ไตร่ตรองพระวาจา  โดย..คุณพ่อชวลิต  กิจเจริญวันศุกร์ที่ 28 กรกฎาคม 2017
สัปดาห์ที่ 16 เทศกาลธรรมดา
บทอ่าน อพย 20:1-17 / มธ 13:18-23
         วันนี้เรามีโอกาสได้อ่านคำอธิบาย ของพระเยซูเจ้าเอง เกี่ยวกับการหว่านเมล็ดพืช จากบทอ่าน เราอาจจะเกิดความสับสน เราต้องระวังที่จะไม่ตกลงไปในหลุมพราง เพราะเรามองดูพระวาจาของพระเป็นเจ้า ในฐานะเป็นเพียงสิ่งที่เราควรสนใจเท่านั้น ไม่ใช่เป็นพระวาจาทรงชีวิต และเมล็ดพืชที่พระเจ้าทรงหว่าน ต้องทำให้นักธรรมชาติวิทยา มองดูในมุมกว้าง ให้ความสนใจและไม่โยนทิ้งไป เขาต้องมองดูเมล็ดพืช ในฐานะเป็นสิ่งที่ให้ชีวิต

หลายคนได้เรียนรู้เกี่ยวกับพระวาจา ของพระเป็นเจ้า โดยลืมว่าพระวาจาทรงชีวิต สามารถจะช่วยชีวิตของเรา พระเยซูเจ้าจึงได้ตรัสถึงชายคนหนึ่ง ซึ่งได้ยินพระวาจา แล้วก็ตอบรับด้วยความยินดี แต่เพราะเขาไม่มีรากในตัวเอง จึงไม่มีความมั่นคง แล้วเราก็พบว่า เหตุผลที่ทำให้พระวาจานี้ มีประโยชน์แก่เรา เมื่อเราต้อนรับพระวาจาด้วยความยินดี และจะต้องพยายาม ให้มันหยั่งรากลงในหัวใจของเราเอง รากที่ลึกจะสามารถฟันฝ่าอันตรายทุกฤดูกาล เพื่อให้เรามีความมั่นคงในการสวดภาวนา ในการชนะความเหน็ดเหนื่อย และความท้อถอย มันจะเติบโต ให้ผลผลิต ที่ไม่ใช่เป็นเพียงนำความยินดีที่ผิวเผินเท่านั้น แต่ต้องทำให้เราเจริญชีวิต พร้อมกับพระองค์ ด้วยความเรียบง่าย เพื่อจะได้บังเกิดผลสำหรับชาวโลกด้วย
          
       เช่นเดียวกัน คนที่เป็นสานุศิษย์ของพระเยซูเจ้า จะต้องฟังพระวาจาของพระองค์ คนที่ติดตามพระองค์นั้น จะต้องเป็นบุคคลที่บังเกิดผล สิ่งที่เราควรปฏิบัติก็คือ เราต้องทำตัวเราเอง ให้เป็นเนื้อดินดี แต่เนื่องจากเรายังเป็นมนุษย์ ที่มีข้อบกพร่องมากมาย และยังไม่มีความครบครัน เราไม่สามารถที่จะทำให้ตัวเองเป็นเนื้อดินดี เรายังต้องการการกลับใจอยู่ตลอดเวลา โดยการเคลื่อนหิน กรวดทราย และพงหนามที่อยู่ที่อยู่ใจของเรา…ท่านคิดว่า ตัวท่านเองเป็นเนื้อดินดี ที่ให้ผลผลิต ร้อยเท่า เจ็ดสิบเท่า หรือสามสิบเท่าหรือยัง?ถ้ายัง จงเตรียมตัว เพื่อรับฟังพระวาจาของพระองค์.