“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันพุธที่ 26 ตุลาคม 2016
สัปดาห์ที่ 30 เทศกาลธรรมดา
อฟ 6:1-9

1บุตรทั้งหลาย จงเชื่อฟังบิดามารดา ในองค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะการกระทำเช่นนี้ถูกต้อง 2“พระบัญญัติที่ว่า จงให้เกียรติบิดามารดา” เป็นพระบัญญัติแรกซึ่งมีพระสัญญาควบคู่อยู่ด้วยว่า 3“แล้วท่านจะอยู่บนแผ่นดินอย่างเป็นสุข และมีอายุยืน”


4บิดา อย่าย้ำสอนจนบุตรขุ่นเคือง แต่จงอบรมสั่งสอนและตักเตือนเขาตามหลักธรรมขององค์พระผู้เป็นเจ้า
5ทาส จงเชื่อฟังผู้ที่เป็นนายในโลกนี้ด้วยความเคารพยำเกรงจากใจจริง ประหนึ่งเชื่อฟังองค์พระคริสตเจ้า 6อย่าทำดีรับใช้ต่อหน้าเหมือนจะให้มนุษย์พอใจเท่านั้น แต่จงเป็นเสมือนทาสรับใช้พระคริสตเจ้า กระทำตามพระประสงค์ของพระเจ้าจากใจจริง 7จงรับใช้ด้วยความเต็มใจเหมือนกับรับใช้องค์พระผู้เป็นเจ้า มิใช่รับใช้มนุษย์ 8ท่านรู้อยู่แล้วว่าถ้าแต่ละคนทำดีไว้อย่างไร ก็จะได้รับค่าตอบแทนจากองค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่ว่าเขาจะเป็นทาสหรือเป็นอิสระก็ตาม
9เจ้านาย จงปฏิบัติต่อทาสเช่นเดียวกัน จงละเว้นการข่มขู่ต่าง ๆ ท่านย่อมรู้อยู่ว่า พระองค์ผู้ทรงเป็นนายทั้งของท่านและของเขานั้นสถิตอยู่ในสวรรค์และไม่ทรงลำเอียง

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• “ความอ่อนโยน ให้เกียรติ อ่อนน้อมเชื่อฟัง” ต้องเป็น..นิสัยถาวรของคริสตชน..

• “คริสตชนผู้อ่อนโยนอาจจะกล่าวได้ว่า เขามีเพียง “ความคิดเล็กๆ แต่มีจิตใจ หัวใจที่ยิ่งใหญ่..”
o ในชีวิตของพระศาสนจักรเรามีต้นแบบสำคัญที่สุดแบบเดียว ต้นแบบนั้น คือชีวิตของเรา คือต้นแบบแท้ๆของเราเสมอไปนั่นคือ “พระเยซู”
o พ่ออยากให้เราได้เห็นลักษณะของพระเยซูเป็นพิเศษในวันนี้หน่อยนะครับ “ความอ่อนโยน” เนื่องจากว่า พ่อคิดว่าสังคมปัจจุบันนั้นคนที่เป็นใหญ่เป็นโต คนที่มีอำนาจหรือที่เรียกว่าเป็นผู้จัดการ เป็นผู้บริหาร หรือเป็นคนที่มีอำนาจมักจะใช้อำนาจบังคับ มักจะใช้ความเป็นใหญ่ในการจัดการกับคนอื่น
o เราลองมาอ่านคำสอนของพระเยซูเจ้าบางประการ จะบันดาลใจเราให้เกิดพลังของการปฏิรูปชีวิตอย่างมากทีเดียว และพ่อขอเสนอให้อ่านบทวิเคราะห์ของพ่อในคำสอนของนักบุญเปาโลเรื่องความอ่อนโยนด้วย อ่อนโยนมาก ถ้าอ่านแล้วจะอ่อนโยนมากๆเลย ไม่เชื่อลองอ่านดูสิครับ ระยังอย่างเดียว อ่านจบแล้วจะอ่อนโยน ถ่อมตน น่ารัก โดยไม่รู้ตัวทีเดียว เพราะพระวาจาจะเปลี่ยนแปลงเรา....

คำสอนของพระเยซู
• คำสอนของพระองค์เรื่องความเป็นใหญ่... “พระเยซูเจ้าจึงทรงเรียกเขาทั้งหมดมาพบ ตรัสว่า “ท่านทั้งหลายย่อมรู้ว่า คนต่างชาติที่คิดว่าตนเป็นหัวหน้าย่อมเป็นเจ้านายเหนือผู้อื่น และผู้เป็นใหญ่ย่อมใช้อำนาจบังคับ แต่ท่านทั้งหลายไม่ควรเป็นเช่นนั้น ผู้ใดที่ปรารถนาจะเป็นใหญ่จะต้องทำตนเป็นผู้รับใช้ผู้อื่น และผู้ใดที่ปรารถนาจะเป็นคนที่หนึ่งในหมู่ท่าน ก็จะต้องทำตนเป็นผู้รับใช้ทุกคน เพราะบุตรแห่งมนุษย์มิได้มาเพื่อให้ผู้อื่นรับใช้ แต่มาเพื่อรับใช้ผู้อื่น และมอบชีวิตของตนเป็นสินไถ่เพื่อมวลมนุษย์” (มก 10:42-45)
o พ่อชอบประโยคนี้มากๆ “แต่ในพวกท่านไม่ควรเป็นเช่นนั้น...”
o วิถีทางของคริสตชนในการเป็นหัวหน้าต้อง “รักและรับใช้”

• คำสอนของพระเยซูเจ้าเรื่องความอ่อนโยนและถ่อมตน....พระเยซูเจ้าเองเน้นว่าพระองค์คือผู้มีใจอ่อนโยน ทั้งจากพระวาจาของพระองค์เองหรือเมื่อพระองค์ทรงอ้างถึงพันธสัญญาเดิมที่กล่าวถึงพระองค์
o มธ 11:29 จงรับแอกของเราแบกไว้ และมาเป็นศิษย์ของเรา เพราะเรามีใจสุภาพอ่อนโยนและถ่อมตน จิตใจของท่านจะได้รับการพักผ่อน
o มธ 21:5 จงบอกธิดาแห่งศิโยนว่า ดูซิ กษัตริย์ของท่านเสด็จมาพบท่าน มีพระทัยอ่อนโยน ประทับบนแม่ลา บนลูกลา สัตว์ใช้งาน

คำสอนของนักบุญเปาโล หลายแห่งในจดหมายของท่าน... ท่านซึ่งเคยเป็นคนร้ายกาจ เรียกว่าแข็งกร้าว.. แต่เมื่อได้พบพระคริสตเจ้า ท่านได้กลับใจและสอนให้เดินตามพระเยซู

• อฟ 4:1ff “1ข้าพเจ้าผู้ถูกจองจำเพราะองค์พระผู้เป็นเจ้า วอนขอท่านทั้งหลายให้ดำเนินชีวิตสมกับการที่ท่านได้รับเรียก 2จงถ่อมตนอยู่เสมอ จงมีความอ่อนโยน พากเพียรอดทนต่อกันด้วยความรัก 3พยายามรักษาเอกภาพแห่งพระจิตเจ้าด้วยสายสัมพันธ์แห่งสันติ 4มีกายเดียวและจิตเดียว ดังที่พระเจ้าทรงเรียกท่านให้มีความหวังประการเดียว 5มีองค์พระผู้เป็นเจ้าองค์เดียว ความเชื่อหนึ่งเดียว ศีลล้างบาปหนึ่งเดียว พระเจ้าหนึ่งเดียว 6ผู้ทรงเป็นพระบิดาของทุกคน พระองค์ทรงอยู่เหนือทุกคน ทรงกระทำการผ่านทุกคน และสถิตอยู่ในทุกคน”

• เพราะมีพระบิดาเดียวนี้เอง ดังนั้นเพื่อที่จะรักษาความเป็นหนึ่งเดียวนั้น เราทุกคนต้องการมากที่สุดคือ “จงถ่อมตนอยู่เสมอ จงมีความอ่อนโยน พากเพียรอดทนต่อกันด้วยความรัก” (อฟ 4:2)
o และคำสอนของเปาโลที่สอดคล้องกัน คือ “ท่านเป็นผู้ที่พระเจ้าทรงเลือกสรร เป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่รักของพระองค์ จงเห็นอกเห็นใจกัน จงมีความใจดี ความถ่อมตน ความอ่อนโยนและความพากเพียรอดทนเป็นเสมือนเครื่องประดับตน” (คส 3:12)
o เหตุผลสำคัญคือที่พวกเขาทุกคนถูกเรียกให้มาสู่ร่างกายเดียวกัน “ขอให้สันติสุขของพระคริสตเจ้าครอบครองดวงใจของท่าน พระเจ้าทรงเรียกท่านทั้งหลายให้รวมเป็นกายเดียวกันก็เพื่อจะได้บรรลุถึงสันติสุขนี้เอง จงระลึกถึงพระคุณนี้เถิด” (คส 3:15)

• เราเห็นว่าคำสอนของเปาโลนั้นเน้นสาระสำคัญที่ ความอ่อนโยนและความถ่อมตนเข้าด้วยกัน ซึ่งนักบุญมัทธิว 11:29 ก็ได้เน้นเช่นเดียวกัน

• ความอ่อนโยนหรือความถ่อมตน คือ
o “การละจากการยกตนเองขึ้น การโอ้อวด และความไม่จีรังของตนเอง” ไม่ยกตนเองขึ้นเหนือคนอื่นๆ ไม่รู้สึกว่าคนอื่นด้อยกว่าตนเอง แต่ด้วยความสุภาพถ่อมตนนั้นมักจะทำให้เรายกคนอื่นขึ้นสูงกว่าต้นเสมอด้วย “ทรงถ่อมพระองค์จนถึงกับทรงยอมรับแม้ความตาย เป็นความตายบนไม้กางเขน” (ฟป 2:8)
o ดังนั้น จำเป็นต้องเน้นการติดตามพระฉบับของพระคริสตเจ้าที่ถ่อมพระองค์ลงจนถึงที่สุด และนี่เองที่ทำให้เปาโลเน้นถึงเอกภาพของคริสตชนอีกครั้ง “ท่านจงทำให้ข้าพเจ้ามีความยินดีอย่างเต็มเปี่ยมโดยการเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน มีความรักแบบเดียวกัน มีความรู้สึกนึกคิดอย่างเดียวกัน” (ฟป 2:2)

• คนอ่อนโยนคือคนที่รู้จักควบคุมอารมณ์ความรู้สึกของตน เมื่อต้องเผชิญต่อความโกรธ สิ่งที่สำคัญมากคือความเพียรทนหรือความอดทนนาน ซึ่งทำให้เราเห็นภาพของชีวิตที่มีความหมายถึง คือ “มีความคิดที่เล็กๆ ตัดสินวิพากษ์น้อยๆ แต่มีจิตใจที่ยิ่งใหญ่”

• สถานการณ์ที่ชัดเจน คือ การช่วยแก้ไขความผิดหรือการขาดของบางคนนั้น สิ่งที่ต้องการมากอย่างยิ่งคือ “ความอ่อนโยน”
o เปาโลยืนยันที่จะต้องทำเช่นนี้อย่างเป็นรูปธรรม (1 คร 4:21 “ท่านต้องการอะไร ให้ข้าพเจ้ามาพบโดยถือไม้เรียว หรือมาพบด้วยความรักใคร่และมีจิตใจที่อ่อนโยน”) หรือ
o “ข้าพเจ้าเปาโลขอร้องท่านทั้งหลายด้วยความอ่อนโยน และด้วยพระทัยดีของพระคริสตเจ้า ข้าพเจ้าถูกกล่าวหาว่าถ่อมตนเมื่ออยู่ต่อหน้า แต่ใจกล้าเมื่ออยู่ห่างไกล” (2 คร 10:1)

• เปาโลพูดกับชาวโครินธ์ถึงการตักเตือนของท่าน สำหรับคนผิดพลาดที่นั่น ท่านเน้นว่าจะให้ท่านมาด้วยความอ่อนโยนในความรักหรือมาด้วยไม้เรียว ในที่นี้มีการชี้ให้เห็นการตรงข้ามกันของ
o ไม้เรียว และ
o ความอ่อนโยน

• ไม้เรียว เป็นสัญลักษณ์ถึงการลงโทษ ความรุนแรง และแข็งกร้าว

• ความอ่อนโยน นั้นตรงข้าม เพราะเป็นการแสดงออกซึ่งความรักและเป็นพระหรรษทานของพระจิตเจ้า

• ใน 2 คร 10:1ff เปาโลเน้นความสัมพันธ์ของท่านกับหมู่คณะที่โครินธ์ ดูเหมือนว่าสิ่งที่ต้องการอย่างยิ่งเพื่อให้เกิดเอกภาพคือ “พลัง” แห่งความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวที่จะลดความขัดแย้งและความรุนแรง

• เปาโลเน้นว่าจำเป็นต้องเดินความจำเป็นที่จะต้องก้าวเดินตามองค์พระจิตเจ้า “ถ้าเรามีชีวิตเดชะพระจิตเจ้าแล้ว เราจงดำเนินชีวิตตามพระจิตเจ้าด้วย อย่าอวดดียั่วยุผู้อื่น หรืออิจฉาริษยากันและกัน พี่น้องทั้งหลาย ถ้าท่านพบว่าใครคนหนึ่งทำผิด ท่านซึ่งมีพระจิตเจ้าเป็นผู้นำ จงตักเตือนแก้ไขเขาด้วยความอ่อนโยน จงระวังตัว ท่านอาจถูกทดลองด้วย” (กท 5:26-6:1)

• เปาโลเน้นให้เห็นธรรมชาติสองประการ ธรรมชาติของเนื้อหนัง และธรรมชาติของจิตที่ได้รับจากองค์พระจิตเจ้า โดยองค์พระจิตเจ้า คนที่อ่อนโยนจะสามารถมีสำนึก หรือมีมโนธรรมที่ตระหนักได้ถึงความอ่อนแอของตน ไม่ทำตนเองให้สูงส่งกว่าคนอื่น
o ดังนั้นเมื่อมีความจำเป็นต้องช่วยเหลือ ตักเตือนเพื่อนพี่น้องที่ผิดพลาดหรืออ่อนแอ คนอ่อนโยนจะสามารถแสดงคนเสมอภาคเป็นเพื่อน ตักเตือนกันฉันพี่น้องได้อย่างแท้จริง
o 2 ทธ 2:23-25 “จงหลีกเลี่ยงการโต้เถียงอย่างโง่เขลา โดยรู้ว่า สิ่งเหล่านั้นทำให้เกิดการวิวาท ผู้รับใช้ขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะต้องไม่วิวาทกัน แต่จะต้องอ่อนโยนต่อทุกคน รู้จักสอนและอดทน”
o การช่วยเหลือแก้ไขตักเตือนเพื่อนพี่น้องจะต้องกระทำด้วยความอ่อนโยน โดยพื้นฐานที่สำคัญที่สุดคือทุกคนต่างเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าและที่สำคัญทุกคนต่างมีความหวังในพระองค์อย่างแท้จริง

• ขอเพิ่มคำสอนของยากอบ......ภาคปฏิบัติที่ชัดเจนเราพบในจดหมายนักบุญยากอบ
o “พี่น้องที่รัก พึงตระหนักว่า ทุกคนจงฉับไวที่จะฟัง แต่ช้าที่จะพูด และช้าที่จะโกรธ คนที่โกรธย่อมไม่ปฏิบัติตนชอบธรรมตามพระประสงค์ของพระเจ้า ดังนั้น จงละทิ้งความโสมมทั้งหลาย และความชั่วร้ายที่ยังตกค้างอยู่ จงน้อมรับพระวาจาที่ทรงปลูกฝังไว้ในท่าน พระวาจานั้นช่วยวิญญาณท่านให้รอดพ้นได้” (ยก 1:19-21)
o ยากอบเน้นหนักมากในเรื่องความเป็นอิสระจากความโกรธ เพราะว่าในความโกรธนั้นทำให้ไม่เป็นอิสระจากความชั่วร้ายและความโสมมทั้งหลาย และหนทางที่จะสามารถเป็นเช่นนี้ได้อยู่ที่ การรับฟังพระวาจาของพระเจ้า ยอมให้พระวาจาของพระเจ้านั้นปลูกฝังในตนเอง

• ปรีชาญาณแท้คือความสามารถในการควบคุมตนเอง ปรีชาญาณแท้นั้นไม่ได้แสดงออกในคำพูดแต่แสดงออกในกิจการ ซึ่งกิจการนี้แหละคือคุณภาพของปรีชาญาณ และคุณภาพที่แสดงออกชัดที่สุดคือ “ความอ่อนโยน” และสิ่งที่ขาดไม่ได้โดยเด็ดขาดคือ “ความเมตตา” (Misericordia)

• ความอ่อนโยนคืออิสรภาพจากการใช้อารมณ์ สามารถแสดงออกซึ่งความมั่นคงในความรักและนี่คือสิ่งที่ต้องกลายเป็นบุคลิกของคนที่มีปรีชาญาณ

• พี่น้องที่รัก
o อ่านพระคัมภีร์วันนี้จะสรุปเอเฟซัสได้ดีครับ คำสอนเรื่องชีวิต “ความอ่อนโยน” ของทุกคนที่รัก ให้เกียรติ และอ่อนโยนต่อกัน
o พี่น้องครับ “อ่อนโยนนะครับ” อย่าดุหรือเกรี้ยวกาจเลยครับ เพราะจะไม่น่ารักเลย พวกเราเป็นคริสตชนต้องน่ารักต้องอ่อนโยนนะครับ.....

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก