ไตร่ตรองพระวาจา  โดย..คุณพ่อชวลิต  กิจเจริญวันพฤหัสบดีที่ 22 มิถุนายน 2017
สัปดาห์ที่ 11 เทศกาลธรรมดา
บทอ่าน 2คร 11:1-11 / มธ6:7-15
         เวลาที่ท่านสวดภาวนา ท่านมีความสุขและมีความไว้วางใจในพระเป็นเจ้าหรือไม่? พวกยิวถูกกำหนดให้มีความศรัทธาต่อการสวดภาวนา บทภาวนาตามแบบฟอร์มได้ถูกกำหนดให้สวด 3 ครั้งต่อวัน และบรรดา “รับบี”ต้องสวดภาวนาทุกโอกาส พระเยซูเจ้าจึงได้บอกให้บรรดาสานุศิษย์ของพระองค์ มิให้สวดภาวนาตามแบบฟอร์มเท่านั้น เพราะจะทำให้การสวดภาวนานั้น เป็นเหมือนเครื่องจักร และไม่มีความหมายใดๆ โดยที่ไม่ได้มีความคิดถึงพระเป็นเจ้าแต่อย่างใด เมื่อพระเยซูเจ้าทรงสอนบรรดาสานุศิษย์ของพระองค์ให้สวดภาวนา พระองค์ได้ให้สอนพวกเขาให้สวดบท “ข้าแต่พระบิดาของข้าพเจ้าทั้งหลาย


บทข้าแต่พระบิดาของข้าพเจ้าทั้งหลาย เริ่มต้นด้วยการเรียกพระเป็นเจ้าว่าเป็นพระบิดาของเรา (รม 5:15) แสดงว่าเราสามารถที่จะเข้าหาพระเป็นเจ้า ด้วยความไว้วางใจ และด้วยความมั่นใจ เพราะพระเยซูเจ้าเอง ได้เปิดหนทางให้เราไปสู่สวรรค์ โดยทรงรับความตาย และทรงกลับคืนชีพ เพราะฉะนั้นเมื่อเราวอนขอพระเป็นเจ้า เพื่อให้ช่วยเหลือเรา พระองค์ก็จะให้สิ่งที่เราต้องการ โดยประทานพระหรรษทานด้วยพระทัยดี และด้วยพระเมตตา เพราะในธรรมชาติของพระเป็นเจ้านั้น พระองค์ทรงรักเราด้วยความเมตตากรุณา และทรงให้อภัยบาปแก่เรา  พระองค์จะให้เราเกินกว่าที่เราต้องการ เพราะฉะนั้นเราจะต้องแบ่งปัน สิ่งที่เราได้รับมานั้น กับคนที่มีความต้องการ ถ้าพระเป็นเจ้ามีพระทัยดีและให้อภัยเรา พระองค์หวังว่าเราจะปฏิบัติตัวต่อพี่น้องเช่นเดียวกัน
เรายังสวดภาวนาขอให้พระองค์อภัยความผิดของเรา เหมือนอย่างที่เราขอให้พระองค์ให้อภัยความผิด ตามสัดส่วนที่เราได้ให้อภัยแก่คนอื่น ที่ทำผิดต่อเรา

จงขอให้พระเป็นเจ้าช่วยให้เราพ้นจากความโกรธ ความขมขื่น ความเศร้าโศก ความเห็นแก่ตัว ความใจเย็นเฉย และความไม่สนใจต่อคนอื่น

ขอพระจิตเจ้า ทำให้หัวใจของเราเต็มไปด้วยไฟความรัก อันลุกร้อนของพระองค์ และขอให้พระเมตตาและพระหรรษทานของพระองค์ จงหลั่งลงในหัวใจของเรา.