รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันศุกร์ที่ 13 ตุลาคม 2017
สัปดาห์ที่ 27 เทศกาลธรรมดา
ลก 11:14-26…
        14พระเยซูเจ้ากำลังทรงขับไล่ปีศาจซึ่งทำให้คนเป็นใบ้ เมื่อปีศาจออกไปแล้ว คนใบ้ก็พูดได้ ประชาชนต่างประหลาดใจ 15แต่บางคนกล่าวว่า “เขาขับไล่ปีศาจด้วยอำนาจของเบเอลเซบูล เจ้าแห่งปีศาจนั่นเอง” 16บางคนต้องการจับผิดพระองค์ จึงขอให้พระองค์ทรงแสดงเครื่องหมายจากสวรรค์ 17พระเยซูเจ้าทรงทราบความคิดของเขาจึงตรัสว่า “อาณาจักรใดแตกแยกภายใน อาณาจักรนั้นย่อมพินาศ บ้านเรือนย่อมพังทลายทับกัน

18ถ้าซาตานแตกแยกกันเอง อาณาจักรของมันจะตั้งอยู่ได้อย่างไร เพราะท่านบอกว่า เราขับไล่ปีศาจด้วยอำนาจของเบเอลเซบูล 19ถ้าเราขับไล่ปีศาจด้วยอำนาจของเบเอลเซบูล พวกพ้องของท่านขับไล่มันด้วยอำนาจของใคร พวกพ้องของท่านจะเป็นผู้ตัดสินลงโทษท่าน 20แต่ถ้าเราขับไล่ปีศาจด้วยอำนาจของพระเจ้า ก็หมายความว่าพระอาณาจักรของพระเจ้ามาถึงท่านแล้ว 21เมื่อคนแข็งแรงมีอาวุธครบมือเฝ้าบ้านของตน ทรัพย์สมบัติของเขาก็ปลอดภัย 22แต่ถ้าผู้ใดแข็งแรงกว่าเข้ามาโจมตีและเอาชนะเขาได้ ก็ย่อมริบอาวุธที่เขามั่นใจนั้น และแบ่งปันข้าวของที่ปล้นได้
23”ผู้ใดไม่อยู่กับเรา ย่อมเป็นปฏิปักษ์กับเรา ใครไม่รวบรวมสิ่งต่างๆ ไว้กับเรา ย่อมทำให้สิ่งเหล่านั้นกระจัดกระจายไป

24“เมื่อปีศาจออกไปจากมนุษย์แล้ว มันท่องเที่ยวไปในที่แห้งแล้งเพื่อหาที่พัก เมื่อไม่พบ มันจึงคิดว่า “ข้าจะกลับไปยังบ้านที่ข้าจากมา” 25เมื่อกลับมาถึง มันพบว่าบ้านนั้นปัดกวาดตกแต่งไว้เรียบร้อย 26มันจึงไปพาปีศาจอีกเจ็ดตนที่ชั่วร้ายยิ่งกว่ามันเข้ามาอาศัยที่นั่น สภาพสุดท้ายของมนุษย์ผู้นั้นจึงเลวร้ายกว่าเดิม”

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง

• ถ้าเราสามารถจัดลำดับความสำคัญของปีศาจในนรกได้ ถ้าเราสามารถนำปีศาจมาจัดลำดับนั่งเป็นลำดับความสำคัญ “คือระดับความเลวร้าย” จริงๆ ความเลวร้ายไม่น่าจะต้องจัดลำดับ แต่วันนี้เรามาศึกษาเรื่องผีๆกันหน่อยครับ

• พ่อจะบอกว่าพ่อชำนานเรื่องผีปีศาจก็มิกล้า มิกล้าครับเดี๋ยวจะตกหลุมพรางตนเอง... แต่วันนี้พระวรสารเน้นเรื่องชื่อปีศาจ เรื่องอำนาจของเบเอลเซบูล ที่เราเคยได้ยินกันมาในพระวรสาร วันนี้พ่อจึงขอนำเสนอเรื่อง “ปีศาจ” กันสักหน่อยนะครับ

• เมื่อพระองค์ทรงขับไล่ปีศาจออกไปได้มีบางคนกล่าวว่า “บางคนกล่าวว่า “เขาขับไล่ปีศาจด้วยอำนาจของเบเอลเซบูล เจ้าแห่งปีศาจนั่นเอง”” เอาเป็นวันนี้เรามารู้จักปีศาจกันหน่อย บางทีการรู้จักปีศาจดีๆ เราจะได้หลีกหนีมันได้มากขึ้นครับ..

• “เบเอลเซบูล”
o คำอ่าน... Beelzebub หรือ Beel-Zebub bee-EL-zə-bub
o ภาษาฮบีรู בַּעַל זְבוּב‎, Baal Zəvûv;
o ความหมายชื่อนี้ในภาษาร่วมสมัยของเรา หมายถึง “ปีศาจ หรือความชั่วร้าย”

• ชื่อ เบเอลเซบูล ในพระคัมภีร์และประเพณีของเราคริสตชน ชื่อนี้ หมายถึง จอมมารจิตชั่ว หรือ จอมปีศาจ (Devil) นั่นเอง

• ในความหมายของคริสตชน เบเอลเซบูลคือหนึ่งในเจ็ดของเจ้าชายแห่งนรก เวลาที่คริสตชนกล่าวถึงนรก นรกมีจอมปีศาจเจ็ดตน (เลข 7 คือความเต็มเปี่ยม เรียกว่า จอมมารทั้งเจ็ด) เบเอลเซบูลเป็นหนึ่งในนั้น ตามคำอธิบายของภาษาชี้ว่า เบเอลเซบูลเป็นเหมือนปีศาจที่รบกวนดุจแมลงวัน เป็นจอมมารน่ารำคราญหรือจะเรียกเป็นภาษาผีๆสมัยใหม่ต้องเรียกว่า “ไอ้แมลงวัน” ก็ว่าได้
o ข้อมูลจากพันธสัญญาเดิม Beelzebub ปรากฏใน 2พกษ 1:2-3,6,16 เป็นชื่อหมายถึงพระเท็จเทียมของพวกฟิลิสตีน คือ พระบาอัล “บาอัล” ในภาษาอูการิก แปลว่า “เจ้านาย” (lord)
o นักวิชาการได้จัดแบ่งขั้นของพวกพระหรือเทพ และจัดให้เซบูลนี้อยู่ในระดับเจ้าชายของปีศาจ และบาอัล หรือ เบเอล คือ ชั้นหนึ่งของปีศาจ เรียกว่า ขั้นยอดเลวทีเดียว

• ในพระวรสาร เรารู้ว่า พวกฟาริสี ประกาศว่าพระเยซูขับผีด้วยอำนาจของเบเอลเซบูล คือ เจ้าชายแห่งปีศาจ
o พระเยซูเจ้าจึงตอบพวกเขาถึงการไม่แตกแยกกันของอาณาจักร แม้แต่ผีมันก็ไม่น่าจะแตกกันเอง เรียกว่า ถ้ามีความแตกแยกกันเอง ก็มีแต่พังกับพัง แม้แต่ผีปีศาจถ้าแตกกันก็พังเหมือนกัน อาณาจักรของผีก็จะอยู่ต่อไปไม่ได้แน่ๆ

• ครับ เอาเป็นว่า พ่อรู้จักราชาแห่งปีศาจมากไปไหม... อะไรคือคำสอนจริงๆ ของพระวรสารวันนี้ พ่อคิดว่ามีคำตอบครับ...
o “ความแตกแยก” มีแต่พังกับพังครับ....
o ถ้อยคำของพระเยซูเจ้า “อาณาจักรใดแตกแยกภายใน อาณาจักรนั้นย่อมพินาศ บ้านเรือนย่อมพังทลายทับกัน ถ้าซาตานแตกแยกกันเอง อาณาจักรของมันจะตั้งอยู่ได้อย่างไร”

• วันนี้พ่อจะไตร่ตรองเรื่องอะไร คำตอบ คือ “ความแตกแยก” ไม่ดีเลย ไม่ดีจริงๆ กล่าวแบบ Hyperbole ว่า แม้แต่ผีถ้ามันแตกแยก อาณาจักรแห่งผีมันก็อยู่ไม่ได้...”

• ประสบการณ์ประวัติศาสตร์ชาติไทย ค่ายบางระจันในที่สุดก็แตก พ่อเพลงที่พ่อร้องมาแต่เด็ก “ศึกบางระจันจำให้มั่นพี่น้องชาติไทย เกียรติประวัติสร้างไว้แก่คนชาติไทยรุ่นหลัง...”

o ค่ายบางระจัน ตอนที่ค่ายแตก... พม่าบุกเข้าค่ายได้... บรรดาทหารคนกล้า คนเก่ง คนที่ทุกคนเชื่อมั่นศรัทธา แม้แต่ศรัทธาในศาสนาและอาจารย์ จนศิษย์นำผ้าเหลืองมาออกศึก นำผ้าเหลืองมามายัดไว้ในเสื้อของตนยังถูกฟันกระจายผ้าเหลืองที่ซ่อนอยู่ข้างในกระจุยขาดวิ่น... (ละครที่สร้างทำแบบนี้)

• ฉากสะเทือนใจมากๆ สะเทือนใจจริงๆ ค่ายที่แข็งแกร่งอดทนที่สุดพังทลายเพราะอะไร...
o คำตอบ คือเพราะ “ไส้สึก เพราะคนทรยศขายชาติ เพราะคนที่สร้างกระพือความแตกร้าวจากภายใน...” แม้แต่ปืนใหญ่กระบอกเดียวที่มีก็ใช้ยิ่งสู้ไม่ได้... พระท่านสั่งห้ามแกะปืนใหญ่เพราะปืนนั้นแตกร้าว ท่านจึงสั่งห้ามเปิดจนกว่าจะถึงเวลากำหนดที่จะใช้ได้ แต่ก็ไม่ยอมฟังกัน หนุนกันผิด ยุยงส่งเสริมให้กระด้างกระเดื่องต่อกันเอง... จนที่สุดเปิดมายิงไปก็พังในฝ่ายตน ปืนใหญ่แตกเลยตายที่ฝ่ายตนเอง

• สรุป ค่ายบางระจันแตกเพราะความแตกร้าวจากภายในและไส้สึก การหันไปคบหาศัตรู การที่มีบางคนแตกแยกก่อนจากภายใน
o คนไทยเองที่แม้ยังรักแม่หญิงแห่งค่ายบางระจัน แต่ใจฝักใฝ่ความยิ่งใหญ่และรับใช้ข้าสึก... จนในที่สุด...ค่ายแตก ศัตรูทำลาย
o แม้จะกลับใจ อยากช่วยหญิงรักของตน แต่ก็ช้าไป ความร้าวลึกขายชาติเปิดใจให้ศัตรู เอาใจออกห่างจากพี่น้องของตน ก็เปิดทางให้ศัตรูจู่โจมจนพี่น้องร่วมค่าต้องตายเพราะค่ายแตก เพราะใจมันร้าว แตกแยกนั่นเอง...

• อยุธยาเราก็แตกมาสองครั้ง พม่าก็บุกเมืองอันแข็งแกร่งมาสองครั้งสองคราในประวัติศาสตร์ที่พ่อเรียน บ้านเกิดพ่อเอง อยุธยา เวลาพาใครๆไปเที่ยวก็เห็นแต่วัด เจดีย์ที่เหลือแต่ซากปรักหักพัง... สิ่งเดียวที่พ่อเล่าได้คือเราเคยรุ่งเรืองมาก ทองคำมากมายแห่งนามสุวรรณภูมิ แต่เราแตก แตกจริงๆ โอ อยุธยา มาอ่านประวัติศาสตร์ชาติเรานิดหนึ่งนะครับ

o การเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่หนึ่ง เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งระหว่างอาณาจักรพม่าและอาณาจักรอยุธยา อันเป็นผลมาจากความต้องการของพระเจ้าบุเรงนองซึ่งต้องการได้กรุงศรีอยุธยาเป็นประเทศราช และอาจถือได้ว่าเป็นผลสืบเนื่องมาจาก สงครามช้างเผือก ในปี พ.ศ. 2106 ที่ทรงตีกรุงศรีอยุธยาไม่สำเร็จ ความขัดแย้งภายในกรุงศรีอยุธยากลุ่มผู้ฝักใฝ่พม่า ได้นำไปสู่ความพินาศของกรุงศรีอยุธยาในที่สุด

o สงครามคราวเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง เป็นความขัดแย้งทางทหารครั้งที่สอง ระหว่างราชวงศ์อลองพญาแห่งพม่า กับราชวงศ์บ้านพลูหลวงแห่งสยามในสมัยอาณาจักรอยุธยา ในการทัพครั้งนี้ กรุงศรีอยุธยาซึ่งเป็นราชธานีสยามยาวนานเกือบสี่ศตวรรษได้เสียแก่พม่า และถึงกาลสิ้นสุดลงไปด้วย เหตุการณ์ได้เกิดขึ้นเมื่อวันอังคาร ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 5 ปีกุน ตรงกับวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2310 ในรัชกาลสมเด็จพระเจ้าเอกทัศแห่งอาณาจักรอยุธยา และพระเจ้ามังระแห่งอาณาจักรพม่า การเสียกรุงครั้งนี้ นอกจากจะส่งผลให้อาณาจักรอยุธยาล่มสลายลงแล้ว ตะนาวศรีตอนใต้ยังได้ตกเป็นของพม่าเป็นการถาวร และเกิดความขัดแย้งระหว่างกลุ่มการเมืองในระดับต่าง ๆ จนแทบนำไปสู่การล่มสลายของรัฐไทย

• สรุปว่า... การเสียกรุงศรีอยุธยาสองครั้ง และคราวค่ายบางระจันแตก... สรุปว่า.. เกิดมาจากความขัดแย้งแตกร้าวกันเองภายในทั้งสิ้นจริงๆ

• พี่น้องครับ ... คำสอนของพระเยซูเจ้าวันนี้ กับประสบการณ์ของชาติไทยเราสอดรับกันจริงๆ
o “ปีศาจสำคัญที่สุด เจ้าเบเอลเซบูลแท้จริง” คือ “ความแตกแยก ความแตกร้าว” แน่นอน....
o “อาณาจักรใดแตกแยกภายใน อาณาจักรนั้นย่อมพินาศ บ้านเรือนย่อมพังทลายทับกัน ถ้าซาตานแตกแยกกันเอง อาณาจักรของมันจะตั้งอยู่ได้อย่างไร”

• พี่น้องที่รักครับ... เราหันกลับมาไตร่ตรองกันจริงๆ นะครับ ครอบครัว สังคม ชุมชน วัด โรงเรียน หมู่คณะสงฆ์ นักบวช นักพรต... สังคมใดๆก็ตามถ้าแตกร้าวจากภายใน ขาดเอกภาพ และถ้ามีการแทรกแซงจากอำนาจ ทางกระแสโลก ความโลภ แล้วเราจะเหลืออะไร... “แตกครับ”
• บ้านเมืองเราหลายปีที่ผ่านมาในอดีตอันใกล้ก็เกือบล่มสลายจะแย่ แตกแยก แตกสี หนุนนำ ขับเคลื่อน กันจนบ้านเมือง ประชาชนไทยที่เคยรักกันกลับเกลียดกันจนแทบแย่... บ้านเดียวกันยังคุยกันไม่ได้ คุยเรื่องการเมืองไม่ได้ เปิดทีวีช่องต่างกันก็จะตีกันตาย...

• พ่อมีวิธีนำเสนอครับ...พระดำรัสของพระเยซู “ผู้ใดไม่อยู่กับเรา ย่อมเป็นปฏิปักษ์กับเรา ใครไม่รวบรวมสิ่งต่าง ๆ ไว้กับเรา ย่อมทำให้สิ่งเหล่านั้นกระจัดกระจายไป”
o สรุปว่า “อยู่กับพระเยซูด้วยกันทุกคนจริงๆให้ได้เลยนะครับ” ให้เราร่วมกันในพระเยซู ในศีล “มหาสนิท ในพระเยซู ในพระวาจาของพระเจ้า” ยิ่งเราใกล้พระองค์ เรายิ่งใกล้กัน
o ไม่น่าเชื่อนะครับ พี่น้องคริสตชนลูกๆ ที่รักของพระเจ้าบางคนพ่อไม่เคยรู้จักเป็นการส่วนตัวมาก่อน พ่อไม่เคยพบหน้ากันเลย แต่พวกเราสนิทกันมาก คุยกันบ่อยมากในเรื่องดีๆ ในพระคัมภีร์ในเรื่องพระวาจา... แม้แต่บนเฟสบุค การประกาศพระวาจา พ่อได้รู้จักและสนิทกับผู้คนแสนดีน่ารักเยอะมากๆ และพี่น้องหลายท่านก็ได้ช่วยเหลือบ้านเณรมาก ได้แบ่งปันด้วยความรักต่อกระแสเรียกมากด้วย แต่เราแทบไม่เคยพบหน้ากันเลย... เพียงเราศรัทธาในพระเยซู ในพระวาจา เราได้พบกันในพระองค์

• ดังนั้น พี่น้องครับ ในพระองค์ เราต้องไม่แตกกัน แต่ถ้าในวัดเดียวกัน ประกาศความเชื่อในพระองค์ด้วยกัน แต่ถ้าเราแตกแยกกัน ทะเลาะกัน มีการเมืองในระหว่างเรา... เสียกรุงแน่ๆ คือชุมชนศิษย์พระคริสต์หรือพระศาสนจักรก็เสียหายแน่ๆ

• ขอให้เราฟังพระวาจา และช่วยกันเสมอในการปัดกวาดบ้านชีวิตเราให้สะอาดเรียบร้อย และอย่าปล่อยให้ปีศาจร้าย ความเห็นแก่ตัว การบูชาตัวเอง กลับเข้ามายึดครองเราอีกเลยนะครับ