“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันเสาร์ที่ 25 มิถุนายน 2016

สัปดาห์ที่ 12 เทศกาลธรรมดา

พคค 2:2,10-14,18-19
2องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำลายที่อาศัยทั้งหมดของยาโคบ โดยไร้เมตตา ทรงพังป้อมปราการของธิดาแห่งยูดาห์ ด้วยความกริ้ว ทรงกดให้ต่ำลงถึงพื้นดิน ทรงทำให้อาณาจักรและเจ้านายของเธอเป็นมลทิน 10บรรดาผู้อาวุโสของธิดาแห่งศิโยน นั่งเงียบอยู่บนพื้นดิน โปรยฝุ่นดินบนศีรษะ สวมผ้ากระสอบ สาวพรหมจารีแห่งกรุงเยรูซาเล็ม ก้มศีรษะมองพื้นดิน 11นัยน์ตาของข้าพเจ้าแดงก่ำเพราะร้องไห้ จิตใจวุ่นวาย กำลังก็ทรุดลง เพราะความพินาศของธิดาแห่งประชากรของข้าพเจ้า เพราะเด็กและทารกเป็นลมสลบอยู่ตามลานในเมือง

12เด็กเหล่านี้ถามมารดาของตนว่า “แม่จ๋า ข้าวและเหล้าองุ่นอยู่ที่ไหน” เขาทั้งหลายหมดแรงล้มลงในลานเมือง ดุจคนที่ถูกบาดเจ็บ เขาสิ้นใจในอ้อมกอดของมารดา 13ธิดาแห่งเยรูซาเล็มเอ๋ย ข้าพเจ้าจะนำสิ่งใดมาเปรียบกับเจ้า บอกว่าเจ้าเหมือนกับสิ่งใดได้ ธิดาพรหมจารีแห่งศิโยนเอ๋ย ข้าพเจ้าจะนำเจ้าไปเปรียบกับสิ่งใดเพื่อจะปลอบโยนเจ้าได้ เพราะหายนะของเจ้ายิ่งใหญ่เหมือนทะเล ผู้ใดเล่าจะรักษาเจ้าให้หายได้ 14นิมิตที่บรรดาประกาศกบอกเจ้าเป็นนิมิตที่หลอกลวงไร้สาระ เขาไม่ได้เปิดเผยความชั่วร้ายของเจ้า เพื่อเปลี่ยนชะตากรรมของเจ้า แต่เขาประกาศนิมิตที่ไร้สาระ และทำให้หลงผิด
18เชิงเทินของธิดาแห่งศิโยนเอ๋ย จงร้องทูลองค์พระผู้เป็นเจ้า จงหลั่งน้ำตาเหมือนลำธาร ทั้งวันทั้งคืน อย่าหยุดหย่อนเลย ดวงตาของเจ้าอย่าหยุดหลั่งน้ำตาเลย 19จงลุกขึ้นร้องตะโกนในเวลากลางคืน เมื่อผลัดเปลี่ยนยาม จงระบายความในใจของเจ้าออกมาราวกับสายน้ำ เฉพาะพระพักตร์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า จงชูมือขึ้นหาพระองค์ เพื่อขอชีวิตของบรรดาเด็กของเจ้าที่หิวจนเป็นลมสลบไปตามมุมถนนทุกแห่ง

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• หลังจากเยรูซาเล็มล่มสลายในปี 587 ก่อนคริสตกาล ประจักษ์พยานที่ได้เห็นความถ่อมตนของประชากรของพระเจ้า เขาได้เขียนวรรณกรรมสะท้อนอย่างรุนแรงในความรู้สึกถึงเยรูซาเล็มที่ต้องกลายเป็นซากปรักหักพังของก้อนหินมากมาย การแสดงออกของเพลงชุดนี้คือการคร่ำครวญจริงๆ

• คำถามสำคัญคืออะไรคือสาระของพระคัมภีร์พันธสัญญาเดิมเล่มเล็กๆนี้ที่ชื่อว่า “เพลงคร่ำครวญ”....

• มารู้จักกันจริงๆ ถึงหนังสือเพลงคร่ำครวญ ว่าหนังสือเล่มนี้มีสาระสำคัญคือ “ความเสียใจ คร่ำครวญและกระหายเหลือเกินที่จะกลับใจมาหาพระเจ้า” สิ่งเหล่านี้แสดงออกเป็นวรรณกรรมบทเพลงคร่ำครวญที่ละเอียดอ่อนลึกซึ้ง เพราะพวกเขาสำนึกจริงๆ ผิดจริงๆต่อพระเจ้า และคร่ำครวญจริงๆ สาระสำคัญคือ
o การยอมรับบาปและความผิดจริงๆ
o ความเสียใจอย่างสุดซึ้ง คร่ำครวญสำหรับความเจ็บปวดที่ได้รับ....และการยอมถ่อมตนยอมรับผิดอย่างสุภาพของนครสิโยน
o การยอมรับ ยอมรับจริงๆ ที่จะรับโทษที่พระเจ้าทรงเห็นสมควร ยอมแล้วพระเจ้าข้า...
o “ความเชื่อที่เข้มแข็งอีกครั้ง” เชื่อได้จริงๆ เพราะพวกเขาเชื่อใน “ความรักมั่นคงและความซื่อสัตย์ของยาห์เวห์” พระองค์ผู้เดียวเท่านั้นมีพลัง มีความสามารถที่จะรื้อฟื้น และสร้างนครนี้ขึ้นใหม่
o

• เพลงคร่ำครวญนี้ คือ อะไรจริงๆ น่ะหรือ อันที่จริงคือ “การยืนยันความเชื่อที่เข้มแข็งที่สุดในพลังแห่งพระเมตตาและพระยุติธรรมของพระเจ้า

• หัวใจหลักของเนื้อหา....คือ ความเศร้าเสียใจ...การแก้ไข....และการกลับใจ....
o ตอนที่พ่อชอบและอยากให้อ่านอย่างยิ่งคือ ข้อ พคค 2:15-16 อ่านดีๆสิครับจะเห็นว่านี่แหละคือเรื่องของความเจ็บปวดและความถ่อมตนของนครศิโยนจริงๆ อ่านตอนนี้สิครับ....เพราะเสียดายที่ไม่ได้มีปรากฏในบทมิสซา “15ทุกคนที่เดินผ่าน ก็ปรบมือเยาะเย้ยเจ้า เขาผิวปาก สั่นศีรษะเยาะเย้ยธิดาแห่งเยรูซาเล็ม พูดว่า “นี่หรือคือเมืองที่คนทั้งหลายเคยเรียกว่างามพร้อม เป็นความชื่นชมยินดีของทั่วแผ่นดิน” 16ศัตรูทุกคนของเจ้าอ้าปากยั่วโทสะเจ้า เขาผิวปากและยิงฟัน พูดว่า “พวกเราได้กินเธอแล้ว นี่เป็นวันที่เราได้รอคอย วันนี้ก็มาถึง เราได้เห็นแล้ว”

• ความรู้สึกลึกๆของประชากรของพระเจ้าคือพระเจ้าคือ “ความรักมั่นคงและความสัตย์จริง” แม้พวกเขาจะนอกลู่นอกทาง และออกห่างจากพระเจ้าแต่พระเจ้าทรงเป็นความมั่นคงและความสัตย์จริงของประชากรเสมอไป....

• เพลงคร่ำครวญทำให้เราเห็นความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าจริงๆ เป็นความยิ่งใหญ่ในความรักไม่เคยเปลี่ยนแปลง พ่ออยากจะขอยกสรุปสองตอนให้เห็นความจริง...ดังนี้ครับ
o “ทำไมมนุษย์จึงพร่ำบ่น เมื่อเขายังมีชีวิตอยู่แม้น่าจะถูกลงโทษเพราะได้ทำบาป พวกเราจงทดสอบและพิจารณาพฤติกรรมของเรา และจงกลับมาหาพระยาห์เวห์เถิด” (พคค 3:39-40) และ
o “แต่พระองค์ ข้าแต่พระยาห์เวห์ ทรงปกครองอยู่ตลอดไป พระบัลลังก์ของพระองค์ดำรงอยู่ทุกยุคทุกสมัย เหตุไฉนพระองค์จึงทรงลืมข้าพเจ้าทั้งหลายตลอดไป ทำไมจึงทรงทอดทิ้งข้าพเจ้าทั้งหลายเป็นเวลานาน ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดทรงช่วยข้าพเจ้าทั้งหลายให้กลับมาพบพระองค์ แล้วข้าพเจ้าทั้งหลายก็จะกลับมา โปรดทรงรื้อฟื้นวันเวลาของข้าพเจ้าทั้งหลายให้เป็นเหมือนเดิมเถิด” (พคค 15:19-21)

• บทสอนของเพลงคร่ำครวญไม่ได้อยู่ที่ความผิด หรือคำคร่ำครวญเท่านั้น แต่
o หัวใจสำคัญคือ “ความรักของพระเจ้าไม่เคยแปลเปลี่ยน และพระองค์คือพลังแห่งศรัทธาและความเชื่อของประชากรของพระองค์เสมอไป”

• ขอพระเจ้าและความรักมั่นคงของพระองค์สถิตอยู่กับทุกท่านเสมอไป...

 

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก