ไตร่ตรองพระวาจา  โดย..คุณพ่อชวลิต  กิจเจริญวันจันทร์ที่ 12 มิถุนายน 2017
สัปดาห์ที่ 10 เทศกาลธรรมดา
บทอ่าน 2คร 1:1-7 / มธ 5 1-12 
       นักบุญเปาโลได้พูดถึงพระเป็นเจ้า ในฐานะเป็นพระบิดาแห่งความเมตตากรุณา และพระเจ้าแห่งความบรรเทาใจ ความคิดนี้ไม่ใช่ใช้สำหรับเราแต่ละคน ที่เป็นคนบาปเท่านั้น แต่ในฐานะที่เราเป็นหมู่คณะ เราก็ได้ทำบาป แม้ว่าจิตใจของเราจะมีแต่เรื่องไม่ดี แต่พระเป็นเจ้าก็ได้มอบพระเมตตาของพระองค์แก่เรา

และยังช่วยเราให้พ้นจากการถูกลงโทษ พระเป็นเจ้ายังทรงแสดงพระทัยเมตตากรุณาของพระองค์แม้ว่าตามความยุติธรรม เราควรจะถูกลงโทษ ความคิดเหล่านี้ เป็นส่วนหนึ่งของความเมตตากรุณา ความบรรเทาใจเกิดขึ้น เมื่อเราได้ทรมานพร้อมกับพระเยซูเจ้า โดยผ่านทางความทุกข์ด้านร่างกาย ด้านอารมณ์ และด้านจิตใจ การที่เราจะเลียนแบบความทุกข์ เราจะต้องทนเพื่อพระคริสตเจ้า และเพราะว่าเราอยู่กับพระองค์ เราก็จะพบว่าในความทุกข์นั้น พระเป็นเจ้าทรงก็อยู่กับเราตลอดเวลา ขณะที่ความเมตตากรุณาเป็นพระพร ที่พระเป็นเจ้ามอบให้จากเบื้องบน จากพระทัยเมตตากรุณาของพระองค์ ส่วนความบรรเทาใจนั้นแตกต่างจากความเมตตากรุณา เพื่อที่จะพบความบรรเทาใจ เราต้องเสียสละตัวเรา โดยยอมความทุกข์เพื่อเห็นแก่พระคริสตเจ้า ซึ่งทรงทำให้เราประสบชัยชนะ และดังนั้นเราก็จะได้รับความบรรเทาใจ เป็นความโชคดีสำหรับเรา ที่พระบิดาเจ้าเอาใจใส่และรักเรา พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าแห่งความเมตตากรุณาและแห่งความบรรเทาใจ

        เราต้องวอนขอพระเมตตาจากพระเป็นเจ้า พระองค์ทรงต้องการให้เราเข้าไปหาพระองค์ ด้วยการสวดภาวนาอย่างไม่หยุดหย่อน ให้เราเป็นทุกข์ถึงบาป และวิงวอนขอพระองค์ โปรดประทานพระเมตตาของพระองค์แก่เรา และแก่โลกนี้...


        จงใช้เวลาเพื่อเรียนรู้พระเมตตาของพระเป็นเจ้ามากขึ้น จงเรียนรู้ที่จะวางใจในพระเยซูเจ้า และเจริญชีวิต ให้มีความเมตตากรุณา อย่างพระเยซูเจ้าทรงมีพระเมตตากรุณาต่อท่าน...อุปสรรคสำคัญที่สุด ที่จะขัดขวางมิให้ท่านได้รับความบรรเทาใจจากเบื้องบน คือ ท่านทำตัวช้าเกินไปในการสวดภาวนา