“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

ข้อคิดจากพระวาจาประจำวัน  โดย..คุณพ่อฉลองรัฐ สังขรัตน์

วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม 2017
วันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลธรรมดา ปี A
บทอ่านจากพระวรสารตามคำบอกเล่านักบุญมัทธิว มธ 4:12-23
     เมื่อพระเยซูเจ้าทรงทราบว่ายอห์นถูกจองจำ จึงเสด็จไปยังแคว้นกาลิลี ทรงออกจากเมืองนาซาเร็ธ มาประทับอยู่ที่เมืองคาเปอรนาอุม บนฝั่งทะเลสาบ ในดินแดนเผ่าเศบูลุนและนัฟทาลี ทั้งนี้ เพื่อให้พระดำรัสที่ตรัสไว้ทางประกาศกอิสยาห์ เป็นความจริงว่า


“ดินแดนเศบูลุนและนัฟทาลี
เส้นทางไปสู่ทะเล ฟากโน้นของแม่น้ำจอร์แดน
แคว้นกาลิลีแห่งบรรดาประชาชาติ
ประชาชนที่จมอยู่ในความมืด
ได้เห็นความสว่างยิ่งใหญ่
ผู้ที่อาศัยอยู่ในดินแดนและในเงาแห่งความตาย
แสงได้ส่องขึ้นมาเหนือพวกเขาแล้ว”
นับแต่นั้นมา พระเยซูเจ้าทรงเริ่มประกาศเทศนาว่า “จงกลับใจเถิด เพราะอาณาจักรสวรรค์อยู่ใกล้แล้ว”
ขณะที่ทรงดำเนินไปตามชายฝั่งทะเลสาบกาลิลี พระองค์ทอดพระเนตรเห็นพี่น้องสองคนคือซีโมนที่เรียกว่าเปโตรกับอันดรูว์น้องชายกำลังทอดแห เขาเป็นชาวประมง พระองค์ตรัสสั่งว่า “จงตามเรามาเถิด เราจะทำให้ท่านเป็นชาวประมงหามนุษย์” เขาทั้งสองก็ทิ้งแหไว้ แล้วตามพระองค์ไปทันที
เมื่อทรงดำเนินไปจากที่นั่น พระองค์ทอดพระเนตรเห็นพี่น้องอีกสองคนคือ ยากอบบุตรของเศเบดีและยอห์นน้องชายกำลังซ่อมแหอยู่ในเรือกับเศเบดีผู้บิดา พระองค์ทรงเรียกเขา ทันใดนั้น เขาทั้งสองก็ทิ้งเรือและบิดา แล้วตามพระองค์ไป
พระองค์เสด็จไปทั่วแคว้นกาลิลี ทรงสั่งสอนในศาลาธรรม ทรงประกาศข่าวดีเรื่องพระอาณาจักร ทรงรักษาโรคและความเจ็บไข้ทุกชนิดของประชาชน

(พระวาจาของพระเจ้า)

----------

วันนี้ พระวาจาเชิญชวนให้เรา “ไตร่ตรองชีวิต”
เมื่อเราสวดภาวนาค่ำ เราจะมีช่วงเวลา “พิจารณามโนธรรม” เงียบสักระยะหนึ่ง ฟังเสียงในใจ มโนย้อนคิดกลับไปตั้งแต่ต้นวัน มองชีวิตทั้งครบ”
เพื่อ “ขอโทษ” เพื่อ “ขอบคุณ” เพื่อ “โมทนาคุณ” เพื่อจะ “ตรวจสอบ เริ่มต้นแก้ไข” เป็นกระบวนการประเมินผลประจำวันของชีวิตคริสตชน
เราคงต้องบอกว่า “ช่วงยาว” ของการไตร่ตรองชีวิต ก็คือช่วงเวลา ที่เรามักบอกว่า “ขาลง” “กราฟตก” “ช่วงหมดโปรฯ” หรืออะไรก็ตามที่เรามองลบ มองทุกข์ มองเศร้าหมอง แต่ “ช่วงเวลา” เหล่านี้ เป็นการตีสอน บอกแนะให้แก้ไข หรือ ประเมินผลไตร่ตรองเพื่อการเปลี่ยนแปลงให้ดีกว่าเดิม ให้ตรงทางมากกว่าเก่า
​“ช่วงเวลาสอนชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณของพระ” จำเป็นสำหรับเรา และช่วงเวลา “ไตร่ตรองมองชีวิต” ก็จำเป็นสำหรับเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ความสัมพันธ์ ลึกซึ้ง เนิ่นนาน ต่อเนื่อง” ที่เป็น “สัญญลักษณ์”ของความเชื่อคริสตชน
ยกตัวอย่างใน  ผู้มีความเชื่อ ได้รับประสบการณ์แบบนี้เสมอ คือ ใน 2 ซมอ 12:1-13
นาธันมาเตือนดาวิด
เรื่องนางบัทเชบา
และพระเจ้าตีสอนเขา
2 ซมอ 24:1-17

ตอนที่ดาวิดนับอิสราเอล พระเจ้่าก็มาตีสอน
ดาวิดรู้ว่าพระเจ้าตีสอนในความหยิ่ง
กจ 5:1-11
ตอนที่อานาเนียและสัปฟีรา ล้มตาย
เราก็รู้ว่าสาเหตุคือการยักยอกเงินของพระเจ้า
การสอนของพระเจ้า
แต่การสอน เป็นเรื่องของการเปิดเผยทีละขั้นตอน
ตามความรู้ ความเข้าใจของมนุษย์ผู้นั้น

​ดังนั้น ในหนังสือประกาศกอิสยาห์ ได้เล่าประสบการณ์ยาวนานในความสัมพันธ์กับพระเจ้า ได้คลี่คลายจนเข้าใจหลังจากผ่านทุกข์ผ่านโศก ได้เกิดปัญญาหลังจากผ่านปัญหานานัปการ จนกระทั่ง ชีวิตเติบโต วิญญาณแกร่งกล้า ปัญญาฝ่ายจิตผลิตความเชื่อ ดังถ้อยคำ เล่าขานนี้ว่า “ประชากรที่เดินในความมืดแลเห็นความสว่างยิ่งใหญ่ บรรดาผู้อาศัยในแผ่นดินมืดมิด ความสว่างส่องแสงมาเหนือเขา พระองค์ทรงเพิ่มจำนวนประชากร ทรงเพิ่มความชื่นบานของเขา เขาทั้งหลายจะยินดีเฉพาะพระพักตร์พระองค์ ดั่งความชื่นบานในฤดูเก็บเกี่ยว ดั่งความยินดีเมื่อเขาแบ่งของเชลยให้แก่กัน เพราะว่าแอกอันเป็นภาระของเขา ท่อนไม้ที่เขาต้องแบก ไม้ตะพดของผู้กดขี่ พระองค์ทรงหักเสียอย่างที่ทรงเคยกระทำกับชาวมีเดียน”
ความเชื่อของเราต้องผ่านประสบการณ์ชีวิต ประสบการณ์ชีวิตจะเสริมสร้างความเชื่อ
นี่เป็นเรื่องที่สำคัญ
เหมือน “กระท้อนยิ่งทุบยิ่งหวาน”
(เรื่องเล่า ตำนานลิงกินลูกกระท้อน พอจับได้ก็กัดกินใส่ปาก ปรากฎว่า ฝาด ขม ที่เปลือกนอก ก็ทิ้งขว้าง ปาลงดิน
ที่สุด มนุษย์ก็พบว่า ที่จริง กระท้อน ต้องทุบ เนื้อจะฟู หวาน ที่ อร่อย หวาน และฟูนิ่ม อยู่ในข้างใน ไม่ใช่เปลือกนอกที่ลิงเก็บกิน)
ประสบการณ์ชีวิตของคนจะเสริมสร้างความเชื่อได้ ก็ต้องผ่านการพิจารณาชีวิตที่เหมือน “กระท้อนทุบแล้ว”
ความพากเพียรบากบั่น การผ่านความทุกข์ยาก เรื่องคน เรื่องงาน เรื่องสุขภาพ เรื่องอายุขัยวัยประจำวัน เป็น “ทุกข์ในชีวิต” เป็น “ความจริงที่เป็นอยู่”
ดูเหมือน “ความทุกข์ยากดับความหวัง” แต่ไม่ใช่เลย เพราะว่า ยิ่งผ่านยิ่งแกร่ง ยิ่งทนทาน ยิ่งสร้างความเข้าใจ ยิ่งไตร่ตรองจะมองเห็นกระบวนการของพระ พิจารณาถึงความรักที่เสริมสร้างไม่ใช่ตามใจ ความรักที่สร้างผู้สร้างคน ไม่ใช่ข้าวของเอาอกเอาใจ ที่เป็น “การสร้างเสริมมิติฝ่ายวิญญาณ” ให้กับชีวิตเรา
การไตร่ตรอง พิจารณาประสบการณ์นี้ ในความเชื่อของนักบุญเปาโล จึงมีถ้อยคำสรุปว่า
​“ทรงส่งมาประกาศข่าวดีมิใช่ด้วยการใช้โวหารอันชาญฉลาด ด้วยเกรงว่าจะทำให้ไม้กางเขนของพระคริสตเจ้าเสื่อมประสิทธิภาพ” ในจดหมายนักบุญเปาโลถึงชาวโครินทร์ ฉ.1
​เรื่องไม้กางเขน ประสบการณ์การสอนของพระเจ้า ที่มีต่อชีวิต ที่ต้องผ่านทุกข์ยาก ต้องผ่านเวลาขัดเกลาตกแต่ง ต้องผ่านเรื่องราวมากมายไม่ได้ง่ายเหมือนปอกกล้วย แต่ต้องทุบเหมือนกระท้อน จึงเป็นแบบนี้
​ความสำเร็จ ดัง “บรรลุถึงพระอาณาจักรสวรรค์” จึงไม่ใช่ ระยะทางที่ถึงเป้าหมายปลายทาง ไม่ใช่ ตอบแทนด้วยทรัพย์ศฤงคารมหาศาล ไม่ใช่อูมฟูมด้วยทรัพย์สมบัติที่หาไม่ได้ในโลกนี้ ไม่ใช่ งานการสำเร็จเสร็จตามเวลา ไม่ใช่ รางวัลตอบแทนร้อยเท่าพันทวี
​แต่เป็น ปรีชาญาณที่เพิ่มพูน ที่ไม่ได้เป็น “คนหวังรางวัล” แต่ “เสริมสร้างตนให้มีปัญญาที่มาจากจิตวิญญาณ” เป็นคนเพื่อคนได้มากกว่าที่เคยเป็นคนเพื่อตัวเอง อยู่ร่วมกันให้ได้มากกว่าอยู่เพื่อตัวเอง นี่เป็น “สมบัติสวรรค์”
​“ปรีชาญาณในชีวิตฝ่ายจิต” ที่ได้มาจากการบากบั่นในชีวิต ผ่านทุกข์แล้วสุขที่ได้เข้าใจ ไตร่ตรองมองชีวิตให้ครบด้านมากกว่าไข่วคว้าหาด้านเดียว เป็นคนเพื่อคนอื่นไม่ได้มีทุกสิ่งเพื่อตัวเอง คนที่บรรลุเรื่องแบบนี้แล้ว จะรำพึงไตร่ตรองถ้อยคำนี้อย่างเข้าใจว่า
“ประชาชนที่จมอยู่ในความมืด
ได้เห็นความสว่างยิ่งใหญ่
ผู้ที่อาศัยอยู่ในดินแดนและในเงาแห่งความตาย
แสงได้ส่องขึ้นมาเหนือพวกเขาแล้ว”

นับแต่นั้นมา พระเยซูเจ้าทรงเริ่มประกาศเทศนาว่า “จงกลับใจเถิด เพราะอาณาจักรสวรรค์อยู่ใกล้แล้ว”
​“ความสว่าง” ทางจิตวิญญาณ ก็คือ เรื่องนี้ ที่ได้ผ่าน ได้ไตร่ตรอง ได้เข้าใจ ได้ลงแรง ได้บรรลุ เป็นบุคคลแห่งพระอาณาจักรสวรรค์อย่างแท้จริง
​ขอพระเจ้าองค์ความรอดแห่งพระอาณาจักรสวรรค์นิรันดร อวยพรพี่น้อง

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก