“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันศุกร์ที่ 29 มกราคม 2016
สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลธรรมดา
         

“จนได้นะกษัตริย์ดาวิด...” บาปของดาวิดประการที่หนึ่งที่เป็นบทสอนล้ำค่าสำหรับทุกคนที่ได้อ่าน เราจะได้อ่านเรื่องราว ของ “บาป” และ “ห่วงโซ่ขอบบาป” บาปของดาวิดออกมาเป็นลูกโซ่จริงๆ เราจะได้เห็นระบบของบาปดังนี้
1. เกียจคร้านและอยู่อย่างสบายในวังของตน
2. ผิดประเวณีต่อนางบัชเชบา
3. โกหกหรือเรียกว่า “เจตนาไม่ดีซ่อนเงื่อน” ส่งจดหมายไปเรียบอุลรียาห์ พูดกับอุรียาห์แบบไม่มีความจริงใจเลย


4. พยายามซัดทอดความผิดหลีกหนีความผิด ไม่ยอมรับความจริง.. พยายามให้อุริยาห์กลับไปบ้านเพื่อมีความสัมพันธ์กับภรรยาและลูกที่เกิดมาดาวิดจะได้พ้นผิดเกลี้ยกล่อมอุริยาห์แบบที่พยายามมากๆที่จะโกหก
5. เขียนจดหมายสั่งตายให้แก่อุริยาห์อย่างโหดร้ายที่สุด “ฆาตกรรมอำพราง”
6. เคยรักทหารมากแต่ที่สุดยอมเสียทหารไปเพียงเพื่อให้อุริยาห์ได้ตาย
พี่น้องที่รักครับ วันนี้อ่านพระคัมภีร์แบบที่พ่อแบ่งให้เห็น เราจะเห็น “บาป” ของดาวิด... บาปที่เป็นลูกโซ่ต่อเนื่องออกมาอย่างไม่หยุดยั้งเลย พ่อจะจัดให้อ่าน เรียกว่า เสริฟเป็นเซ็ทๆ ให้อ่านครับ โดยมีทั้งเจ็ดข้อพร้อมคำอธิบายให้อ่านนะครับ
-------------------

2ซมอ 11:1-4ก, 5-10ก, 13-17…. (อ่านทั้งบทเลยครับ) อ่านไปตามหัวข้อที่พ่อแบ่งไว้ให้ครับ อ่านและอ่านคำอธิบายของพ่อสลับไปเรื่อยๆเลยนะครับ

“1ในฤดูใบไม้ผลิต่อมา อันเป็นเวลาที่บรรดากษัตริย์มักจะออกศึก กษัตริย์ดาวิดทรงส่งโยอาบพร้อมกับนายทหารและกองทัพอิสราเอลทั้งหมดออกไปปราบชาวอัมโมน และเข้าล้อมเมืองรับบาห์ของชาวอัมโมนไว้ ส่วนกษัตริย์ดาวิดคงประทับอยู่ในกรุงเยรูซาเล็ม”

1. เกียจคร้านและอยู่อย่างสบายในวังของตน ดาวิดเคยเป็นนักรบ เคยออกรบเสมอ จนได้ชัยชนะมากมาย เขาร่วมรับกับเพื่อนรักคือโยอาบ เรียกว่า รู้ใจกันสุดๆ แต่พระคัมภีร์บันทึกว่า วันนี้ดาวิดเริ่มสุขสบาย นอนตื่นสายในวังของตน “ดาวิดลุกจากที่นอนเวลาเย็น” เรียกว่าสุดๆครับ นอนทั้งวัน อ่านดีจะเห็นว่าดาวิดเริ่มจากความเกียจคร้านซึ่งเป็นบาปประการแรกและจะส่งผลไปสู่บาปประการต่อๆไป
------------------------

“2เย็นวันหนึ่ง กษัตริย์ดาวิดเสด็จจากพระที่บรรทมไปทรงพระดำเนินบนดาดฟ้าพระราชวัง ทอดพระเนตรเห็นหญิงคนหนึ่งกำลังอาบน้ำ นางเป็นคนสวยมาก 3กษัตริย์ดาวิดทรงใช้คนไปสืบถามว่านางเป็นใคร ก็ทรงทราบว่านางชื่อบัทเชบา เป็นบุตรสาวของเอลีอัมและเป็นภรรยาของอุริยาห์ ชาวฮิตไทต์' 4กษัตริย์ดาวิดทรงส่งคนไปนำตัวนางมา นางก็เข้ามาเฝ้า กษัตริย์ดาวิดทรงหลับนอนกับนาง นางเพิ่งชำระตนให้พ้นมลทินจากการมีประจำเดือน แล้วนางก็กลับไปบ้าน 5เมื่อนางทราบว่าตนตั้งครรภ์จึงส่งคนไปทูลกษัตริย์ดาวิดว่า 'ตนตั้งครรภ์แล้ว'”

2. บาปผิดประเวณีต่อนางบัทเชบา แย่งภรรยาของอุริยาห์มาเป็นของตน ตัณหาของดาวิดที่เกิดจากยามว่าง พักผ่อน “เสด็จออกจากที่บรรทมในเวลาเย็น” ความผิดที่เริ่มจากความเกียจคร้าน และสายตาที่มองนางบัทเชบาห์ และความหลงใหล ความอยากได้ และใช้อำนาจของตนแสวงหานางและนำนางมาถวายกษัตริย์ดาวิด ใช้อำนาจผิดๆ ตามใจตนอย่างไม่เคารพศักดิ์ศรีและเคารพต่อทั้งร่างกายและจิตใจของนางและอุริยาห์

--------------------
“6กษัตริย์ดาวิดจึงทรงใช้คนไปหาโยอาบสั่งให้ 'ส่งอุริยาห์ ชาวฮิตไทต์กลับมาเฝ้า' โยอาบจึงส่งอุริยาห์กลับมาเฝ้ากษัตริย์ดาวิด 7เมื่ออุริยาห์มาถึง กษัตริย์ดาวิดทรงถามเขาว่าโยอาบกับกองทัพเป็นอย่างไรบ้าง การสงครามดำเนินไปอย่างไร 8แล้วกษัตริย์ดาวิดตรัสแก่อุริยาห์ว่า 'จงกลับไปบ้านและพักผ่อนให้สบายเถิด' อุริยาห์ก็ออกไปจากพระราชวัง กษัตริย์ประทานอาหารเป็นของขวัญตามไปให้ที่บ้าน 9แต่อุริยาห์ไม่ได้กลับบ้าน เขาไปนอนอยู่ที่ประตูพระราชวังพร้อมกับทหารองครักษ์ของเจ้านาย”

3. โกหกหรือเรียกว่า “เจตนาไม่ดีซ่อนเงื่อน” ส่งจดหมายไปเรียกอุลรียาห์ พูดกับอุรียาห์แบบไม่มีความจริงใจเลย ดาวิดใช้อำนาจเรียกอุริยาห์กลับมา แยบยลมากๆ วางแผนที่จะพ้นความผิดเรื่องลูกในครรภ์ของบัทเชบาห์ “หนอยแน่ะ” คำถามที่ดาวิดถามอุริยาห์ทำให้เห็นความเสแสร้งแกล้งทำอย่างยิ่งจริงๆ “โยอาบกับกองทัพเป็นอย่างไรบ้าง การสงครามดำเนินไปอย่างไร” จะเรียกบาปนี้ว่า บาปเสแสร้งหรือตอแหลก็คงไม่ผิด เป็นเอามาก ทำเป็นถามถึงโยอาบ ถามถึงส่งคราม แต่ในใจดาวิดคิดอย่างเดียวคือต้องการให้อุริยาห์กลับไปบ้าน เพื่อไปหลับนอนกับภรรยา “กลับไปบ้านพักผ่อนให้สบายเถิด” แถมดาวิดยังยัดเยียดความสุขสบายตามไปด้วย เรียกว่า "เชียร์กันเต็มที่" ให้อุริยาห์กลับไปเสพสุขกับภรรยาหวังผลเชิงลึกเพื่อจะได้ยกเรื่องบุตรในครรภ์ของบัทเชบาห์ให้อุริยาห์ไป และตนเองก็พ้นผิดไปได้ ประทานอาหารตามไปถึงบ้านเลยครับ... แต่ แต่ แต่ อุริยาห์กลับไม่กลับบ้านแต่ไปนอนกับทหารที่ประตูเมือง ยังคงยืนหยัดในหน้าที่ทหาร เราจะเห็นความหนักแน่นๆ ของอุริยาห์ และอันที่จริง อุริยาห์นี่แหละคือมโนธรรม คือ เสียงมโนธรรม ที่เตือนดาวิดว่ากำลังทำอะไรอยู่

-------------------------
“10เมื่อกษัตริย์ดาวิดทรงทราบว่า 'อุริยาห์ไม่ได้กลับบ้าน' ก็ตรัสถามอุริยาห์ว่า 'ท่านจากบ้านไปนานแล้ว ทำไมจึงไม่กลับไปเยี่ยมบ้านเล่า?' 11อุริยาห์ทูลตอบว่า 'หีบพันธสัญญา อิสราเอลและยูดาห์อยู่ในเพิง โยอาบเจ้านายของข้าพเจ้ากับบรรดานายทหารของพระองค์ตั้งค่ายอยู่กลางทุ่ง ข้าพเจ้าจะกลับไปบ้าน กินดื่มและหลับนอนกับภรรยาได้อย่างไร? ข้าพเจ้าขอสาบานว่าตราบใดที่พระยาห์เวห์ทรงพระชนม์ และพระองค์ทรงพระชนม์ ข้าพเจ้าจะไม่มีวันทำเช่นนั้นเลย!' 12กษัตริย์ดาวิดตรัสกับอุริยาห์ว่า 'ถ้าเช่นนั้น วันนี้จงพักอยู่ที่นี่เถิด พรุ่งนี้เราจะส่งท่านกลับไป' อุริยาห์ก็อยู่ในกรุงเยรูซาเล็มในวันนั้น 13วันรุ่งขึ้น กษัตริย์ดาวิดทรงเชิญเขามากินและดื่มเฉพาะพระพักตร์ พระองค์ทรงให้เขาดื่มจนเมา คืนนั้นเขาก็ออกไปนอนที่เดิมกับทหารองครักษ์ แต่ไม่ได้กลับบ้าน”

4. พยายามซัดทอดความผิดหลีกหนีความผิดต่อไป ไม่ยอมรับความจริง.. พยายามต่อไปที่จะให้อุริยาห์กลับไปบ้านเพื่อมีความสัมพันธ์กับภรรยา เพื่อว่าลูกที่เกิดมานั้น ดาวิดจะได้พ้นผิด ดาวิดพยายาเกลี้ยกล่อมอุริยาห์แบบที่พยายามมากๆที่จะโกหก แต่ประเด็นตรงนี้เราได้เห็น มโนธรรมที่เตือนดาวิดจากเสียงขออุริยาห์ เห็นอย่างชัดเจนมากๆ เสียงนั้นเตือนด้วยแบบอย่างของอุริยาห์เอง
• อุริยาห์ทูลตอบว่า 'หีบพันธสัญญา อิสราเอลและยูดาห์อยู่ในเพิง โยอาบเจ้านายของข้าพเจ้ากับบรรดานายทหารของพระองค์ตั้งค่ายอยู่กลางทุ่ง ข้าพเจ้าจะกลับไปบ้าน กินดื่มและหลับนอนกับภรรยาได้อย่างไร?

• ข้าพเจ้าขอสาบานว่าตราบใดที่พระยาห์เวห์ทรงพระชนม์ และพระองค์ทรงพระชนม์ ข้าพเจ้าจะไม่มีวันทำเช่นนั้นเลย!'

• ดาวิดอ่อนแอมาก แต่อุริยาห์กลับเข้มแข็งมาก เป็นเสียงมโนธรรมให้ดาวิดตลอดเวลา “หีบพันธสัญญา อิสราเอลและยูดาห์อยู่ในเพิง โยอาบเจ้านายของข้าพเจ้ากับบรรดานายทหารของพระองค์ตั้งค่ายอยู่กลางทุ่ง ข้าพเจ้าจะกลับไปบ้าน กินดื่มและหลับนอนกับภรรยาได้อย่างไร? ข้าพเจ้าขอสาบานว่าตราบใดที่พระยาห์เวห์ทรงพระชนม์ และพระองค์ทรงพระชนม์ ข้าพเจ้าจะไม่มีวันทำเช่นนั้นเลย!'” เราเห็นว่าเสียงหนักแน่นของอุริยาห์ อุริยาห์จะไม่มีวันทำแบบนั้น แต่สิ่งที่อุริยาห์พูดนั้น คือสิ่งที่ดาวิดทำมาโดยตลอดจริงๆ ดาวิดเกียจคร้านไม่ออกไปรบ หีบพันธสัญญาและทหารอยู่ในทุ่ง แต่ดาวิดนอนอยู่ในวังไม่ทำอะไรแต่กลับทำบาป ทุกคำของอุริยาห์ที่พูดคือเสียงมโนธรรมที่จริงจังมากเตือนดาวิดอย่างลึกๆ พ่อคิดว่า เมื่อเราเจริญชีวิตหรือกระทำผิด ทำบาป เรามีเสียงมโนธรรมของพระเจ้าเตือนเราเสมอ อุริยาห์สาบานจริงๆจังมากว่าจะไม่มีวันทำแบบนั้น ซึ่งดาวิดกำลังทำอยู่

---------------------
“14เช้าวันรุ่งขึ้น กษัตริย์ดาวิดทรงเขียนจดหมายถึงโยอาบให้อุริยาห์นำไป 15ทรงเขียนในจดหมายว่า 'จงจัดให้อุริยาห์อยู่แนวหน้าตรงที่การรบเป็นไปอย่างดุเดือดที่สุด แล้วถอยทัพ ปล่อยให้เขาถูกฆ่า' 16โยอาบกำลังล้อมเมืองอยู่ จึงจัดให้อุริยาห์ไปอยู่ตรงที่เขาทราบว่าข้าศึกเข้มแข็ง 17ชาวเมืองออกมารบกับโยอาบ ฆ่าพลทหารและนายทหารบางคนของกษัตริย์ดาวิด อุริยาห์ชาวฮิตไทต์ก็ถูกฆ่าด้วย”

5. เขียนจดหมายสั่งตายให้แก่อุริยาห์อย่างโหดร้ายที่สุด “ฆาตกรรมอำพราง” จากความเกียจคร้าน จากการผิดประเวณี จากการเสแสร้งแกล้งทำและพยายามป้ายความผิดให้ตนเองหลุดพ้น เมื่อไม่ได้.. ก็ฆาตกรรม บาปของดาวิดขยายผลร้ายมากขึ้นทุกวัน ทุกเวลา และดีกรีความรุนแรงก็มากขึ้น “ทรงพระอักษร” ด้วยมืดดาวิดเอง เขียนสั่งโยบอาบให้มอบความตายให้กับอุริยาห์ ที่โหดมากที่สุด คือ อุริยาห์ผู้ซื่อสัตย์ที่สุดตรงข้ามกับดาวิดที่สุด กลับต้องถือจดหมายสั่งตายให้กับตนเอง ถือไปมอบให้โยอาบ คำถามคือดาวิดมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร... พระคัมภีร์ค่อยๆชี้ให้เราได้เห็นผลกระทบของบาป ให้ได้เห็นว่าบาปกำลังลุกลามอย่างมากๆ

• นี่ไม่ใช่เพียงบาปของดาวิดที่เรากำลังอ่าน แต่เรากำลังอ่านคำสอนของพระคัมภีร์เรื่องพฤติกรรมของบาป การกระจายตัวของบาป การที่บาปได้ขยายตัวอย่างมาก เพราะความไม่ซื่อสัตย์ขอดาวิด จนถึง

• เรื่องนี้อันที่จริงสอนเรื่องศีลธรรมและคุณธรรมของชีวิตเราได้ดีอย่างมาก การที่เราต้องฟังเสียงมโนธรรมของเราให้ดีๆ ฟังเสียงของมโนธรรมให้มากๆ อะไรดีหรือเลว อะไรถูกหรือผิด ที่สำคัญสำหรับเราคริสตชนต้องไปถึงขั้นที่ว่า อะไรควร อะไรไม่ควรในชีวิตคริสตชนของเรา เราต้องไม่ปล่อยตัวเราให้ตกอยู่การประจญล่อลวง

• ฆาตกรรมที่ดาวิดได้สั่งกระทำต้องถือว่าโหดร้าย เจตนา เต็มใจ ส่งอุริยาห์เข้าไปในจุดที่ดุเดือดที่สุด และถอยกำลังกลับเจตนาให้อุริยาห์ต้องตาย บาปเกิดจากเจตนา รู้ตัว เต็มใจ และตัดสินใจกระทำ

-----------------------
ส่วนสุดท้ายที่พ่อให้อ่านเพิ่ม...มิฉะนั้น หลายท่านอาจไม่ได้อ่านนอกจากในมิสซา....
“18โยอาบส่งรายงานไปทูลกษัตริย์ดาวิดถึงเรื่องสงครามอย่างละเอียด 19เขาสั่งผู้นำสารว่า 'เมื่อท่านทูลรายงานเรื่องสงครามอย่างละเอียดแล้ว 20กษัตริย์อาจจะกริ้วและตรัสถามว่า "ทำไมจึงต้องเข้าไปรบจนชิดเมืองเล่า? ท่านไม่ทราบหรือว่าเขาจะยิงธนูลงมาจากกำแพง? 21ใครฆ่าอาบิเมเลค บุตรของเยรุบบาอัล? ไม่ใช่ผู้หญิงคนหนึ่ง ทุ่มหินโม่แป้งลงมาฆ่าเขาตายที่เมืองเธเบศหรือ? ทำไมท่านจึงเข้าไปใกล้กำแพงเมือง?" ถ้ากษัตริย์ทรงซักไซ้เช่นนี้ ท่านจะต้องทูลว่า "อุริยาห์ ชาวฮิตไทต์ผู้รับใช้ของพระองค์ก็ถูกฆ่าด้วย"'
22ผู้นำสารก็ออกเดินทาง เมื่อมาถึง เขาทูลรายงานให้กษัตริย์ดาวิดทรงทราบเรื่องทั้งหมดตามที่โยอาบสั่งเขาไว้ กษัตริย์ดาวิดกริ้วโยอาบตรัสกับผู้นำสารว่า 'ทำไมจึงต้องเข้าไปรบจนชิดเมืองเล่า? ใครฆ่าอาบีเมเลคบุตรของเยรุบบาอัล? ไม่ใช่ผู้หญิงคนหนึ่ง ทุ่มหินโม่แป้งลงมาจากกำแพง ฆ่าเขาที่เมืองเธเบศหรือ? ทำไมท่านต้องเข้าไปใกล้กำแพงเมืองเล่า?' 23ผู้นำสารทูลกษัตริย์ดาวิดว่า 'ข้าศึกมีกำลังมากกว่าพวกเรา ออกมารบกับเราในที่โล่ง แต่เราตีเขาจนถอยกลับไปที่ประตูเมือง 24แล้วทหารธนูยิงผู้รับใช้ของพระองค์จากกำแพง ถูกนายทหารของพระองค์เสียชีวิตไปหลายคน อุรียาห์ ชาวฮิตไทต์ผู้รับใช้ของพระองค์ก็เสียชีวิตด้วย'
25กษัตริย์ดาวิดตรัสแก่ผู้นำสารว่า 'จงไปบอกโยอาบว่า "อย่าเจ็บใจในเรื่องนี้เลย เพราะไม่มีใครรู้ว่าใครจะต้องตายในสงคราม จงเข้าโจมตีอย่างเข็มแข็งและทำลายเมืองให้ได้" “จงให้กำลังใจแก่โยอับเถิด” 26เมื่อภรรยาของอุรียาห์ทราบว่า สามีถูกฆ่าแล้ว ก็ไว้ทุกข์ให้เขา 27เมื่อพ้นกำหนดไว้ทุกข์แล้ว กษัตริย์ดาวิดทรงส่งคนไปนำนางเข้ามาอยู่ในพระราชวัง ทรงรับนางเป็นชายา นางให้กำเนิดพระโอรสองค์หนึ่ง แต่พระยาห์เวห์ไม่พอพระทัยที่กษัตริย์ดาวิดทรงกระทำเช่นนั้น”

6. ดาวิดเคยกษัตริย์ผู้เคยรักทหารมาก แต่ที่สุดยอมเสียทหารไปเพียงเพื่อให้อุริยาห์ได้ตายอย่างที่ดาวิดต้องการ อ่านช่วงสุดท้ายนี้ต่อเนื่องมาจะเห็นว่าดาวิดกับโยอาบเป็นเพื่อสนิทร่วมรบกันจริงๆ รู้ใจกันสุดๆ แม่ทัพของดาวิดคือโยบอาบนั้น ได้รู้จริงๆว่า ถ้าคนส่งข่าวไปหาดาวิดและเล่าเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้น และที่ได้เสียทหารไป เพราะดาวิดรักทหารมาก ดาวิดจะโกรธ และดาวิดก็โกรธจริงๆ โยอาบรู้ว่าดาวิดจะต้องโวยวายว่าอย่างไร และดาวิดก็โวยวายเช่นนั้นจริงๆ เรียกว่ารู้ใจกันจริงๆ

• บาปของดาวิด ทำให้ดาวิดลืมความรักที่เคยมีต่อทหารของตน เคยเป็นห่วงทหารมากแต่เมื่อรู้ว่าอุริยาห์ตายไปกับเหตุการณ์นั้นด้วยก็เปลี่ยนไปทันที

• ดาวิดเปลี่ยนสีหน้าทันที ความโกรธหายไป ยอมให้ทหารตายไป ดาวิดกล่าวว่า “กษัตริย์ดาวิดตรัสแก่ผู้นำสารว่า 'จงไปบอกโยอาบว่า "อย่าเจ็บใจในเรื่องนี้เลย เพราะไม่มีใครรู้ว่าใครจะต้องตายในสงคราม จงเข้าโจมตีอย่างเข็มแข็งและทำลายเมืองให้ได้" “จงให้กำลังใจแก่โยอับเถิด” พอรู้ว่า อุริยาห์ตาย ดาวิดก็พอใจ สมใจดาวิดที่ต้องการให้กลบเรื่องบาปของตน..

พี่น้องที่รัก อ่านพระคัมภีร์วันนี้แล้วจะรู้สึกดีกับความเข้าใจเรื่องบาป เรื่องความอ่อนแอ และเรื่องของผลกระทบและอาการลุกลามของบาปจริงครับ ไม่ใช่เรื่องของดาวิดที่เป็นประเด็นหลักสำหรับเรา แต่เรื่องของบาป ความอ่อนแอ และความเสียหายที่เกิดขึ้นจากบาป จากเรื่องเล็กที่เป็นความเกียจคร้าน การปล่อยตัวไปตามราคะตัณหาของตน และลุกลามไปกันใหญ่จนถึงฆาตกรรมอย่างไม่น่ารักเอามากๆ แต่ดาวิดคือดาวิดนะครับ พระเจ้าทรงเมตตา ให้อภัย พระองค์ลงโทษ แต่อย่างที่เราได้อ่านมาก่อนนี้ พระเจ้าจะตีสอนดุจบิดาตีสอนบุตรของตน...
พี่น้องที่รักครับ ให้เราได้เรียนรู้ เข้าใจ และหมั่นฟังเสียงมโนธรรมของเราเสมอนะครับ ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่านครับ

 

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก