“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันพฤหัสบดีที่ 17 มีนาคม 2016
สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต 

          พี่น้องที่รักครับ พระวาจาวันนี้พ่อคิดว่าเราต้องอ่านทั้งตอนนี้ครับ มากกว่าในมิสซาสักหน่อยนะครับ อ่านโดยที่พ่อจะแบ่งเลขข้อที่พ่อแบ่งออกเป็น 14 ข้อ พ่อจะจัดทั้งระบบออกมาเป็นข้อๆเพื่อให้อ่านและจะได้เห็นมหัศจรรย์ของพระวาจาครับ เพราะเราจะนับคำว่า “พันธสัญญา” ในบทที่ 17 ของหนังสือปฐมกาลได้ง่ายขึ้นขณะที่อ่าน พ่อตั้งใจแบ่งให้เห็นจำนวนครั้งของการใช้คำว่า “พันธสัญญา” ในบทนี้ที่พระเจ้าได้กระทำ “พันธสัญญา” กับอับราฮัมครับ

คำว่า “พันธสัญญา” ของพระเจ้าครบครัน เต็มเปี่ยม และต้องการเครื่องหมายติดกายตลอดชีวิตว่าเป็น “คู่สัญญา” ของพระเจ้า ค่อยๆอ่านไปและค่อยๆสังเกตตามที่พ่อแบ่งให้เพราะในพระคัมภีร์โดยเจตนาเราจะนับจำนวนคำว่า “พันธสัญญา” ดูนะครับ.... อ่านต่อเนื่อง เราจะพบความน่าอัศจรรย์ของพระวาจาตอนนี้ครับ

ปฐก 17 พ่อให้อ่านทั้งบทนะครับ

1เมื่ออับรามอายุเก้าสิบเก้าปี พระยาห์เวห์ทรงสำแดงพระองค์แก่เขา ตรัสว่า “เราคือพระเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพ” จงดำเนินชีวิตตามความประสงค์ของเรา และเป็นคนดีพร้อมเถิด 2เราจะทำ
1. พันธสัญญากับท่าน จะให้ท่านมีลูกหลานจำนวนมากยิ่งๆ ขึ้น” อับรามจึงกราบลงกับพื้นดิน พระเจ้าตรัสกับเขาว่า “นี่คือ
2. พันธสัญญาที่เราให้ไว้กับท่าน ท่านจะเป็นบิดาของชนชาติจำนวนมาก ท่านจะไม่ชื่อว่าอับรามอีกแล้ว ท่านจะมีชื่อใหม่ว่าอับราฮัม เพราะเราจะทำให้ท่านเป็นบิดาของชนชาติจำนวนมาก เราจะทำให้ท่านมีลูกหลานจำนวนมากยิ่ง ๆ ขึ้น จะให้ท่านเป็นชนหลายชาติ และกษัตริย์หลายองค์จะเกิดจากท่าน เราจะรักษา
3. พันธสัญญาของเราไว้กับท่าน และกับลูกหลานของท่านที่จะตามมารุ่นแล้วรุ่นเล่า เป็น
4. พันธสัญญาที่คงอยู่ตลอดไป เราจะเป็นพระเจ้าของท่าน และเป็นพระเจ้าของลูกหลานของท่านที่จะตามมา เราจะให้แผ่นดินที่ท่านอาศัยอยู่อย่างคนแปลกหน้าถิ่นนี้คือแผ่นดินคานาอันทั้งหมดแก่ท่านและแก่ลูกหลานที่จะตามมาภายหลังท่านเป็นกรรมสิทธิ์ตลอดไป และเราจะเป็นพระเจ้าของเขาทั้งหลาย” พระเจ้าตรัสกับอับราฮัมว่า “ท่านและลูกหลานของท่านที่จะตามมาทุกรุ่นจะต้องรักษา
5. พันธสัญญาของเราไว้ นี่คือ
6. พันธสัญญาของเรา ซึ่งท่านจะต้องรักษาไว้คือ
7. พันธสัญญากับท่านและกับลูกหลานของท่านที่จะตามมาภายหลัง ผู้ชายทุกคนจะต้องเข้า สุหนัต ท่านจะต้องขริบหนังหุ้มปลายองคชาต เป็นเครื่องหมายแห่ง
8. พันธสัญญาระหว่างเรากับท่าน เมื่อมีอายุแปดวัน เด็กชายทุกคน ทุกรุ่น รวมทั้งลูกทาสที่เกิดในบ้าน และทาสที่ซื้อมาจากคนต่างด้าวที่ไม่ใช่เชื้อสายของท่าน จะต้องเข้าสุหนัต ทุกคนต้องเข้าสุหนัตไม่ว่าจะเกิดในบ้านหรือซื้อมา ดังนั้น
9. พันธสัญญาของเราจะมีเครื่องหมายติดกายของท่าน เป็น
10. พันธสัญญาที่คงอยู่ตลอดไป ผู้ชายที่ไม่ได้เข้าสุหนัตคือไม่ได้ขริบหนังหุ้มปลายองคชาต จะถูกตัดออกจากชนชาติของตน เพราะเขาได้ละเมิด
11. พันธสัญญาของเรา” พระเจ้าตรัสกับอับราฮัมว่า “ส่วนนางซาราย ภรรยาของท่านนั้น ท่านอย่าเรียกนางว่าซารายอีก แต่จงเรียกว่าซาราห์ เราจะอวยพรนาง เราจะให้นางมีบุตรแก่ท่านด้วย เราจะอวยพรนางและนางจะเป็นมารดาของชนหลายชาติ กษัตริย์ของชนหลายชาติจะมาจากนาง” อับราฮัมกราบลงกับพื้นดิน หัวเราะ คิดในใจว่า “ชายชราอายุหนึ่งร้อยปีจะมีบุตรได้หรือ นางซาราห์อายุเก้าสิบปีแล้วจะคลอดบุตรได้หรือ” อับราฮัมทูลพระเจ้าว่า “ขอให้อิชมาเอลมีชีวิตอยู่เฉพาะพระพักตร์พระองค์เถิด” พระเจ้าตรัสว่า “ไม่ใช่ แต่นางซาราห์ ภรรยาของท่านจะคลอดบุตรชายคนหนึ่งให้ท่าน และท่านจะตั้งชื่อเขาว่าอิสอัค เราจะรักษา
12. พันธสัญญาที่เราได้ให้ไว้กับเขาและกับลูกหลานของเขาที่จะตามเขามา เป็น
13. พันธสัญญาที่คงอยู่ตลอดไป สำหรับอิชมาเอลนั้น เราฟังท่านแล้ว เราจะอวยพรเขา จะทำให้เขามีลูกหลานมาก เราจะทวีจำนวนเขายิ่ง ๆ ขึ้น เขาจะเป็นบิดาของเจ้าชายสิบสององค์ เราจะทำให้เขาเป็นชนชาติใหญ่ เราจะรักษา
14. พันธสัญญาไว้กับอิสอัค นางซาราห์จะคลอดอิสอัคให้แก่ท่านในปีหน้า เวลาเดียวกันนี้” เมื่อพระเจ้าตรัสกับ อับราฮัมแล้ว ก็เสด็จจากเขาไป
ในวันเดียวกันนั้น อับราฮัมจัดให้อิชมาเอลบุตรของตน และทาสทุกคนที่เกิดในบ้านหรือที่ซื้อมา คือชายทุกคนในบ้านของอับราฮัม เข้าสุหนัตขริบหนังหุ้มปลายองคชาต ตามที่พระเจ้าได้ทรงบัญชา อับราฮัมอายุเก้าสิบเก้าปีเมื่อเข้าสุหนัต และอิชมาเอลบุตรชายอายุสิบสามปี อับราฮัมและอิชมาเอล บุตรของเขา เข้าสุหนัตในวันเดียวกันทั้งสองคน ผู้ชายทุกคนในบ้านทั้งที่เกิดในบ้านและที่ซื้อมาจากคนต่างชาติ ได้เข้าสุหนัตพร้อมกับเขาด้วย
------------------------------------------

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
------------------------------------------

• “พันธสัญญา” ภาษาฮีบรู בְּרִית อ่านว่า berith แปลว่าพันธสัญญา หรือ ข้อตกลง และคำนี้คือคำสำคัญในพระคัมภีร์ในการทำพันธสัญญาระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ มนุษย์กับมนุษย์

• และในกรณีของพระคัมภีร์ “พันธสัญญา” คือหัวใจของความสำพันธ์ระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ (เทียบ ปฐก 15)

• เราได้อ่านพระคัมภีร์บทที่ 17 และถ้าเรานำจำนวนคำดังกล่าวข้างต้นดีๆ เราจะเห็นคำว่า “พันธสัญญา” ตามที่พ่อแบ่งเป็นข้อๆ เป็น 14 ข้อโดยเจตนา
o หมายความว่า คำว่า “พันธสัญญา” เราพบนั้น ต้องเป็นเจตนาของผู้นิพนธ์พระคัมภีร์ โดยกำหนดไว้เป็นจำนวน 14 ครั้ง คือคำว่า “Berith” ในภาษาฮีบรูต้นฉบับดังกล่าว
o และความพิเศษของจำนวนเลข 14 เลขจำนวนนี้เป็นเลขประจำตัวของชื่อของกษัตริย์ดาวิดตามพยัญชนะที่ใช้มีค่าเป็นตัวเลขในภาษาฮีบรู และเป็นที่ชัดแจ้งในภาษาของพระคัมภีร์ ตัวอักษร Dalet+Waw+Dalet (ดาเลท+วาว+ดาเลท) DWD (DaWiD) แต่ละตัวมีค่าเป็นตัวเลขจำนวน คือ D+W+D นั่นคือ 4+6+4 = 14
o ดังนั้นสำหรับอิสราเอล เลข 14 หมายถึง “พันธสัญญา” พันธสัญญาที่ให้ไว้กับกษัตริย์ดาวิด
o และเรื่องราวของอับราฮัมนี้ส่วนใหญ่ของเรื่องราวนี้ได้ถูกเขียนในที่เนรเทศ หรือในช่วงเวลาของการเนรเทศที่บาบิโลน ยามเนรเทศนั้นเป็นเวลาที่หลายสมัยของพันธสัญญาเดิมย้อนความให้ทุกคนคิดถึงคำสัญญาของพระเจ้า เพราะพวกเขาเจ็บปวดจากการเนรเทศ ดังนั้น พวกเขาจึงได้ คิดถึง “พันธสัญญา” คิดถึงพันธสัญญาที่พระยาห์เวห์ทรงประทานให้ไว้กับดาวิดและราชวงศ์ดาวิดเสมอไป โดยเฉพาะในยามที่ราชวงศ์ดูว่าจะสิ้นสลายและประชาชนต้องเป็นทาสเขา

• ดังนั้น จำนวนคำว่า “พันธสัญญา” คำนี้จึงปรากฏ 14 ครั้งอย่างเจาะจงในบทที่ 17 ของหนังสือปฐมกาล และผู้นิพนธ์พระคัมภีร์โดยการดลใจของพระจิตเจ้า จึงได้ตั้งใจอย่างแน่นอนที่จะให้มีคำว่า “พันธสัญญา” จำนวน 14 ครั้งตามที่เราได้อ่านนี้อย่างแน่นอนครับ ทั้งนี้เพื่อให้เห็นว่าคำสัญญาในอนาคต จำเป็นต้องเป็นความสำเร็จของคำสัญญาที่พระเจ้าได้ไว้ในพันธสัญญากับดาวิด กษัตริย์แห่งอิสราเอล และเป็นคำสัญญาถึงพระเมสสิยาห์

• ประเด็นสำคัญ การเข้าสุหนัต การเข้าสุหนัตนี้เป็นเครื่องหมายติดกายตลอดชีวิต
o พระเจ้าเรียกร้องให้มีเครื่องหมายติดกายของคู่สัญญาตลอดไปว่า นี่คือเครื่องหมายแห่งการเป็นคู่สัญญาของพระองค์ เป็นวิธีการที่เรียกร้อง “การตัด หรือ การขริบ”

• ที่แน่นอนการกระทำเช่นนี้หรือการขริบหนังเช่นนี้เป็นสิ่งที่ปฏิบัติกันอยู่ของคนในบริเวณนั้น ทั้งนี้เพื่อการรักษาความสะอาด ไม่ให้มีความสกปรกหมักหมม และเป็นเหตุที่มีอยู่แล้ว และสิ่งที่กระเช่นนี้แน่นอน มีรอยที่ติดร่างกายไปตลอดชีวิต...ผลคือ
o ต้องเจ็บปวด ต้องยอมสละยอมเจ็บเพื่อให้เกิดรอยของเครื่องหมายที่จะติดกายไปตลอดชีวิต แต่ขณะเดียวกัน
o การเข้าสุหนัตนี้เป็นเครื่องหมายของการยอมสละบางอย่าง ตัดบางสิ่งบางอย่างออกจากร่างกาย... และถ้าเราพิจารณาดีๆ เด็กๆผู้ชายหรือมนุษย์เรา สิ่งที่เราหวงแหน อวัยวะของร่างกายที่ทางศีลธรรม ทางชีวิต เราหวงแหนไม่อยากให้ยุ่ง คือ อวัยวะเพศของตน.. ดังนั้น การที่พระคัมภีร์หยิบยกการขริบเช่นนี้ ต้องถือว่าชาญฉลาด เพราะเป็นการยอมเสียสละ ยอมให้สิ่งที่หวงแหนและกระทำให้เป็นเครื่องหมายที่ติดกายแก้ไขไม่ได้ไปตลอดชีวิต
o พระเจ้าเรียกร้องเครื่องหมาย การเสียสละ ซึ่งเครื่องหมายหรือการเข้าสุหนัตนี้เป็นวิธีการปฏิบัติของคนตะวันออกกลางที่มีอยู่แล้ว ทั้งนี้เพื่อใช้เป็นเครื่องหมายติดกายตลอดไป พระเจ้าเรียกร้องให้ต้องมีการเสียสละ ยอมเจ็บ และยอมให้ติดชีวิต ติดสำนึกตลอดไปว่าอับราฮัมและลูกหลานคือ “คู่สัญญาของพระเจ้า”

• พี่น้องที่รักครับ พ่อเขียนสั้นๆ เพื่อไตร่ตรองพระวาจาของพระเจ้าจากหนังสือปฐมกาลบทที่ 17 ในวันนี้
1. เราเอง คริสตชนแต่ละคน ถ้าเราเป็นคู่สัญญากับพระเจ้าจริงๆ เรามีอะไรเป็นเครื่องหมายชัดเจน ติดกาย ติดเป็นนิสัย ติดเป็นชีวิตจิตใจ ทำให้เรารู้และเห็นได้ว่า เราเป็นคริสตชน เป็นบุตรของพระเจ้าครับ...
2. ชีวิตของเราคริสตชนนักบวชพระสงฆ์ เราได้ยอม “ตัด ขริบ หรือสละ” อะไรบ้างที่ทำให้เราได้เป็นคริสตชนจริงๆ ทำให้เห็นว่านี่คือเครื่องหมายชัดเจนว่าเราเป็นคนของพระเจ้า เราเป็นประชากรของพระเจ้าจริงๆ เป็นคริสตชนจริงๆ (ถ้าเป็นนักบวช คือ ศีลบน พรหมจรรย์ ความยากจน และความนอบน้อมเชื่อฟังตลอดไป)
3. สำหรับคริสตชน พ่อเชื่อว่า เราต้องมีการตัดใจ การตัดสละจากอะไร หรือสิ่งบางอย่าง ที่ทำให้เราโดดเด่นในการเป็นคริสตชน
4. พ่อคิดว่า การตัดใจจากบาป การตัดสละ ลด ละเลิก หลายสิ่งหลายอย่างที่เป็นอุปสรรคหรือขัดความรักและความดี การตัดสิ่งเหล่านี้น่าจะเป็นเครื่องหมายของการเป็นคริสตชนของเราได้อย่างดีนะครับ
5. ที่สุด พี่น้องที่รักครับ พ่อคิดว่า คุณธรรม ความรัก ความอ่อนโยน ความเมตตา น่าจะเป็นนิสัยถาวรติดชีวิตเราตลอดไปนะครับ
6. พระเจ้าเรียกร้องการเข้าสุหนัตในจิตใจ จิตใจที่เปิดออกเพื่อรักเสมอไป... ขอพระเจ้าอวยพร อ่านพระคัมภีร์และสังเกตจำนวน 14 ครั้งที่ปรากฏของคำว่า “พันธสัญญา” ที่พ่อเน้นและคัดออกมาให้ดูนะครับ
7. เลข 14 เป็นเลขของดาวิด และมีความหมายในชื่อ DaWiD อย่างที่พ่อเคยเน้นเสมอ... และที่สำคัญคำว่า “ดาวิด” แปลว่า “ที่รัก” พ่อจึงขอเสนอเครื่องหมายติดกายเราตลอดชีวิตขาดไปจากชีวิตคริสตชนไม่ได้ คือ “ความรัก” การดำเนินชีวิตในความรัก ในบัญญัติแห่ความรักเสมอไป “คริสตชน ถ้าไม่มีความรักเมตตา ไม่รัก แต่เกลียดชัง... เราไม่ใช่คริสตชนแน่นอน” ความรัก นั่นคือ เครื่องหมายติดกายเราตลอดไป เป็นพันธสัญญาแห่งความรักตลอดไปครับ ขอพระเจ้าอวยพรครับ....


เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก