ไตร่ตรองพระวาจา  โดย..คุณพ่อชวลิต  กิจเจริญวันพฤหัสบดีที่ 6 กรกฎาคม 2017
สัปดาห์ที่ 13 เทศกาลธรรมดา
บทอ่าน ปฐก 22:1-19 / มธ 9:1-8
         นักบุญมารีอากอแรตตี อาจจะเรียนคำสอนน้อย เพราะเธอไม่สามารถอ่านหรือเขียนหนังสือ แต่เธอกลับเป็นผู้ที่มีความเชื่ออย่างลึกซึ้ง พระประสงค์ของพระเป็นเจ้า ต้องการให้เรามีความศักดิ์สิทธิ์ ความสงบเสงี่ยม ความเคารพต่อศักดิ์ศรีของร่างกาย ความนบนอบและความไว้วางใจในพระเป็นเจ้า ในโลกปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความซับซ้อน ความเชื่อของเธอ ที่ง่ายๆซื่อๆ คือตัวอย่างที่ดีสำหรับบรรดาเยาวชน เพราะความศักดิ์สิทธิ์ ที่เกิดจากความรักของพระเป็นเจ้า ที่มีต่อเธอ และที่เธอมีต่อพระเป็นเจ้า ทำให้เธอยอมเสียสละชีวิต เพื่อพระองค์


      ในวันแต่งตั้งเธอเป็นนักบุญ มีสัตบุรุษประมาณสองแสนห้าหมื่นคน ได้มาร่วมในพิธี เนื่องจากเธอเป็นรูปแบบที่ทำให้คนจำนวนมากมายเคารพรักในตัวเธอ ซึ่งเป็นเพียงลูกสาวของชาวนาอิตาเลียนที่ยากจนคนหนึ่ง ที่ไม่มีโอกาสจะไปโรงเรียน เธอจึงไม่สามารถอ่านออกและเขียนหนังสือ ในตอนบ่ายวันหนึ่งของเดือนกรกฎาคมขณะที่เธอมีอายุ 12 ปี กำลังนั่งซ่อมเสื้อของเธอ ลูกชายอายุ 18 ปีของเพื่อนบ้าน ได้เดินขึ้นมาที่บันไดและพยายามที่จะล่วงละเมิดทางเพศกับเธอ เธอได้ต่อสู้และพยายามร้องขอความช่วยเหลือ โดยตะโกนว่า “ไม่ได้ เพราะเป็นเจ้าไม่ทรงต้องการ สิ่งที่เจ้ากำลังทำนั้นเป็นบาป เจ้าจะต้องไปนรกอย่างแน่นอน” ฆาตรกรได้เริ่มทำร้ายเธออย่างมัวเมา โดยใช้มีดทำร้ายเธอ เป็นบาดแผลฉกรรจ์หลายแผลด้วยกันตามร่างกาย เธอได้ถูกนำส่งโรงพยาบาล สิ่งที่เธอกระทำก็คือ เธอยกโทษให้แก่ฆาตกรที่ทำร้ายเธอ เธอได้รับศีลเจิมคนไข้ รับศีลมหาสนิทครั้งสุดท้าย และได้เสียชีวิตหลังจากที่เธอได้ถูกทำร้ายเพียง 24 ชั่วโมง

       ถ้าอับราฮัมยอมนำลูกชายคนเดียวคืออิสอัค ไปเผาเป็นเครื่องบูชาแด่พระเป็นเจ้า เพราะถือว่าพระเป็นเจ้านั้น มีความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด นักบุญมารีอา กอแรตตี ซึ่งเราระลึกถึงเธอในวันนี้ ก็ได้ถวายชีวิตของเธอเอง ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุดที่เธอมี มอบให้แก่พระเป็นเจ้าเช่นเดียวกัน...” ความยำเกรงพระเจ้าเป็นน้ำพุแห่งชีวิต เพื่อผู้หนึ่งผู้ใด จะหลีกจากบ่วงของความมรณาได้ ”(สภษ 14:27)