักใหญ่ใฝ่สูงให้กระจัดกระจายไป ทรงคว่ำผู้ทรงอำนาจจากบัลลังก์ และทรงยกย่องผู้ต่ำต้อยให้สูงขึ้น พระองค์ประทานสิ่งดีทั้งหลายแก่ผู้อดอยาก ทรงส่งเศรษฐี ให้กลับไปมือเปล่า พระองค์ทรงช่วยเหลืออิสราเอล ผู้รับใช้พระองค์ โดยทรงระลึกถึงพระกรุณา ดังที่ทรงสัญญาไว้แก่บรรพบุรุษของเรา แก่อับราฮัม และบุตรหลานตลอดไป”
พระนางมารีย์ประทับอยู่กับนางเอลีซาเบธ ประมาณสามเดือน จึงเสด็จกลับ

(พระวาจาของพระเจ้า)

------------

ในวันแม่พระ เราก็ร่วมพิธีแห่แม่พระโดยทั่วไป เราอาจไม่ได้เข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความหมายการแห่แม่พระ ที่นำแม่พระแบกขึ้นบุษบก และเดินรอบวัด และจบลงด้วยการถวายดอกไม้
การแห่ มีผู้ที่เคยให้ความหมายว่า “เราจำลองภาพ ของการเดินทางไปสวรรค์” ที่เราเดินไปสวมเสื้อขาว เหมือนชาวสวรรค์ และมองเห็นแบบอย่างของชาวสวรรค์ ก็คือ แม่พระที่เราแบกเอาไว้ที่สูง ด้วยขบวนนำหน้า กางเขน ไฟ กำยาน อะไรก็ตาม แต่ที่สุดท้ายเราก็เดินไป กับผู้ศักดิ์สิทธิ์ที่เราแห่ และเดินตามนั่นเอง

(ในเมืองเล็ก ๆ บางแห่งในประเทศอิตาลี ประชาชนจัดฉลองวันแม่พระได้รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์กันอย่างเรียบง่าย แทบจะเหมือนการฉลองของเด็ก ๆ

การฉลองเริ่มต้นมิใช่ในวัดแต่บนถนนสายหลักของ เมือง เขาจัดให้มีขบวนแห่สองขบวน ขบวนแรกเริ่มต้นที่ ชานเมือง และเดินแห่มาตามถนนสายหลักไป ยังจุด ศูนย์กลางของเมือง ประชาชนในขบวนแห่นี้แบก รูปปั้นของพระนางมารีย์
ขบวนแห่นี้หมายถึงพระนางมารีย์กำลังเสด็จขึ้นสู่สวรรค์หลังจากชีวิตบนโลกนี้ของพระนางสิ้นสุดลงแล้ว
ขบวนแห่ขบวนที่สองเริ่มต้นจากชานเมืองอีกเช่นกัน แต่มาจากอีกฟากหนึ่งของเมือง และเดินแห่มาตามถนน สายหลัก ไปสู่ศูนย์กลางของเมืองเช่นกัน ประชาชน ในขบวนแห่ นี้แบกรูปปั้นของพระเยซูเจ้า
ขบวนแห่นี้หมายถึงพระเยซูเจ้ากำลังเสด็จไปพบพระมารดาของพระองค์ขณะที่พระนางมาถึงสวรรค์

ช่วงเวลาสำคัญของพิธีฉลองมาถึงเมื่อสองขบวนแห่มาพบกันภายใต้ซุ้มที่สร้างขึ้นด้วยกิ่งไม้และดอกไม้ที่ใจกลางเมือง เมื่อสองขบวนแห่มาพบกันทั้งสองขบวนจะหยุดเดิน พิธีต่อจากนั้นดูเรียบง่ายเหมือนการฉลองของเด็ก ๆ มากที่สุด เขาจับให้รูปปั้นทั้งสองรูปโค้งคำนับ ให้กันสามครั้ง การโค้งคำนับนี้เป็นสัญลักษณ์ว่า พระเยซูเจ้าทรงต้อนรับพระมารดาของพระองค์ที่ ประตูสวรรค์

   เมื่อจบพิธีคำนับแล้ว ประชาชนจะแบกรูปปั้น ทั้งสองเคียงข้างกัน รวมเป็นขบวนเดียวกันแห่เข้าไปในวัด เป็นสัญลักษณ์ว่าพระเยซูเจ้าทรงนำพระมารดาของพระองค์ไปยังบัลลังก์ หรือสถานที่ซึ่งจัดไว้เพื่อให้เกียรติ พระนางในสวรรค์

   เมื่อขบวนแห่นี้เข้ามาภายในวัด ประชาชนจะ ตั้งรูปปั้น ทั้งสองไว้ด้วยกันบนพระแท่นและชาวเมือง จะเริ่มพิธี บูชาขอบพระคุณฉลองวันแม่พระ ได้รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์)

(อ้างอิงจาก http://www.kamsonbkk.com/index.php/dailyreading/word-with-life-year-a/4788-2013-12-20-03-56-02)

ความหมายของการ “เข้าสู่สวรรค์” ตามแบบอย่างของพระนางมารีย์ผู้ได้เกียรติเข้าสู่สวรรค์
ประการแรกก็คือ
1.เป็นพลเมืองสวรรค์ เริ่มตั้งแต่เวลานี้
ในจดหมายนักบุญเปาโลถึงชาวโครินทร์ ฉบับที่หนึ่ง ได้บอกว่า “พระคริสตเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตาย เป็นผลแรกของบรรดาผู้ล่วงลับไปแล้ว ความตายมาจากมนุษย์คนหนึ่งฉันใด การกลับคืนชีพ  ของบรรดาผู้ตายก็มาจากมนุษย์คนหนึ่งฉันนั้น”

พระเจ้าไม่ได้ “กีดกั้น” สวรรค์ไว้เป็นของขวัญ รางวัลตอบแทน หรือ แต้มสะสมที่คนดีคนหนึ่งจะได้รับ เมื่อตายไปสวรรค์

แต่สวรรค์เป็น “ความต่อเนื่อง” ของ นิสัยใจคอ วิถีการดำเนินชีวิต จนเป็น “ความเคยชินของคนสวรรค์”

การดำเนินชีวิตเพื่อเป็นชาวสวรรค์ ตามแบบอย่างของพระนางมารีย์ ต้องเริ่ม “ตอบรับ” (Fiat) และ “ปฎิบัติตน” (Way of Life) เป็นชาวสวรรค์

ดังนั้น “ผลแรก” และ “ผลต่อมา” ของการดำเนินชีวิตจึงเป็น “ความสอดคล้อง” กัน ที่จะบอกกับเราว่า ทุกวัน เราต้องไปไม่ดำเนินชีวิต เพื่อ “ให้ได้สวรรค์” แต่ต้องดำเนินชีวิตสมกับเป็นชาวสวรรค์

เราจึงเป็น “ผลต่อมา ผลต่อเนื่อง ทำให้ชีวิตอยู่ ดำเนินไป ผ่านพ้น กลับคืนชีพ เป็นผลจากการดำเนินชีวิตต่อเนื่อง “เป็นพลเมืองสวรรค์”

ประการต่อมา การเสด็จสู่สวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ
ของพระนางมารีย์ มีความหมายเกี่ยวกับ “ร่างกาย” ของเราที่เป็น “การเปิดแสดงหรือ สิ่งที่บอกเล่าเรื่อง ความสัมพันธ์กับพระ ผ่านทางความสัมพันธ์ กับเพื่อนพี่น้อง ที่เป็นคุณสมบัติของชาวสวรรค์ อีกประการหนึ่ง จึงบอกกับเราอย่างง่ายว่า เราจะเป็นชาวสรรค์ โดยไม่ผ่านการเป็นชาวโลกเลยไม่ได้ ก็หมายความว่า เราจะไปสวรรค์ โดยไม่แตะต้องโลก ไม่อยู่กับคนในโลก ไม่ดีขึ้น เหมาะสมด้วยการขัดเกลา คือคลุกปนด้วยคนในโลก ไม่ได้เลย การคลุกเคล้าลงไป ไม่เป็นการปะปน หรือ มั่วสุม แต่เป็นลงไปแล้วทำให้ดีขึ้นเพราะได้ช่วยคน ได้เป็นคนชี้ทางดีให้คน ได้ยื่นมือลงแรงกับคน ทำให้เราและคนอื่น ดีขึ้นได้ เพราะความช่วยเหลือ เพราะได้แสดงความตั้งใจ เพราะได้เป็นตัวอย่างที่งดงาม เพราะได้เจือจุนค้ำจุน และนี่แหละ คือ ปนเข้าไปในโลกแต่ไม่เป็น คนของโลก

ดังนั้น การนับถือร่างกาย จึงไม่ใช่เรื่องแย่ๆ ที่เราเคยได้รับแนวคิดการดูถูกร่างกาย เพราะว่า เราอาจตกลงเพราะบาป และก็โทษกาย แต่เราก็สามารถสูงส่งได้ เพราะกายด้วยเช่นกัน ดังนั้นการนับถือร่างกายแบบที่เรากำลังเล่าถึง พระนางมารีย์ได้รับเกียรติยกสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ จึงมีแนวคิดที่ให้เกียรติร่างกาย ดุจดังร่างกายของพระนางมารีย์ว่า

“ร่างกายของเรา” ไม่ใช่เปลือกนอกของตัวเรา แต่เป็นองค์ประกอบสำคัญของตัวตนของเรา สอดคล้องกับพระประสงค์ของพระเจ้าผู้ทรงสร้างเรา ขึ้นมา ในประเด็นนี้ ปรัชญาสมัยใหม่เห็นด้วยกับ ความเข้าใจ ของผู้เขียนพระคัมภีร์ กล่าวคือ แทนที่จะบอกว่าเรา “ประกอบด้วยวิญญาณหนึ่ง และร่างกายหนึ่ง เราน่าจะพูดว่าเราคือ “ร่างกายที่มีพระจิตเจ้าเป็นชีวิต (spiritual body)” หรือเป็น “จิตที่มารับธรรมชาติมนุษย์ (incarnate spirit)”...

   นักบุญโทมัส อากวีนัส กล่าวว่า “พระเจ้าประทานจิตใจ (mind) และมือแก่เรา”จิตใจของข้าพเจ้าไม่ใช่อวัยวะที่เป็นเนื้อหนังแน่นอน แต่มีสติปัญญาแทรกซึมอยู่ และมือของข้าพเจ้าจะกระทำ ตามที่จิตใจ ของข้าพเจ้าสั่งให้ทำเท่านั้น ในทางกลับกัน จิตใจของข้าพเจ้าไม่สามารถทำอะไรได้โดยปราศจากมือ ของข้าพเจ้า

ไม่มีการแบ่งแยกระหว่างสองส่วนนี้ของธรรมชาติมนุษย์ของข้าพเจ้า ไม่มีส่วนใดที่เป็นกายภาพทั้งหมด และไม่มีส่วนใดที่เป็นจิตทั้งหมด)

ดังนั้น บทบาทของมนุษย์คนหนึ่ง ที่ศักดิ์สิทธิ์ สูงส่งจนได้เกียรติเป็น “มารดาของเรา ผู้ได้เกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ” จึงเป็นเป็นเรื่องที่สำคัญ แสดงถึงพระเมตตารักของ พระเจ้าที่จะบอกเล่าได้ว่า

“ร่างกายของเราเป็นวิหารของพระเจ้า”

เราจะศักดิ์สิทธิ์ขึ้นได้ เพราะเราได้ดำเนินชีวิตในกาย ที่มีความรู้สึกนึกคิดได้ จนทำให้วิญญาณของเราสูงส่งได้

ความรู้สึกนึกคิดนี้ปรากฎในบทสนทนาของ นางเอลิซาเบธกับพระนางมารีย์

“เธอได้รับพระพรยิ่งกว่าหญิงใด ๆ และลูกของเธอก็ได้รับพระพรด้วย ทำไมหนอ พระมารดาขององค์พระผู้เป็นเจ้าจึงเสด็จมาเยี่ยมข้าพเจ้า เมื่อฉันได้ยินคำทักทายของเธอ ลูกในครรภ์ของฉันก็ดิ้น ด้วยความยินดี เธอเป็นสุขที่เชื่อว่า พระวาจาที่พระเจ้าตรัสแก่เธอไว้จะเป็นจริง”

พระนางมารีย์เป็นแบบอย่างความศักดิ์สิทธิ์ ของมนุษย์ ที่ตอบรับพระเจ้า จนกระทั้งชีวิตเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ ด้วยดำเนินชีวิต ในโลก ผ่านโลก จนกระทั่งโลกทำให้เธอเป็น พลเมืองสวรรค์ ตั้งแต่การดำเนินชีวิตในโลก ที่สุดเธอก็เป็นสัญญลักษณ์ผู้ศักดิ์สิทธิ์สูงสุด เป็นชาวสวรรค์  แบบอย่างของพระนางมารีย์ จึงเป็นเรื่องที่ดีที่เราควรติดตาม เรียนรู้เป็นพิเศษ


ขอพระเจ้าอวยพร

(Credit จาก Facebook คุณพ่อฉลองรัฐ สังขรัตน์)

 

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก