“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

"พระคริสตเจ้าทรงเป็นผู้ใดสำหรับข้าพเจ้า" อธิบายพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมาระโก โดย บาทหลวงฟรังซิส ไก้ส์
“ผู้รับเชิญมาในงานแต่งงานจะจำศีลอดอาหารได้หรือ”

b)ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน

            1.พระวาจาของพระเจ้าช่วยเราให้พ้นจากการคล้อยตามทางพิธีหรือข้อกำหนดภายนอก เรามักจะรู้สึกว่าการปฏิบัติข้อกำหนดที่เป็นแบบแผนตายตัวทางศาสนา ง่ายกว่าที่จะเผชิญการเรียกร้องของชีวิตแท้ทางศาสนา พระเยซูเจ้าทรงทราบว่า เมื่อเราไม่แน่ใจจะต้องประพฤติตนอย่างไร เรามักจะกังวลใจและหันกลับมายึดมั่นในข้อปฏิบัติภายนอกที่ทำเป็นกิจวัตร แม้ข้อปฏิบัติดังกล่าวทำเป็นพิธีเท่านั้น ไม่แสดงให้เห็นว่าพระเจ้าทรงรักและทรงเอาพระทัยใส่เรา สิ่งสำคัญคือให้เราเพียงปฏิบัติตามกฏเกณฑ์อย่างถูกต้อง แต่พระเยซูเจ้าทรงเตือนเราว่า สิ่งสำคัญคือประสบการณ์ความรักของพระเจ้า พระองค์ทรงต้องการเปิดเผยความจริงนี้ซึ่งเป็นข่าวดี ไม่ใช่ทรงเรียกร้องให้เราปฏิบัติกฏเกณฑ์ทั้งหมดทางศาสนาอย่างเคร่งครัด

            2.พระเยซูเจ้าไม่ทรงสอนว่า มนุษย์ไม่มีเหตุผลใด ๆ ที่จะต้องจำศีลอดหาร ตรงกันข้าม เราอาจจำศีลอดอาหารหรือปฏิเสธบางอย่างสำหรับตนเองเพื่อมีระเบียบวินัยในชีวิตและเป็นเจ้านายตนเอง โดยไม่ปล่อยให้สิ่งของหรือบุคคลยืดติดกับเราจนไม่มีอิสระ เมื่อเราสละความสะดวกสบาย สิ่งที่ชอบ เราจะเข้าใจคุณค่าของสิ่งเหล่านั้น เราต้องหลีกเลี่ยงที่จะประพฤติเหมือนชาวฟาริสีที่พระเยซูเจ้าทรงประณาม เพราะเขาจำศีลอดอาหารเพื่อโอ้อวดตนต่อหน้าผู้อื่น เพื่อดึงดูดความสนใจให้เห็นว่าเขามีความศรัทธา สามารถทำสิ่งที่ผู้อื่นทำไม่ได้ เขายังอาจจำศีลอดอาหารในวันที่ไม่บังคับเพื่อดึงดูดความสนใจของพระเจ้าอีกด้วย การกระทำเช่นนี้ไม่เป็นแสดงความรักของเขาต่อพระเจ้า แต่เป็นเพียงการถือกฏอย่างเคร่งครัดเพื่อจะได้รับเกียรติ

            3.เราต้องเรียนรู้ว่าพระเยซูเจ้าสถิตกับเราในฐานะเจ้าบ่าว ทรงนำความชื่นชมยินดีแก่เรา การจำศีลอดอาหารจึงแสดงว่า เราปรารถนาที่จะเห็นพระองค์ เพื่อความชื่นชมยินดีที่อยู่ในใจแล้วเมื่อรู้ว่าพระองค์สถิตกับเราก็จะสมบูรณ์ยิ่งขึ้น เมื่อเรามีจิตสำนึกนี้ เรา(อด/ยอม)ทนได้ทุกสิ่งทุกอย่าง เปรียบเหมือนการเกิดใหม่สำหรับเรา เพราะเรามีความสนิทสัมพันธ์กับพระคริสตเจ้า

            4.ขนบประเพณีทางศาสนาที่ถ่ายทอดกันมาเป็นสิ่งที่ดี แต่เราต้องยอมรับว่าการปฏิบัติเช่นนี้ยังไม่เพียงพอ เราต้องเปิดใจรับสิ่งใหม่ที่พระเจ้าทรงเปิดเผยกับเราในชีวิตประจำวัน ทุกวันที่ทารกเกิดมาในโลกเปรียบได้กับผ้าที่ทอขึ้นมาใหม่และกับเหล้าองุ่นใหม่ ทุกชั่วอายุคนมีพลังใหม่ ได้รับการเปิดเผยในการเข้าใจพระวาจาของพระเจ้าในมุมมองใหม่ เราจึงต้องซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า ยอมรับการกระทำของพระองค์ในชีวิตเรา ดังที่บรรพบุรุษของเราเคยมีความเชื่อในการกระทำของพระองค์ แต่สิ่งที่พระองค์ทรงเรียกร้องจากเราอาจไม่เหมือนกับสิ่งที่ทรงเรียกร้องจากบรรพบุรุษ เราต้องมีท่าทีเดียวกันกับบรรพบุรุษ ต้องมุ่งหน้าไปสู่อนาคตด้วยความไว้วางใจและความหวัง ความเชื่อของคริสตชนเป็นความเชื่อเกี่ยวกับอนาคตที่พระองค์ทรงสัญญา และเราต้องพยายามตั้งใจฟังพระวาจาทุกคำของพระองค์ที่มาจากพระโอษฐ์ของพระเยซูเจ้า ความพร้อมที่จะปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระเจ้าต้องทำให้เราตัดใจจากทุกสิ่ง แม้สิ่งเหล่านั้นเป็นขนบประเพณีที่ดีและศักดิ์สิทธิ์ เราต้องพร้อมเสมอที่จะแสวงหาพระอาณาจักรของพระเจ้าก่อนสิ่งอื่นใด

            5.อุปมาเรื่องเหล้าองุ่นใหม่ที่ต้องการถุงหนังใหม่ มีความสำคัญทั้งในแง่ความรู้เกี่ยวกับความเชื่อและในแง่การสอนคำสอน เราต้องเข้าใจว่าไม่มีความจริงตายตัวที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงและพัฒนาได้ เหมือนกับว่าพระสัจธรรมนั้นเก็บไว้ในถุงเหล้าองุ่นโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่เป็นความจริงที่มนุษย์รับรู้และมีทัศนะใหม่อยู่เสมอ สามารถเข้าใจอย่างลึกซึ้งมากซึ้ง นำความจริงที่เรารู้แล้วมาตอบคำถามใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์ปัจจุบัน ไม่มีปรัชญาใด แม้เทววิทยาใดที่มีความจริงทั้งหมด  เราเรียนรู้จากอดีต จากคำสอน จากความเข้าใจของคนสมัยก่อน แต่เราต้องกล้าที่จะเผชิญหน้ากับคำถามใหม่ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ที่สำคัญคือเราต้องจับตามมองพระเยซูเจ้า เพื่อรู้ทิศทางที่ถูกต้อง และพระองค์จะทรงนำเราไปสู่ความจริงทั้งหมด โดยทรงเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับพระเจ้าที่เราพบในพระองค์ ยิ่งเรามีอายุมากขึ้น เรายิ่งไม่ชอบสิ่งใหม่ ๆ สิ่งที่ไม่คุ้ยเคย เราไม่อยากเปลี่ยนแปลง โดยแท้จริงแล้ว พระเยซูเจ้าทรงเรียกร้องให้เราออกจากตนเอง มีจิตตารมณ์เหมือนอับราฮัมที่ได้รับคำสั่งให้ออกจากบ้านเกิดเมืองนอนไปยังที่ซึ่งพระองค์จะชี้ให้ในอนาคต

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก