“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันที่อังคาร 20 กันยายน 2016

สัปดาห์ที่ 25 เทศกาลธรรมดา

สภษ 21:1-6,10-13……………….
1พระทัยของกษัตริย์เป็นเหมือนธารน้ำในพระหัตถ์ของพระยาห์เวห์
พระเจ้าจะทรงผันไปทางไหนก็ได้ตามพระประสงค์


2มนุษย์เห็นว่ากิจการทั้งหมดของตนถูกต้อง
แต่ผู้ชั่งจิตใจคือพระยาห์เวห์
3การปฏิบัติความชอบธรรมและความยุติธรรม
เป็นที่โปรดปรานของพระยาห์เวห์มากกว่าการถวายเครื่องบูชา
4ดวงตายโส ใจเย่อหยิ่ง
เป็นเหมือนตะเกียง ของคนชั่วร้าย และเป็นบาป
5แผนงานของคนขยันนำความอุดมสมบูรณ์มาให้อย่างแน่นอน
แต่ความรีบเร่งเกินไปนำความขัดสนมาให้
6ทรัพย์สมบัติที่ได้มาจากการพูดมุสา
เป็นเหมือนความเพ้อฝันของผู้แสวงหาความตาย
10วิญญาณของคนชั่วร้ายปรารถนาความชั่ว
ดวงตาของเขาไม่มีความเมตตากรุณาต่อเพื่อนบ้าน
11เมื่อคนชอบเยาะเย้ยถูกลงโทษ คนขาดสติก็ฉลาดขึ้น
เมื่อผู้มีปรีชาได้รับการสั่งสอน เขาก็ได้ความรู้มากขึ้น
12พระเจ้าผู้ทรงเที่ยงธรรม ทรงสังเกตบ้านของคนชั่วร้าย
และทรงเหวี่ยงคนชั่วร้ายให้พินาศ
13ผู้ใดอุดหูไม่ฟังเสียงร้องของคนยากจน
เมื่อผู้นั้นร้องก็จะไม่มีผู้ใดฟังเขา

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง

ชีวิตทีมีปรีชาญาณ ต้องเป็นดังสุภาษิตแต่ละข้อที่เราได้ฟังในวันนี้ งดงามทุกข้อจริงๆครับ พ่อขอให้อรรถาธิบายเป็นข้อๆไปนะครับ... วันนี้มาแปลกเพราะเป็นวรรณกรรมปีชาญาณที่ชื่อหนังสือว่าสุภาษิต...

• พระทัยของกษัตริย์เป็นเหมือนธารน้ำในพระหัตถ์ของพระยาห์เวห์ พระเจ้าจะทรงผันไปทางไหนก็ได้ตามพระประสงค์ มนุษย์เห็นว่ากิจการทั้งหมดของตนถูกต้องแต่ผู้ชั่งจิตใจคือพระยาห์เวห์
o น้ำจากพระทัยของพระเจ้า หรือ พระพระประสงค์ของพระเจ้า คือ เป้าหมายและแรงจูงใจสูงสุดของมนุษย์
o มนุษย์มีหน้าที่กระทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า เราสวดภาวนาทุกวันไม่ใช่หรือว่า “พระประสงค์จงสำเร็จในแผ่นดินเหมือนในสวรรค์”
o พระประสงค์ของพระเจ้าคือที่ตั้งของการตัดสินใจและความมุ่งมั่นของเรา แม้แต่หัวใจของกษัตริย์ก็เป็นเหมือนธารน้ำที่พระเจ้าสามารถจัดให้ไหลไปทางใด
o พี่น้องที่รักครับ... พระคัมภีร์สุภาษิตตอนนี้เตือนเราว่า “ใจของเรามนุษย์ควรผันไปตามหัวใจยิ่งใหญ่และชอบธรรมของพระเจ้า”
o พระเจ้าคือผู้เป็นบ่อเกิดและจุดสูงสุดของชีวิตและกิจการของมนุษย์... ทำตามพระประสงค์ขอพระเจ้าคือสันติสุขแท้จริงเพราะพระเจ้าคือองค์ความจริงตลอดไป...
o สรุปว่า เรามนุษย์ไม่ควรทำตามใจตัวเองมากเกินไป คิดถึงพระประสงค์ของพระเจ้า ซึ่งก็คือความดี ความรักและความเมตตาไม่สิ้นสุดให้มากๆ บางทีเราโกรธกัน เกลียดกัน แม้ต่อในครอบครัว บางทีบุตรโกรธเกลียดบิดามารดา ไม่น่าเชื่อ ได้งัยเนี่ย แต่ก็ทำกันได้จริงๆ เบาๆกันหน่อยนะครับ พยายามกันหน่อย อย่าตามใจตัวเอง เอาแต่ใจตัวเอง เห็นแก่ตัวกันมากนักเลย...

• การปฏิบัติความชอบธรรมและความยุติธรรม เป็นที่โปรดปรานของพระยาห์เวห์มากกว่าการถวายเครื่องบูชา
o “ความชอบธรรมและความยุติธรรม” คือ “พระประสงค์ของพระเจ้า”
o มนุษย์จะถือว่าชอบธรรมแท้จริง ถ้าเรายึดพระประสงค์ของพระเจ้าเป็นที่ตั้ง เพราะพระองค์คือหลักศิลาแห่งความยุติธรรม พระองค์คือความเที่ยงธรรมของเราเสมอไป
o บ่อยครั้งมนุษย์ถือศาสนา เลือกถวายบูชา เลือกการทำบุญมากมาย แต่กิจการแท้จริงของเขานั้นยังคงอยุติธรรม คนช่างคอรัปชั่น นักการเมือง ข้าราชการ นักสังคม นักธุรกิจ แม้แต่ครูบาอาจารย์ ฯลฯ มากมายก็ฟอกตนเองด้วยการทำบุญให้ทานจากเศษเงินหรือซากหักพังของความฉ้อโกงจนร่ำรวย จากความคดโกงคอรัปชั่นหรือใช้อำนาจให้ได้มา... ถ้าเป็นแบบนั้น จะเรียกว่าชอบธรรมได้อย่างไร
o เออ....อาจเรียกได้เหมือนกันว่า “ผู้ชอบทำ (ไม่ใช่ชอบธรรมเพราะไม่มีธรรมะที่นั่น) แต่เป็นผู้ชอบทำความชั่วร้าย” เพียงแต่งฟอกตนด้วยกิจการศรัทธาทางศาสนา ถือศาสนาเพื่อฟอกตนให้ดูดีในสังคมกระนั้นหรือ
o บ่อยครั้ง...ไม่ใช่คนคอรัปชั่นโกงกินมากมายหรอกหรือที่จัดกิจกรรมกฐินผ้าป่า ทำบุญสร้างกุศลกันหน้าเลนส์หน้ากล้องทีวีและสื่อ...
o ดั้งนั้น สุภาษิตประโยคนี้ชัดเจน การปฏิบัติความชอบธรรมและความยุติธรรมต่างหากที่เป็นที่โปรดปรานของพระเจ้า

• ดวงตา-ยโส ใจเย่อหยิ่งเป็นเหมือนตะเกียง ของคนชั่วร้าย และเป็นบาป
o สุภาษิตข้อนี้แทบไม่ต้องอธิบายเลย ไม่ต้องให้ภาพอธิบายใดๆ ดวงตา หัวใจเกลียดชังและ ความร้อนของดวงตา ความอิจฉาจากหัวใจ เรื่องนี้คนไทยเรารู้จักดี คนชั่วร้ายมีลักษณะแบบนี้เสมอ แต่ตรงกันข้าม คนดี อ่อนโยนเสมอ คนดี มีหัวใจงดงามเสมอ

• แผนงานของคนขยันนำความอุดมสมบูรณ์มาให้อย่างแน่นอน แต่ความรีบเร่งเกินไปนำความขัดสนมาให้
o ความขยันหมั่นเพียรเท่านั้นที่มีค่าและนำความดี การไม่สุกเอาเผากิน นำความยั่งยืนมาให้แกชีวิต
o การมีใจร้อน เร่งรัด ไม่เห็นใจ ไม่รอคอย ยังแต่จะนำความวุ่นวานมาสู่ทุกคน คนอ่อนโยน มีความหมั่นเพียรและมีความหวังเสมอการรอคอย.... ให้โอกาสเสมอ
o พี่น้องที่รัก... ใจเย็นๆกันมากๆนะครับ ปัจจุบันโลกเรามันร้อนมาก คนใจร้อนมาก รถติดมาก การเงินติดขัดมาก ใจก็ติดขัดคาใจกันมากๆ ใจร้อนกันจังเลย... วีนๆๆๆ ปรี๊ดๆๆๆใส่กันจนเคยตัว... เห็นใจกันหน่อยนะครับ น่ารักกันมากๆ อดทน เพียรทนกันมากๆ อย่าใจร้อนนักเลย..
o ให้อภัยกันให้มากๆ ให้อภัยให้ได้ ใจจะมีความสุขมาก จะเก็บเกลียดเก็บชังฝังหุ่นกันไปทำไม... ให้อภัยใจสงบ คนฉลาด คนมีปรีชาญาณ ย่อมเรียนรู้จำให้อภัย รัก และเมตตาเสมอครับ...
o เราคริสตชนนะครับ อย่าทำเสียลักษณะของคริสตชนด้วยการไม่รู้จักควบคุมตนเองเลยนะครับ...

• ทรัพย์สมบัติที่ได้มาจากการพูดมุสา เป็นเหมือนความเพ้อฝันของผู้แสวงหาความตาย
o ข้อนี้มอบให้กับบรรดาคนที่เป็นนักฉ้อนักโกงทุกรูปแบบ คนรวยที่ได้มาจากความโกงและคอรัปชั่นควรถูกตำหนิและต้องรับโทษ อีกทั้งชดใช้ให้คนอื่นๆ ที่ถูกฉ้อโอกาสไปนะครับ
o บรรดาคน ครอบครัว พรรค พวก ที่ทำตัวชั้นสูงในสังคม คนการบ้านการเมืองที่ได้เคยคอรัปชั่นดูเหมือนรุ่งเรื่องเสมอ โกหก ปิดบังความจริง วาจากล่าวเท็จเพื่อผลประโยชน์ ดูเหมือนพวกเขารุ่งเรื่องเหลือเกิน มีหน้าตาในสังคม การเมือง หรือแม้บางทีศาสนาก็เอากับเขาไปด้วย
o ความร่ำรวยที่มาจากการโกงนั้นรุ่งโรจน์แต่อยู่บนความเท็จ จิตใจภายในไม่มีความสุขแท้ และเป็นหนทางสู่ความตาย การเยินยอสรรเสริญของผู้คนก็เป็นเพียงเติมความเพ้อฝันให้เขา เมื่อหมดอำนาจ ก็ตายจากแม้จากความทรงจำดีๆ เสียด้วยซ้ำ เหลือเพียงความทรงจำที่บอบช้ำและไร้คนสรรเสริญ

• วิญญาณของคนชั่วร้ายปรารถนาความชั่ว ดวงตาของเขาไม่มีความเมตตากรุณาต่อเพื่อนบ้าน
o ข้อความนี้จากสุภาษิตชัดไม่ต้องอธิบาย แต่ที่น่าคิดคือ คิดถึงไตร่ตรองถึงดวงตา เพราะดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจ คนชั่วจะไม่มีสายตาที่เมตตากรุณาได้เลย
o ตรงกันข้ามคนที่มีความรัก มีความชื่นชม ความสงบ ความอดทน จึงมีความเมตตาได้อย่างแท้จริง คนที่มีพระเจ้าเท่านั้น สามารถมีความเมตตาแท้จริงจากภายในสู่ภายนอก ไม่เสแสร้ง น้ำใสและใจจริงๆเท่านั้น ทำให้ดวงตาของคนที่มีพระเจ้า น่ารัก น่าชื่นชม และงดงามออกในสายตาครับ

• เมื่อคนชอบเยาะเย้ยถูกลงโทษ คนขาดสติก็ฉลาดขึ้น เมื่อผู้มีปรีชาได้รับการสั่งสอน เขาก็ได้ความรู้มากขึ้น
o สิ่งที่ต้องการแท้จริงก็คือ “ชีวิตที่มีปรีชาญาณ” รักความถูกต้องความยุติธรรมและดำเนินชีวิตในความยุติธรรมเสมอไป
o ถ้าฉลาดจริงๆ ต้องไม่โง่ในเรื่องโง่ๆเด็ดขาดใช่ไม่ครับ หรือแย่กว่า คือ คำที่คนเก่าเขาตำหนิกันบ่อยๆ พ่อก็เคยโดนครับ “ฉลาดแต่เรื่องโง่” โห โห โห แรงอ่ะ
o คริสตชนเราต้องฉลาดในเรื่องดีๆ เสมอ มีปรีชาญาณจริงๆในการเจริญชีวิตอย่างชาญฉลาดในเรื่องดีๆเสมอครับ

• พระเจ้าผู้ทรงเที่ยงธรรม ทรงสังเกตบ้านของคนชั่วร้ายและทรงเหวี่ยงคนชั่วร้ายให้พินาศ
o ความชั่วร้าย รังของคนชั่วร้าย กับพระเจ้าไม่สามารถจะไปกันได้
o เพราะพระเจ้าคือองค์ความดีไม่มีที่สิ้นสุด
o ความชั่วร้าย คนชั่วร้ายไม่สามารถคงอยู่ต่อพระพักตร์พระเจ้าตลอดไปได้เลย เวลาของพวกเขาคือกระแสลมที่ผ่านไป และไปสู่ความพินาศเพราะกิจการและชีวิตของเขาเอง

• ผู้ใดอุดหูไม่ฟังเสียงร้องของคนยากจน เมื่อผู้นั้นร้องก็จะไม่มีผู้ใดฟังเขา
o ดูเหมือนว่านี่คือมาตรการสูงสุดที่เริ่มจากที่ตกต่ำสุดในสังคม คือ การโน้มลงฟังเสียงร้องของคนยากจน ถ้าไม่ฟังเสีงของคนยากจนละก็จะไม่มีใครฟังเขาเช่นกันเมื่อเขาร้องทูน
o เรื่องนี้เราพบในพระวรสารโดยตลอด เรื่องความจำเป็นต้องให้ความเอาใจใส่ รักช่วยเหลือคนยากจน และอันที่จริงพระเยซูเจ้าตรัสชัดเจน “สิ่งที่ท่านทำกับพี่น้องผู้ต่ำต้อย... ท่านทำกับเราเอง”
o การอุดหูคือการตัดสินใจไม่ฟัง ทั้งๆ ที่ “ได้ยิน” ได้ยิน แต่ไม่ได้ฟัง นั่นคือประเด็น ชีวิตที่มีปรีชาญาณคือการตั้งใจฟังเสียงของพระเจ้า และเสียงของพี่น้องโดยเฉพาะผู้ยากไร้...

พี่น้องที่รักครับ.... อ่านพระคัมภีร์หนังสือสุภาษิตวันนี้แล้วจะมีความสุขกับวาทะแห่งปรีชาญาณ และจะหันหัวใจเรา หล่อหลอมใจเราให้รักพระเจ้า รักความจริง และรักเพื่อนพี่น้องอย่างแน่นอน ขอพระเจ้าอวยพรครับ

 

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก