“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันพุธที่ 30 มีนาคม 2016
วันพุธในอัฐมวารปัสกา

ความหวังของคนพิการที่ทางขึ้นพระวิหารที่เยรูซาเล็ม เขาเป็นง่อยแต่กำเนิด... เขาเป็นคนขอทาน... สองสภาพที่ต้องการความช่วยเหลือ
1. ง่อยแต่กำเนิด เขาต้องการคนหามเขามาที่นี่ เขาไม่สามารถเดินได้
2. ขอทาน ความยากจนที่ต้องการคน “ให้” ไม่มีใครให้ เขาอดตายแน่นอน...

สภาพแบบนี้ สิ้นหวัง หมดกำลัง และไม่สามารถอีกต่อไป... หมดทางจริงๆ ถ้ามีพระเยซูผ่านมา เขาคงมีความหวัง แต่นี่พระองค์สิ้นพระชนม์แล้ว และกลับคืนชีพแล้วและเส็ดจสู่สวรรค์แล้วด้วย... พระองค์ไม่ได้มาเดินอยู่แถวพระวิหารอย่างที่เคย... หมดหวังกันพอดี...
แต่โชคดี โชคดีมากๆ เป็นบุญมากๆ ที่ “พระเยซู พระนามของพระองค์ อำนาจของพระองค์ ยังอยู่กับศิษย์ของพระองค์” ไม่ใช่อำนาจของเปโตรและยอห์น แต่เป็นเพราะ “พระนามของพระองค์” เปโตรเพียงช่วยพยุง แต่เขาลุกขึ้นเพราะ “พระนาม” (in the Name of Jesus Christ) โอพระเจ้า พระนามของพระองค์ทรงอำนาจเหลือเกิน... เราอ่านพระคัมภีร์วันนี้กันก่อนนะครับ

กจ 3:1-10…..
1วันหนึ่ง เวลาบ่ายสามโมง เปโตรและยอห์นกำลังขึ้นไปที่พระวิหารเพื่ออธิษฐานภาวนา 2ที่ประตูพระวิหารซึ่งเรียกกันว่า ”ประตูงาม” มีชายคนหนึ่งเป็นง่อยแต่กำเนิด มีผู้หามคนง่อยผู้นี้มาไว้ที่นั่นทุกวันเพื่อขอทานจากคนที่เข้าไปในพระวิหาร 3เมื่อเห็นเปโตรและยอห์นกำลังเดินเข้าพระวิหาร คนง่อยจึงขอทานจากเขาทั้งสอง 4เปโตรและยอห์นจ้องมองเขา กล่าวว่า “จงมองเรา” 5คนง่อยก็จ้องดูเขาทั้งสอง หวังว่าจะได้อะไรบ้าง 6เปโตรกล่าวว่า “ข้าพเจ้าไม่มีเงินไม่มีทอง แต่ข้าพเจ้ามีอะไรจะให้ท่าน เดชะพระนามของพระเยซูคริสตเจ้า ชาวนาซาเร็ธ จงเดินไปเถิด” 7แล้วเปโตรจับมือขวาของเขาช่วยพยุงให้ลุกขึ้น ทันใดนั้นเท้าและข้อเท้าของเขากลับมีกำลัง 8เขากระโดดขึ้นยืนและเริ่มเดิน แล้วจึงเข้าไปในพระวิหารพร้อมกับเปโตรและยอห์น เดินบ้าง กระโดดบ้าง พลางสรรเสริญพระเจ้า 9ประชาชนทั้งหลายเห็นเขาเดินและสรรเสริญพระเจ้า 10ก็จำได้ว่าเขาเป็นคนที่เคยนั่งขอทานอยู่ที่ประตูงามของพระวิหาร ต่างก็ตกตะลึงและประหลาดใจอย่างยิ่งในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแก่เขา


ข้อสังเกต

• สังเกตภาษาต้นฉบับและคำแปลเวลาที่ใช้พระนามของพระเยซูเจ้าดีๆสิครับ เป็นเพราะ “ในพระนาม” ของพระองค์จริงๆ

• พ่อพยายามใส่ภาษาที่หลากหลายสำหรับคนที่เลือกอ่านได้ ทั้งนี้เพราะการศึกษาพระคัมภีร์ การสำรวจคำแปลที่แตกต่าง มีประโยชน์มากจริงๆ เราจะได้เห็น เฉดสี Nuance ของคำแปล แต่แน่นอนภาษาที่ดีที่สุดคือ “ต้นฉบับกรีก” สำหรับพันธสัญญาใหม่
o คำแปลไทย ฉบับคาทอลิก: เดชะพระนามของพระเยซูคริสตเจ้า ชาวนาซาเร็ธ จงเดินไปเถิด”
o กรีกต้นฉบับ: εἶπεν δὲ Πέτρος, Ἀργύριον καὶ χρυςίον οὐχ ὑπάρχει μοι, ὃ δὲ ἔχω τοῦτό σοι δίδωμι· ἐν τῷ ὀνόματι Ἰησοῦ Χριστοῦ τοῦ Ναζωραίου [ἔγειρε καὶ] περιπάτει.

o อังกฤษ: But Peter said, “I have no silver and gold, but I give you what I have; in the name of Jesus Christ of Nazareth, walk.”

o ฝรังเศส: Pierre lui dit alors: «Je n’ai ni argent ni or, mais ce que j’ai, je te le donne: au nom de Jésus-Christ de Nazareth, lève-toi et marche!»

o เยอรมัน: Petrus aber sprach: Silber und Gold besitze ich nicht; was ich aber habe, das gebe ich dir: Im Namen Jesu Christi, des Nazoräers: Geh umher!

o อิตาเลียน: Ma Pietro gli disse: «Argento e oro io non ho, ma uell che possiedo te lo do: nel nome di Gesù Cristo, il Nazareno, cammina!».

o ลาติน: Petrus autem dixit argentum et aurum non est mihi quod autem habeo hoc tibi do in nomine Iesu Christi Nazareni surge et ambula

• คำแปลบางสำนวน เดินตามกรีกต้นฉบับที่มีคำในวงเล็บ “(ลุกขึ้น) เดินไปเถิด” เช่นภาษาลาติน ภาษาฝรั่งเศส แต่ส่วนใหญ่ จะเดินตามต้นฉบับ ที่ไม่มีคำว่า “ลุกขึ้น” มีคำสั่งเดียว “จงเดิน”
• คำสั่งในภาษากรีก ชัดมากๆ คำเดียวพอ περιπάτει รูป คือ
o กรียา
o คำสั่ง
o ปัจจุบันกาล สั่งเขาคนเดียวให้ เหมือนกับกล่าวห้วนๆ ว่า “เดิน”

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• “And now let the weak says I am strong let the poor says I am rich because of what the Lord has done for us.”
o “บัดนี้ให้คนอ่อนแอกล่าวว่า ข้าพเจ้าแข็งแรง ให้คนยากจนกล่าวว่า ฉันร่ำรวย เพราะสิ่งที่องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงกระทำเพื่อเรา....”

• วันนี้คิดถึงเนื้อเพลงนี้ครับ “ขอบคุณ หรือ Give Thanks” เพราะคิดถึงสิ่งที่พระเยซูเจ้าได้ทรงกระทำเพื่อเรา คือ “ทรงรับทรมาน สิ้นพระชนม์และกลับคืนพระชนมชีพเพื่อเรา”

• นี่คือ พระธรรมล้ำลึกแห่งปัสกา พระธรรมล้ำลึกแห่การพาเราผ่านข้ามจากความสิ้นหวังทุกประการ ความสิ้นหวังที่แย่ที่สุดคือความตาย... พระองค์รับเอาความตายเอง และทรงกลับคืนพระชนมชีพเพราะความรักต่อพระบิดาและต่อเรา ความรักและความเชื่อฟังของพระองค์คือพลังแห่งการนำชีวิตใหม่มาให้เรา นำการกลับคืนชีพมาให้เรา...

• ความนอบน้อมเชื่อฟังต่อพระประสงค์ของพระเจ้า ความรักที่รักพระบิดาจนหมดหัวใจและรักสงสารมนุษย์จนหมดหัวใจ คือ พระเยซูเจ้าที่ทำให้เราได้มีบุญรู้จักพระเจ้าองค์ความรัก Deus Caritas Est (เดอุส การีตาส แอสต์) “พระเจ้าเป็นความรัก”

• ดังนั้น เรื่องนี้ทำให้เรามั่นใจเหลือเกินว่า “ความรักทรงพลังเสมอ ความรักทำให้เราไม่มีวันสิ้นหวัง และความรักทำให้ความเชื่อของเราในพระองค์ “ความเชื่อในพระองค์” เป็นความจริงและมั่นคง....”
o เพราะความเชื่อนั้นเป็นจริงเฉพาะในความรักเท่านั้น
o ในความรักแท้เท่านั้นที่ความเชื่อจะมั่นคงและอยู่ในความจริง... และ
o ขยายหัวใจของเราออกไปสู่ความหวังและเป็นความหวังที่ไม่มีสิ้นสุด

• พระวาจาจากกิจการอัครสาวกวันนี้เราเห็น “พลังของความเชื่อและพระนามของพระเยซูเจ้า” เปโตรและยอห์น ขณะขึ้นไปพระวิหาร คนง่อยแต่กำเนิด
o เน้น “คนง่อยแต่กำเนิด” ไม่มีทางที่จะมีความหวังใดที่จะได้รับการฟื้นฟูหรือทำให้หายได้
o เขาเป็นขอทานที่หวังจะได้เงิน หวังจะได้ความรอดพ้นไปวันๆเท่านั้น...
o เขาเห็นเปโตรและยอห์น เขามีสายตาของความอยากที่จะได้รับความช่วยเหลือ...

• แต่เกินคาดกว่าที่เขาหวังจะได้รับเงิน เขากลับได้รับคำสั่งให้ “เดิน” ในพระนามพระเยซูคริสตเจ้าผู้ทรงกลับคืนชีพ.... เปโตรและยอห์นให้เขามองดูท่านทั้งสอง เขาไม่คิดว่าจะได้อะไรมากไปกว่าเงินที่จะได้รับ แต่เขาได้รับสิ่งที่ไม่มีใครให้ได้เลย... คือ “เดชะพระนามของพระเยซูเจ้า... ชาวนาซาเร็ธ จงลุกขึ้นและเดินไป...”
o สิ่งที่เราได้เรียนรู้หลังจากการกลับคืนพระชนม์ คือ พระนามของพระเยซูทรงพลังยิ่งกว่าสิ่งใดๆ ไม่มีความจำกัดอันใดจะขวางกันอำนาจของพระองค์ได้
o เพียงพระนามของพระองค์ก็เพียงพอและเหลือเฟือที่จะทำให้เขาได้ลุกขึ้น จากความง่อยแต่กำเนิด นี่ไม่ใช่การรักษา แต่เป็นการสร้างขึ้นใหม่ทีเดียว...

• นี่คือพลังของ “พระนามของพระเยซู” พ่อประทับใจจริงๆ เมื่อเราฉลองอัฐมวารปัสกา เราได้เห็นความจริงว่า พลังของพระเจ้าทรงอำนาจเหลือเกิน เต็มไปด้วยพลังเหลือเกิน เป็นพลังแห่งการสร้างขึ้นใหม่ จนพ่อมั่นใจว่า ถึงเวลาที่ปัสกาจะเกิดผลกับชีวิตของเราจริงๆ

• พี่น้องที่รัก พ่อมีความฝันจะเขียนออกมานิดหน่อย...อยากเห็น
1. อยากเห็นการสร้างขึ้นใหม่
2. อยากเห็นการฟื้นฟูที่แท้จริงกับเราคริสตชนจริงๆ
3. อยากเห็นผลของปัสกาของพระเยซูเจ้าที่จะได้บังเกิดขึ้นในหัวใจของเราจริงๆ
4. พ่ออยากเห็นพวกเรา อยากเห็นสังคมเรา ได้หายง่อยและหลุดจากการจนมุมไร้ทางออก หรือการที่ไม่มีทางเดินสำหรับคนดีคนชอบธรรมเสียที ไม่อยากเห็นคนไม่ดี คนโกง คนคอรัปชั่น คนที่เป็นทรราชในยุคใหม่อยู่เหนือและเอาเปรียบคนยากจน เอาเปรียบคนดีๆ จนต้องง่อยเงียบงันไร้ทางเดิน
5. อยากเห็นโลกของเราฟื้นจากความเป็นง่อย ที่งอมืองอเท้าที่ไม่ยอมเดินไปช่วยเหลือกอบกู้เพื่อนพี่น้องที่หิวโหย อดอยาก หรือไร้ที่อยู่อาศัย เจ็บป่วย หรืออาการใดๆที่ขาดความเป็นอิสระ
6. พ่อฝันอยากเห็นคริสตชนมีพลังแห่งการสร้างใหม่ พลังแห่งการเปลี่ยนแปลงสังคมและโลกจังเลยครับ
7. พ่อฝันอยากเห็นคนยากจน คนชายขอบสังคม สตรีและเด็กที่ถูกค้าขายชีวิต ได้รับอิสระและไม่เป็นทาสการค้าและเงินตราหรือต้องโดนมือเปื้อนเลือดของผู้ค้า หรือ ผู้ซื้อเอาเปรียบและกระทำ
8. พ่อฝันอยากเห็นเด็กลูกหลานไทย มีการศึกษาดี ทั่วถึงเพียงพอ ไม่ใช่แต่เพียงเอาหน้ากันไปเป็นสมัยๆเลือกตั้ง เช่นแทบเล็ตแจกเด็กแถมติดการกินโกงจากของแจกนั้นๆ พ่ออยากเห็นโรงเรียนที่เพียงพอให้เด็กๆได้มีครูดี การศึกษาดี เพราะงบประมาณส่วนใหญ่เทให้กับการศึกษาไม่ใช่พวกเครื่องจักรความเร็วสูงแบบที่สมอง และศีลธรรมของเรา หัวใจไม่ได้รับการหล่อเลี้ยงให้เติบโต...
9. พ่อฝันอยากเห็น “รัฐบาล สภาฯ ผู้แทน ผู้นำท้องถิ่น” ไม่โกง ไม่หงิกง่อยงมเงียบอยู่ในความโกงและทรัพย์สินที่ได้มาจากการฉ้อโกง อยากเห็นผู้นำที่ “ดีเหลือเกิน ฉลาดด้วย มีปัญญาจริงๆ เหมาะสมจริงๆ ที่สำคัญรักชาติบ้านเมือง มีศาสนาและจงรักภักดี” ได้เข้ามาเป็นผู้นำ... ไม่ใช่ได้มาด้วยอำนาจเชิดชูหรือเงินซื้อหรือเป็นลิ่วล้อ หลังจากที่ได้เช็ดล้อรถนายมานานเยี่ยงทาส ที่สุดก็ได้อำนาจเป็นผู้นำ เพื่อรักษาฐานรากของนาย หมดกันประเทศชาติบ้านเมือง
10. สุดท้าย พ่ออยากเห็นคนไทย คิด ทำ รัก และออกแรง เพื่อ “ความดีส่วนร่วม” (Common Good) คือ เลิกเห็นแก่ตัว ความเห็นแก่ตัวนี่แหละที่ทำให้คนเรา หงิก ง่อย งุ่มง่าม และโง่งงงันจมอยู่ในปลักโคลนตมของตนเอง... และโรคร้ายแบบนี้มักเป็นมาแต่เกิดมาในครอบครัวหรือเชื้อสายตระกูลที่ฉ้อฉลกันมาตลอด เลิกเห็นตัว และเห็นแก่ส่วนรวมเสมอเถิดครับ
11. พ่อฝันอยากเห็นโลกมีสันติภาพ หยุดความรุนแรง การฆ่าฟันอย่างทารุณและโหดร้าย การวางระเบิดทำร้ายผู้บริสุทธิ์อย่างที่กระทำอยู่ พ่ออยากให้ศาสนาและความเชื่อนำไปสู่ความจริงและความดี ไปสู่พระเจ้าพระบิดาและยืนยันว่าเราทุกคนเป็นพี่น้องกัน แบบที่พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงเรียกร้องจริงๆจังในวันล้างเท้า และทรงเรียกร้องเสมอ

• ฝันของพ่อจะเป็นจริงได้อย่างไร ฝันเยอะมาก และควรเป็นฝันของเราคริสตชนเพราะเราเชื่อในพระเยซูเจ้าครับ... และจะทำอย่างไร... ถ้าไม่ใช่เดชะพระนามของพระคริสตเจ้า เราก็ทำเครื่องหมายกางเขน “เดชะพระนาม...” กันบ่อยๆ

• แต่พ่ออยากให้เครื่องหมายนี้บ่งความจริงตัวเราออกมาว่า เราเทิดทูนพระเยซูผู้ทรงถูกตรึงบนไม้กางเขนและทรงกลับคืนพระชนมชีพด้วยความรัก และชีวิตคริสตชนของเราก็เข้มแข็ง แข็งแรงพอจะยืนขึ้นและกอบกู้กันและกันจริง....

