“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันศุกร์ที่ 28 กรกฎาคม 2017
สัปดาห์ที่ 16 เทศกาลธรรมดา
มธ 13:18-23…
18“ดังนั้น จงฟังความหมายของอุปมาเรื่องผู้หว่านเถิด 19เมื่อคนหนึ่งฟังพระวาจาเรื่องพระอาณาจักรและไม่เข้าใจ มารร้ายก็มาและถอนสิ่งที่หว่าน ลงในใจของเขาไปเสีย นั่นได้แก่ เมล็ดที่ตกริมทาง 20เมล็ดที่ตกบนหินคือผู้ฟังพระวาจาและมีความยินดีรับไว้ทันที 21แต่เขาไม่มีรากในตัว จึงไม่มั่นคง เมื่อเผชิญความยากลำบากหรือถูกเบียดเบียนเพราะพระวาจานั้น เขาก็ยอมแพ้ทันที

22เมล็ดที่ตกในพงหนามหมายถึงบุคคลที่ฟังพระวาจา แต่ความวุ่นวายในทางโลก ความลุ่มหลงในทรัพย์สมบัติ เข้ามาบดบังพระวาจาไว้ จึงไม่เกิดผล 23ส่วนเมล็ดที่หว่านลงในดินดี หมายถึงบุคคลที่ฟังพระวาจาและเข้าใจ จึงเกิดผลร้อยเท่าบ้าง หกสิบเท่าบ้าง สามสิบเท่าบ้าง”

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• อุปมาเรื่องผู้หว่าน... พ่อคิดถึงการหว่านพระวาจาของพระเจ้าจริงๆครับ การเปิดใจพระพระวาจาหรือเมล็ดพันธุ์แห่งพระอาณาจักรสวรรค์ ควรเป็นเช่นไร ดินมีหลายรูปแบบ ถนน ดินปนหิน ดีที่มีกอหนาม ดินดี พ่อก็ได้ยินคำอธิบายนี้มาตั้งแต่เด็กจริงๆ พ่อยอมรับว่าเราก็อธิบายกันมาโดยตลอด การเทศน์ก็เทศน์กันมากมีหลายหลาก แต่ก็มาจบลงที่เราต้องเป็นดินดี เรื่องผู้หว่านนี้พระเยซูเจ้าก็อธิบายด้วยพระองค์เองแล้วพ่อจะอธิบายอะไรต่อไปได้อีกเล่าหนอ

• พระองค์อธิบายคำอุปมาถึงเมล็ดที่ตกลงไปในที่ต่างๆ ชัดเจนว่าหมายถึงอะไร
o เมื่อคนหนึ่งฟังพระวาจาเรื่องพระอาณาจักรและไม่เข้าใจ มารร้ายก็มาและถอนสิ่งที่หว่าน ลงในใจของเขาไปเสีย นั่นได้แก่ เมล็ดที่ตกริมทาง
o เมล็ดที่ตกบนหินคือผู้ฟังพระวาจาและมีความยินดีรับไว้ทันที แต่เขาไม่มีรากในตัว จึงไม่มั่นคง เมื่อเผชิญความยากลำบากหรือถูกเบียดเบียนเพราะพระวาจานั้น เขาก็ยอมแพ้ทันที
o เมล็ดที่ตกในพงหนามหมายถึงบุคคลที่ฟังพระวาจา แต่ความวุ่นวายในทางโลก ความลุ่มหลงในทรัพย์สมบัติ เข้ามาบดบังพระวาจาไว้ จึงไม่เกิดผล
o ส่วนเมล็ดที่หว่านลงในดินดี หมายถึงบุคคลที่ฟังพระวาจาและเข้าใจ จึงเกิดผลร้อยเท่าบ้าง หกสิบเท่าบ้าง สามสิบเท่าบ้าง”

• พระเยซูเจ้าทรงอธิบายสภาพของการเปิดรับพระวาจาแห่งพระอาณาจักรหมดแล้ว แล้วพ่อจะอธิบายต่อได้อย่างไรเล่า จะอธิบายได้ดีกว่าพระองค์ได้อย่างไร เป็นไปไม่ได้แน่นอน... พ่อคิดว่า สิ่งที่พ่อทำได้คือ
o “พิจารณาตนเองว่า พ่อเป็นดินชนิดใด พ่อเปิดรับพระวาจาในชีวิตของพ่ออย่างไรกันเล่า”
o พี่น้องที่รัก วันนี้พ่อคิดว่า บทเทศน์ที่ดีที่สุดคือเทศน์ถึงความจริงของตัวเราต่อพระวาจาของพระเจ้าที่หว่านลงมาแล้วในชีวิตของเรา โดยทางพระวาจาขอพระเจ้า โดยทางศีลล้างบาปที่เราได้รับ โดยทางการรับพระวาจาแห่งพระอาณาจักรสวรรค์
o พ่อเอง พี่น้องเอง เราได้ตอบรับเมล็ดแห่งพระวาจาของพระเจ้ากันอย่างไรครับ
o พ่อต้องยอมรับตัวพ่อเองก่อนใคร พ่อเติบโตเพียงใดในพระวาจาของพระเจ้า พ่อตอบรับพระวาจาแห่งพระอาณาจักรสวรรค์เพียงใดกันหนอ แล้วถ้าพ่อเปิดรับพระวาจาแห่งพระอาณาจักรจริงๆ พ่อควรจะมีชีวิต มีบุคลิกอย่างไรหนอ สำหรับคนที่เป็น “ดินดี” พี่น้องที่รัก พี่น้องคิดว่า คนที่ได้รับพระวาจาแห่งพระอาณาจักรสวรรค์หรือ คนที่เป็น “ดินดี” ควรจะเป็นอย่างไร... นี่คือคำถามที่พ่อคิดว่าพ่อต้องตอบให้ได้ให้วันนี้จากการไตร่ตรองพระวาจา “เนื้อดินดี” จริงๆ แล้วก็ถ้าจะพาดพิงไปสักนิด “ดิน” ภาษาฮีบรู “อาดามาห์” รากของคำว่า “อาดัม” คือ “มนุษย์” ที่พระเจ้า สร้าง มนุษย์ดีๆ เนื้อดินดีแบบที่พระเจ้าทรงสร้างหรือทรงมีพระประสงค์นั้น ควรเป็นเช่นไรกันหนอ...

• พ่อจินตนาการ ถึง “ดินดี” “อาดัมดี” “คนดี” พ่อค่อยคิดจากพระวรสารเรื่องเล่านี้อุปมานี้พ่อพบว่า...

• “ดินดี คือดินที่ไม่ปะปนกับก้อนหินที่เมล็ดพันธุ์งอกไม่ได้”
o ก้อนหินที่ปะปนคือสิ่งที่แข็ง กระด้างเกินไป และถ้ามีมากเกินไป ชีวิตของพระเจ้า ชีวิตแห่งพระอาณาจักรสวรรค์ทีแสนดีและอ่อนโยน ความรักเมตตาที่มากที่สุดจะเติบโตในหัวที่แข็งกระด้างนั้นคงยากเต็มที แล้วอะไรคือดินที่ปนหิน...หินนั้นคืออะไร พี่น้องที่รัก พ่อคิดว่า มันปนๆกันแยกไม่ค่อยออก หินมันจมๆหมกตัวอยู่ในดิน หินมันหนักกว่าหรือแข็งกว่า มันจมอยู่ลึกในดินและทำให้ดินที่น่าจะดีกลายเป็นดินปนหิน ความดีแท้ไม่หยั่งรากลงไปได้ เพราะเจอความปะปน... ไม่ความดีแท้ไม่แข็งแรงจริง ไม่หยั่งรากจริง ทำให้ดินที่อยู่เดียงบางส่วนหรือเรียกว่า “ชีวิตผิวเผิน” หรือภาษาที่ปัจจุบันเขาเรียกว่า “เฟค” คือความผิวเผินไม่ใช่ของจริงที่หยั่งราก ไม่ยั่งยืน เปรียบเหมือนชีวิตเราคริสตชนที่ไม่หยั่งราก ผิวเผินเป็นกิจการกิจกรรมแต่เพียงภายนอก เป็นเรื่องหน้าตา... (อย่าว่าพ่อนะ การเมืองก็เป็นแบบนี้เยอะมาก ไม่เก่งเลยนักการเมืองทั้งระดับประเทศและท้องถิ่น จำนวนมากไม่เก่งเลย โง่ลึกๆ จมปลัก แต่น้ำหนักเสียงและวาจาพวกพรรคสนับสนุน)
o ชีวิตที่เฟค ปะปน กระด้างแต่มืออ่อน... ต้องออกหน้า แต่งกายดี มาเปิดงาน เป็นคนสำคัญ แต่ไม่ได้เก่งเลยหลายๆคน และไม่ดีเอามากๆ เจ้าพ่อ มาเฟีย จอมกินที่กินหินกินทราย ยิ่งกินหินเข้าไปอีก ดินดีแห่งชีวิต “ดิน อาดามาห์ คือ อาดัม คือ มนุษย์” เรียกว่าความเป็นมนุษย์แทบไม่เหลือ มีแต่ความรุนแรงแฝงลึก โถๆ กี่คนแล้วนักการเมืองใหญ่น้อย (ตัวพ่อตัวลูก) ที่ต้องวิ่งหนีไปหลบอยู่ตามตะเข็บชายแดน หรือรวยมากหน่อยก็บินรัดฟ้าไปบัญชาการความชั่วร้ายอยู่แดนไกล เฉี่ยวไปเฉี่ยวมาเหมือนก้อนหินบินว่อนเพื่อหวังร่อนลงจอดในดินดี มาปนเปและทำให้ ดินดี ดินที่มีพลังแห่งความดีต้องเปื้อหมองซ้ำแล้วซ้ำเล่า... โถๆๆๆ เจ้าหินร้ายแข็งกระด้างจนเมล็ดพันธุ์แห่งความดีหยั่งรากไม่ลงแล้ว... ชีวิตเราต้องขุดมันทิ้งแล้วข้วางไปไกลๆ(แผ่น)ดิน จะได้เกิดผลดีกันทั่วหน้าทั่วแผ่นดิน
o ดินดี ปนหิน ก็เกิดผลไม่ได้... หยั่งรากไม่ได้ ชีวิตสังคมเราต้องจัดการ เคลียร์คราดทิ้งก้อนหินเล็กๆใหญ่ แยกออก เอาไปหมกไว้ในปูนหรือถมทำฐานรากอย่าให้ได้เห็นหัวน่าจะมีประโยชน์
o พ่อหวังว่า ชีวิตสังคมพระศาสนจักรของเราก็จะไม่มีลักษณะเช่นดังกล่าว สภาอภิบาลวัด ชุมชนวัด สังคมสงฆ์ นักบวช และพวกเรากลุ่มองค์กรต่างๆของวัด... ต้องไม่ใช่เรื่องหน้าตา สังคม แต่เป็นเรื่องของคนดี ดินดีแท้ มีศรัทธา มนุษย์แท้ มารวมกันเพื่อร่วมแรงความดีแข็งขัน ไม่เฟค ไม่ปน ไม่ปลอมเช่นกัน

• ดินดีคือดีที่มีพลัง และมีโฆษณาตัวหนึ่งที่พ่อก็ดูแล้วก็เพลินดี “เราต้องเชื่อในดิน” พลังของแผ่นดิน เราต้องเชื่อ ต้องศรัทธาในชีวิตและความเป็นมนุษย์มากกว่าสิ่งใดๆ ดินคือมนุษย์ เพราะมนุษย์มากจากดิน (เทียบ ปฐก 2)

• อย่าปล่อยให้ต้นหนามขึ้นปกคลุมชีวิตเรา
o ความชั่วร้ายทั้งหายที่จ้องปกคลุมกลบลบความเป็นมนุษย์ของเรา อย่าปล่อยเด็ดขาดนะครับ ความมืดแห่งต้นหนามและกอหนาม เราต้องขจัดมันให้ถึงรากถอนรากถอนโคนเช่นกัน สิ่งเหล่านี้คืออะไรบ้าง พ่อคิดว่าเราทราบดี เราต้องช่วยกันมีมโนธรรมที่ดีและถูกต้องเพื่อทำลายสิ่งเหล่านี้ให้สิ้นซากไปให้จงได้นะครับ
o อย่าปล่อยให้หนามปกคลุมชีวิต จนชีวิตมีแต่หนามล้อม ทุกคนเข้าใกล้ไม่ได้ เจ็บทุกที พิษร้ายทิ่มแทงรอบข้าง ไม่เอาเช่นกัน... นามยอกอกคือความเจ็บปวด คำพูด ความคิด กิจการที่ทิ่มแทงทำร้ายกัน ไม่ดีจริงๆ ดินดีถูกกลบไว้หมด ขอให้เราคริสตชนช่วยกันเคลียร์ชีวิตใจกายกันสักทีนะครับ
o สำคัญมาก อย่ายอมแพ้ให้กับมัน อย่าให้อำนาจมืด ความชั่วร้าย เอาชนะเราเด็ดขาด รับรู้ และจัดการกับสิ่งที่เป็นเสี้ยนหนามของชีวิตคริสตชน สังคม ชุมชนวัด และครอบครัวของเรานะครับ... ระวังหน่อย จัดการกับมันเราก็เจ็บ แต่... จัดการขณะที่ต้นมันยังเล็ก หนามมันยังอ่อนนั้นง่ายมากครับ แต่ถ้าปล่อยให้มันโตจนเป็นกอหนาม หนามแหลมแข็งแรงและแหลมคม จะยากจริงๆนะครับ.... (เอาเป็นว่าถ้าจำเป็น...เผามันทั้งกอทิ้งเลยครับ ให้กอหนามไหม้เป็นถ่านกลายเป็นปุ๋ยให้ดินไปเลย ปล่อยไว้ไม่ได้จริงๆนะครับ หนามเสียดเสี้ยนแทงชีวิตและความดีของพระเจ้าในตัวเรา)
o หนามร้าย บางทีมันก็เกินจากภายใน ความหลง โลภ อยาก และก็สร้างหนามขึ้นมาจากภายใน เราก็ต้องเผาตัวเรา ร้อนหน่อยนะดินเอ๋ย มนุษย์เอ๋ย อาดัมเอ๋ย... แต่การเผา ทำลาย ก็จะทำให้ความสามารถในการงอกของกอหนามหมดไปได้ การตัดสละ ตัดใจ ตัดโลภ โกรธ หลง อยาก นั้นเจ็บปวดด้วยนะครับ แต่ได้ผลดีแน่นอน สำหรับดินแห่งชีวิตของเรา..

• นกที่คอยมาจิกกิน นกในหลายความหมายในพระคัมภีร์มีทั้งบวกและลบ แต่นกที่มาฉก มาจิกกิน มาล่าเหยื่อยก็ปล่อยไม่ได้ เราต้องไล่มันไปอย่าให้นกที่ล่าไล่ฉวยฉกเข้ามายุ่งแย่งรบกวนเมล็ดพันธุ์ดีแห่งชีวิตของเรานะครับ นกตัวนี้ นกเหล่านี้คืออะไร... เราต้องพิจารณามโนธรรมของเรา และจัดการปกปักษ์รักษาชีวิต ความรักของพระเจ้า ความเป็นคริสตชนของเราให้เติบโต และปลอดภัยครับ

• ครับ พระเยซูเจ้าตรัสเป็นอุปมาก สอนอธิบายเป็นอุปมา... นี่พ่อเขียนมาเรื่อยก็เป็นอุปมาชีวิตที่จะช่วยให้เข้าใจอุปมาของพระเยซูเพื่อชีวิตประจำวันของเราหรือเปล่าก็ไม่ทราบ... อุปมาไปอุปมัยตาม ชีวิตก็แบบนี้ หลายอย่างพูดตรงๆ ก็ลำบาก แต่จัดการเบื้องต้นเสียก่อน ให้ดินดี ชีวิตดี มนุษย์ดี... ศาสนา ความเชื่อก็จะเด่นชัดเกิดผลแน่นอน ร้อยเท่า หกสิบเท่า สามสิบเท่า ตามศักยภาพของดินและพระพรครับ

• ขอพระเจ้าอวยพรให้เราเป็นดินดี เป็นมนุษย์ที่แสนดีกันทุกคน...ครับ

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก