ไตร่ตรองพระวาจา  โดย..คุณพ่อชวลิต  กิจเจริญวันศุกร์ที่ 17 มีนาคม 2017
สัปดาห์ที 2 เทศกาลมหาพรต
บทอ่าน ปฐก 37:3-4,12-13,17-28 / มธ 21:33-43,45-46

        บทอ่านจากหนังสือปฐมกาลได้เล่าว่า ยอแซฟผู้บริสุทธิ์ ต้องประสบกับความอิจฉาของพี่ๆอย่างไม่คาดคิดมาก่อน ความอิจฉาของพวกเขารุนแรงถึงขั้นที่ว่า พวกเขาต้องการที่จะฆ่ายอแซฟให้ตาย ความโกรธของพวกเขาได้ทำให้พวกเขาข่มชู่และใช้กำลังภายนอก เพื่อที่จะทำให้ยอแซฟเกิดความหวาดกลัว


 ศัตรูที่เลวร้ายที่สุดในโลกทุกวันนี้ ไม่ใช่ไฟ ไม่ใช่น้ำท่วม ไม่ใช่สัตว์ป่า ไม่ใช่โรคภัยไข้เจ็บ ไม่ใช่ความหิวโหย หรือความชั่วร้าย ศัตรูที่เลวร้ายที่สุดก็คือความเป็นศัตรูที่เรามีต่อกันและกัน ความเจ็บปวดและการทำร้ายมากมายเกิดขึ้น กับคนที่อยู่ใกล้ตัว มากกว่าจากคนที่อยู่ไกลตัว โลกยังต้องการที่จะฆ่านักฝัน เพราะความโกรธและเพราะความอิจฉา ชีวิตของยอแซฟได้รับการช่วยเหลือ แต่เขาก็ได้ถูกขายไปเป็นเงินเพียง 20 เหรียญ หลายศตวรรษต่อมา
พระเยซูเจ้าเองก็จะถูกขายด้วยเงินเพียง 30 เหรียญ ทั้งพระเยซูและยอแซฟได้ถูกถอดเสื้อ “เราเองเคยพยายาม ที่จะถอดเสื้อของพี่น้องชายหญิงของเรา
 เพื่อทำให้พวกเขาสูญเสียศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ เพราะความอิจฉาของเราหรือไม่?”

       พระเยซูเจ้าทรงใช้ข้ออ้างอิงจากหนังสือ (สดด 118:22) โดยพระองค์ได้สรุปนิทานเปรียบเทียบเรื่องคนเช่าสวน ซึ่งพระองค์ได้บอกให้ผู้อาวุโสและปุโรหิตฟัง พระองค์ทรงต้องการจะหมายถึงตัวของพระองค์เองในฐานะเป็นบุตรของพระเจ้า ซึ่งจะถูกปฏิเสธโดยมหาปุโรหิตและพวกฟาริสี แต่พระองค์ก็เป็นที่มาของความรอดพ้น สำหรับคนที่ยินดีรับและเชื่อในพระองค์

      การถูกปฏิเสธไม่สามารถ ที่จะขัดขวางพระองค์มิให้ทำพันธกิจของพระองค์ จากพระบิดาให้สำเร็จพระศาสนจักรเองในฐานะเป็นกลุ่มของผู้มีความเชื่อ ซึ่งได้รับคำสั่งจากพระเยซูเจ้าให้ทำพันธกิจต่อไป   (มธ 28:18-20)...

พยายามออกห่างจากคนมองโลกในแง่ร้าย เพราะการมองโลกในแง่ร้ายนั้นสามารถติดต่อกันได้ และมันจะทำให้คุณตกต่ำลงไปด้วย..เป็นต้นเมื่อการมองคนในแง่ร้ายบวกกับความอิจฉา..จงมองหาข้อดีจากผู้คนรอบข้าง เพื่อให้คุณได้เรียนรู้สิ่งดี ๆ จากพวกเขา...ไม่ใช่คอยแต่อิจฉาคนอื่นอย่างเดียว