• สังคมของเรา และโลกของเราป่วยหนักมาก
o ป่วยหนักเพราะสารอาหารที่มีเหลือเฟือแต่ไหลไปไม่ถึงมนุษย์ทุกคน ติดอยู่กับบางคน บางครอบครัว บางตระกูลมากจนเกินกินแต่ยังไม่พอและยังกักกัน
o การเงินที่ร่ำรวยเหลือเกิน แต่กระจายไปไม่ได้เพราะความรวยไปกระจุกอยู่ที่บางคน บางตระกูลจนล้นคอ และอ้วนอุ้ยอ้ายไปด้วยความร่ำรวยจนจะเดินจะไม่ไหว แต่อีกบางส่วนของร่างกายของโลกมนุษย์ของเราก็ผอมโซและยากไร้ซึ่งศักดิ์ศรีและคุณค่าของชีวิต...
o การเมืองซึ่งเป็นเสมือนมันสมองก็วุ่นวนวังวนเดินทางแต่ในความคิด แต่ไม่เคยเดินทางไปถึงหัวใจ หรือไปถึงก็ไม่ใช่ความคิดที่ถูกต้องแต่พิการและป่วยทางความคิด เต็มไปด้วยความเห็นแก่ตัว เอาแต่ได้ และเล่นพรรค เล่นพวก และทำลายชาติและความดีส่วนรวม

• พ่อคิดว่า เราต้องการการฟื้นฟูอย่างหนัก ต้องการการกลับคืนชีพจากความตาย โดยเฉพาะความตายด้านที่ไม่รู้หนาวรู้ร้อนกับชีวิตส่วนรวม หรือที่พระสันตะปาปาย้ำว่าการใช้ชีวิตแบบสีเทาคือไม่ชัดเจน...

• พ่อเชื่อว่าเราต้องการพระเยซู
1. เราต้องการพระนามของพระองค์
2. เราต้องการการประกาศพระนามของพระองค์ไปจนสุดปลายแผ่นดินจริงๆ
3. เราคริสตชนต้องกล้าประกาศพระนามของพระองค์ ด้วยวาจา และด้วยกิจการที่ประจักษ์พยานพระวาจาของพระเจ้า
4. เราต้องการฟื้นฟูด้วยพระวาจาและพระนามของพระองค์จริงๆ....

• เราคริสตชนครับ... เราต้องรู้จักพระเยซูอย่างลึกซึ้งจนประกาศพระองค์ได้อย่างมั่นใจ... ประกาศพระนามของพระองค์ได้อย่างมั่นใจที่สุดให้ได้ครับ....
• พ่อเชิญชวนนะครับ เพื่อทำให้เราเข็มแข็ง เพื่อทำให้ครอบครัว สังคมวัด บ้านเมือง และโลกของเราเข้มแข็ง
• เราต้องการ “การประกาศพระนามพระเจ้า” ด้วยวาจา และด้วยกิจการครับ...
• กิจการจำเป็นมาก แต่กิจการที่ขาดพระวาจาของพระเจ้านำทาง...ที่สุดจะไม่รู้จริงๆว่า เป็นงานสังคมสงเคราะห์หรือความเชื่อในพระเยซูที่เราทำสิ่งเหล่านี้
• พ่อยืนยันครับ
o รู้จักพระองค์ให้มาก
o อ่านพระคัมภีร์ให้มาก และ
o บอกเล่าเรื่องของพระองค์ให้มากที่สุด และ
o ทำทุกอย่างๆที่เราได้เล่าได้สอน ทั้งนี้เพื่อการันตีความเชื่อของเราครับ...
o ขอพระเจ้าอวยพร และให้เราประกาศพระนามของพระองค์ทุกวันนะครับ.... อัลเลลูยา อาแมน...

 

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก