ไตร่ตรองพระวาจา  โดย..คุณพ่อชวลิต  กิจเจริญวันศุกร์ที่ 22 กันยายน 2017
สัปดาห์ที่ 24 เทศกาลธรรมดา
บทอ่าน 1ทธ 6:3-12 / ลก 8:13
         ” พระเยซูเจ้าได้เสด็จจากหมู่บ้านหนึ่งไปยังอีกหมู่บ้านหนึ่ง เพื่อประกาศข่าวดี พระองค์มีเพื่อนร่วมงาน คือ บรรดาอัครสาวก และพวกผู้หญิงบางคน ที่คอยจัดเตรียมสิ่งที่จำเป็นให้แก่พวกเขา “ผู้หญิงเหล่านี้สละทรัพย์ของตน มาช่วยเหลือพระองค์ และบรรดาอัครสาวก” (ลก 8:3) ผู้หญิงเหล่านี้เปรียบเหมือนสานุศิษย์ของพระองค์ ที่เคยประสบ กับความรักและความเมตตากรุณาของพระเยซูเจ้า และแสดงความรู้คุณของพระองค์ ผ่านทางการบำบัดรักษาของพระองค์

ตามธรรมประเพณีของชาวยิว รับบีจะไม่คบหาสมาคมกับผู้หญิง ในที่สาธารณะ แต่พระเยซูได้ทรงกระทำ เลยขอบเขตของวัฒนธรรม ในสมัยของพระองค์ พระองค์ได้ทรงประกาศว่า การประกาศข่าวดีนั้นมีไว้สำหรับทุกคน โดยไม่จำกัดเพศ บรรดาผู้หญิงที่ชื่อสัตย์เหล่านี้ ได้ยืนอยู่ ณ แทบเชิญกางเขนของพระเยซูเจ้า (ลก 23:49) ยังปรากฏตัวในขณะที่มีการฝังพระศพของพระองค์ (ลก 23:55) และยังได้รับเอกสิทธิ์ได้เป็นประจักษ์พยาน ในการกลับคืนพระชนม์ชีพของพระองค์ด้วย (ลก 24:1-10) และหลังจากเยซูเจ้าเสด็จขึ้นสวรรค์แล้ว พวกเขายังมีโอกาสได้รับพระจิตเจ้าพร้อมกับพวกอัครสาวก และบุคคลที่เด่นที่สุดที่ปรากฏตัวในโอกาสนั้น คือ พระแม่มารีอา (กจ 1:14)...เรามีทัศนคติเหมือนพระเยซูเจ้าหรือไม่ เมื่อเราต้องติดต่อกับบรรดาผู้หญิงทั้งหลาย?...ข้าแต่พระเยซูเจ้าโปรดให้ลูกมีความรักเหมือนพระองค์ เมื่อต้องรับใช้ผู้อื่น....

        ไม่มีสิ่งใดเคยสอนเรา ให้รู้จักคุณค่าอันหาขอบเขตมิได้ของพระผู้สร้าง จนกว่าเราจะเรียนรู้ถึงความว่างเปล่าของทุกสิ่งทุกอย่าง...พระเยซูเจ้าทรงเชื้อเชิญให้เรามาพักผ่อนกับพระองค์ และความอ่อนโยน คือ วิธีการของพระองค์ คนที่อ่อนโยน จะไม่ใส่ใจคนที่ใหญ่โตกว่าเขา เพราะเขาได้ตัดสินใจตั้งนานมาแล้วว่า การแสวงหาคุณค่าของโลกนี้ ไม่เหมาะสมที่จะต้องใช้ความพยายามใดๆ...เราไม่ได้ตายเพื่อความตาย พระเป็นเจ้าก็ไม่ทรงปรารถนาให้มนุษย์เป็นอย่างนั้น เมื่อพระองค์ได้ประทานลมปราณให้มนุษย์ เพื่อให้ตาย เพื่อมีชีวิตอยู่กับพระองค์.