“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันอังคารที่ 8 มีนาคม 2016
สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลมหาพรต 

           เริ่มที่กางเขนก่อน ก่อนจะอ่านเอเสเคียลต่อไป

ณ เวลานั้น ที่พระองค์สิ้นพระชนม์แล้ว พี่น้องเคยสังเกตจริงๆไหมว่า...ทำไมพระวรสารนักบุญ(เล่มเดียวในพระวรสารทั้งสี่) ยอห์นบันทึก ยอห์นฉบับเดียวเท่านั้น ที่ได้บันทึกว่า ทรหารได้ใช้หอกแทงสีข้างของพระองค์ และทันทีน้ำและพระโลหิตไหลออกมา


เรามาอ่านพระวาจาตอนที่แสนจะล้ำลึก ที่เราอ่านทุกวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ตอนนี้กัน เราอ่านต่อนนี้ทุกปีเลยครับ วันนี้มาเปิดพระธรรมล้ำลึกดุจเปิดแผลด้านข้างพระวรกายของพระเยซูเจ้ากัน...

• “31วันนั้นเป็นวันเตรียมฉลอง ชาวยิวไม่ต้องการให้ศพค้างอยู่บนไม้กางเขนในวันสับบาโต เพราะวันสับบาโตวันนั้นเป็นวันฉลองยิ่งใหญ่ เขาจึงขออนุญาตปีลาตให้ทุบขาผู้ที่ถูกตรึงและนำศพไป 32บรรดาทหารทุบขาคนทั้งสองคนซึ่งถูกตรึงพร้อมกับพระองค์ 33เมื่อทหารมาถึงพระเยซูเจ้าก็เห็น ว่าพระองค์สิ้นพระชนม์แล้ว จึงมิได้ทุบขาของพระองค์ 34แต่ทหารคนหนึ่งใช้หอกแทงด้านข้างพระวรกายของพระองค์ โลหิตและน้ำก็ไหลออกมาทันที 35ผู้ที่ได้เห็นก็เป็นพยาน คำพยานของเขาน่าเชื่อถือ เขารู้ว่าเขาพูดความจริง เพื่อท่านทั้งหลายจะเชื่อด้วย”

• อรรถาธิบายพระคัมภีร์ที่ยอห์นบันทึกตอนนี้เป็นพิเศษที่ว่า “ทหารคนหนึ่งใช้หอกแทงด้านข้างพระวรกายของพระองค์ โลหิตและน้ำก็ไหลออกมาทันที” พ่ออธิบายพระคัมภีร์นี้ พ่อได้ให้ความสำคัญกับการที่พระองค์ทรงถูกแทง
1. ยอห์นคิดอะไร
2. โลหิตและน้ำไหลออกมาแปลว่าอะไร
3. ทำไมมีแต่ยอห์นเท่านั้นที่ได้เน้นบันทึกพระวาจาตอนนี้...
4. อะไรอยู่ในความคิดของยอห์น อะไรคือเจตนาในใจยอห์นที่ได้บันทึกพระคัมภีร์ให้เราได้เห็นว่า จากบาดแผลนั้นที่ถูกแทง น้ำ โลหิต ที่ไหลออกมานั้น ยอห์นสื่ออะไรให้กับเรา

ครับ พี่น้องที่รัก อธิบายอย่างค่อยเป็นค่อยไปให้เห็นว่ายอห์นมีเจตนาพิเศษ และทำให้รู้ว่า พระเยซูเจ้าบนกางเขน การถูกตรึงและความตายถ่ายทอดแก่เราหลายอย่าง พ่อขอสรุปให้สั้นๆที่นี่ว่า นี่คือสัจธรรมบนไม้กางเขน

• บนไม้กางเขน คือ ความรักขอพระเจ้าพระบิดาที่ทรงรักเราที่สุดจึงมอบพระบุตรของพระเจ้าให้มาตายเพื่อเราเช่นนี้... พิจารณาความจริงประการนี้ดีๆ “พระเจ้าทรงรักโลกอย่างมากถึงกับมอบพระบุตรของพระองค์... “ (เทียบ ยน 3:16)

• บนไม้กางเขน คือบัลลังก์แห่งความรักของพระเยซูเจ้า คือ การครองราชย์ของพระมหากษัตริย์นิรันดร กษัตริย์ของชาวยิวและกษัตริย์ของมนุษยชาติ ผู้ทรงรักจนถึงกับมอบชีวิตของพระองค์ ทรงครองราชย์บนบัลลังก์แห่งนี้ มีข้อความเขียนว่า “INRI” เยซู ชาวนาซาเร็ธ กษัตรยิ์ ของชาวยิว (เทียบ ยน 19:19)

• บนไม้กางเขน เราได้พบกับความรักของพระองค์ ทรงรักเรา เมื่อได้เชื่อ ได้มองดูพระองค์ เราจะได้รับความรอดนิรันดรจากความตาย (เทียบ ยน 19:37)
คำถามที่ตามมาสำหรับยอห์น
1. แล้วทำไมทหารต้องใช้หองแทงที่สีข้าง???
2. ทำไมต้องเปิดสีข้างด้วยเล่า???
3. ทำไมต้องเน้นให้เห็นว่า โลหิต น้ำไหลออกมาทันที

คำตอบ ที่พ่อพอจะอธิบายให้เข้าใจได้... ต้องอ้างยอห์นบางประเด็นครับ
1. พระวรสารโดยนักบุญยอห์นเน้นว่า “พระเยซู คือ น้ำทรงชีวิต” ใช่แล้วเราเห็นชัดจาก ยน 4 พระเยซูเจ้ากับหญิงชาวสะมาเรีย... “พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “ทุกคนที่ดื่มน้ำนี้ จะกระหายอีก แต่ผู้ที่ดื่มน้ำซึ่งเราจะให้นั้น จะไม่กระหายอีก น้ำที่เราจะให้เขาจะกลายเป็นธารน้ำในตัวเขา ไหลรินเพื่อชีวิตนิรันดร” หญิงนั้นจึงทูลว่า “นายเจ้าขา โปรดให้น้ำนั้นแก่ดิฉันบ้าง เพื่อดิฉันจะไม่ต้องกระหายหรือต้องมาตักน้ำที่นี่อีก” (ยน 4:13-15)

2. พระวรสารโดยนักบุญยอห์นได้เน้นว่า “พระเยซูเจ้าคือลูกแกะปัสกา” เมื่อยอห์นบัปติสได้ชี้แสดงพระองค์ ““นี่คือลูกแกะของพระเจ้า ผู้ทรงลบล้างบาปของโลก ซึ่งประเด็นนี้สำคัญ ““ลูกแกะของพระเจ้า” เป็นสัญลักษณ์สำคัญมากประการหนึ่งที่ยอห์นใช้กับพระคริสตเจ้า (เทียบ วว 5:6,12; ฯลฯ) “ลูกแกะของพระเจ้า” นี้รวมความคิด 2 ประการด้วยกัน คือ
a. ความคิดเรื่อง “ผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์” (อสย 53) ซึ่งรับเอาบาปของมนุษย์ทั้งหลายมาแบกไว้ และถวายตนเป็น “ลูกแกะเพื่อชดเชยบาป” (ลนต 14) และ
b. ความคิดเรื่อง “ลูกแกะปัสกา” (อพย 12:1 ดู ยน 19:36 ด้วย) ซึ่งชาวยิวกินในพิธีระลึกถึงการกอบกู้ชาติอิสราเอล เทียบ กจ 8:31-35; 1 คร 5:7; 1 ปต 1:18-20

3. พระวรสารโดยนักบุญยอห์นได้เน้นว่า พระเยซูคือ “พระวิหารของพระเจ้า” จากข้อความพระคัมภีร์ “พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “จงทำลายพระวิหารนี้ แล้วเราจะสร้างขึ้นใหม่ภายในสามวัน” ชาวยิวพูดว่า “วิหารหลังนี้ต้องใช้เวลาสร้างถึงสี่สิบหกปี แล้วท่านจะสร้างขึ้นใหม่ในสามวันหรือ” แต่พระองค์กำลังตรัสถึงพระวิหารซึ่งหมายถึงพระกายของพระองค์ ดังนั้นเมื่อพระองค์ทรงกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตายแล้ว บรรดาศิษย์จึงระลึกได้ว่าพระองค์ตรัสไว้ดังนี้ เขาจึงเชื่อทั้งพระคัมภีร์และพระวาจาที่พระองค์ตรัสไว้” (ยน 2:19-22)
เมื่อนำคำตอบทั้งหมดที่ค้นบางส่วนจากยอหน์มาบรรจบกัน และศึกษาเข้าใจเจตนาของยอห์น พ่อพบคำตอบ...
o พระเยซูคือน้ำทรงชีวิต
o พระองค์คือลูกแกะของพระเจ้าที่ต้องหลั่งเลือดเพื่อชดเชยบาปของโลก
o ที่สำคัญมากๆกับเรื่องการที่ต้องเปิดแผลข้างพระวรกายด้วยหอก เพราะพระวรกายของพระองค์คือ “พระวิหาร”

ที่สุด นั่นคือเหตุผลที่ทรงสิ้นพระชนม์บนกางเขน และยอห์นบันทึกชัดเจนว่า ทหารให้หอกแทงข้างด้านข้างพระวรกาย เน้นว่า “ด้านข้าง” สีข้างของพระองค์ เวลาที่สอนพ่อถามว่ารู้ไหมว่า ทหารใช้หอกแทงพระองค์สีข้างข้างขาวหรือข้างซ้าย... ครับ งง ครับ ไม่มีใครทราบ เพราะพระคัมภีร์ยอห์นไม่ได้บอกไว้ว่าข้างไหน... แต่ แต่ แต่ ถ้าพระองค์คือ น้ำทรงชีวิต คือลูกแกะผู้ถูกประหาร และคือพระวิหารของพระเจ้า เน้น “พระวิหารของพระเจ้า”
---------------------------------------


มาถึงพระวาจาเอเสเคียลวันนี้ เราเข้าใจทันทีครับ.. เมื่อเราอ่านพระคัมภีร์วันนี้จากเอเสเคียล... ไม่น่าเชื่อ แต่ต้องเชื่อครับ อ่านเลยและจะเข้าใจครับ บทอ่านประจำวันนี้จะเข้าใจง่ายขึ้นมาก และพระวรสารยอห์นก็จะเจ้าใจได้ง่ายขึ้นมาก เมื่ออ่านเอเสเคียลครับ... อ่านเลย พ่อจะทำเป็นจุดๆให้อ่านง่ายครับ

อสค 47:1-9,12….
• 1เขานำข้าพเจ้ากลับมาที่ประตูพระวิหาร
• ข้าพเจ้าเห็นน้ำไหลออกมาจากใต้ธรณีประตูพระวิหารด้านตะวันออก เพราะพระวิหารหันหน้าไปทางทิศตะวันออก
• น้ำนี้ไหลลงมาจากใต้ด้านขวาของพระวิหาร ทางทิศใต้ของพระแท่นบูชา
• 2เขานำข้าพเจ้าออกไปทางประตูด้านเหนือ และพาข้าพเจ้าอ้อมภายนอกจนถึงประตูชั้นนอกซึ่งหันหน้าไปทางทิศตะวันออก
• ข้าพเจ้าเห็นว่าน้ำนี้ไหลออกมาทางด้านขวา
• 3ชายผู้นั้นเดินออกไปทางตะวันออก ถือเชือกวัดและวัดระยะทางหนึ่งพันศอก เขานำข้าพเจ้าลุยน้ำข้ามไป น้ำลึกเพียงตาตุ่ม
• 4เขาวัดระยะทางอีกหนึ่งพันศอกแล้วนำข้าพเจ้าลุยน้ำข้ามไป น้ำลึกถึงเข่า เขาวัดระยะทางอีกหนึ่งพันศอกแล้วนำข้าพเจ้าลุยน้ำข้ามไป น้ำนั้นลึกถึงบั้นเอว
• 5เขาวัดระยะทางอีกหนึ่งพันศอก บัดนี้เป็นแม่น้ำที่ข้าพเจ้าลุยข้ามไม่ได้ เพราะน้ำสูงขึ้นเป็นน้ำที่ต้องว่ายข้าม เป็นแม่น้ำที่ลุยข้ามไม่ได้
• เขาถามข้าพเจ้าว่า “บุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย ท่านเห็นไหม” เขาจึงนำข้าพเจ้ากลับมาที่ฝั่งแม่น้ำ 7เมื่อข้าพเจ้ากลับมาแล้ว ข้าพเจ้าก็เห็นต้นไม้จำนวนมากบนฝั่งแม่น้ำทั้งสองฟาก
• 8เขาบอกข้าพเจ้าว่า “น้ำนี้ไหลไปทางทิศตะวันออก ลงไปถึงลุ่มแม่น้ำจอร์แดน เข้าไปในทะเล
o เมื่อไหลเข้าไปในทะเล ก็ทำให้น้ำทะเลจืด
o 9แม่น้ำนี้ไปถึงที่ใด สิ่งมีชีวิตที่เคลื่อนไหวในนั้นก็จะมีชีวิต จะมีปลาจำนวนมาก เพราะน้ำนี้ไหลไปถึงที่ใด น้ำทะเลก็จืด
o แม่น้ำไหลไปถึงที่ใด ทุกสิ่งก็มีชีวิต
o 12ตามฝั่งทั้งสองฟากของแม่น้ำต้นไม้ผลทุกชนิดจะเจริญเติบโต
o ใบของมันจะไม่เหี่ยวแห้ง และผลของมันจะไม่วาย แต่จะเกิดผลใหม่ทุกเดือน
o เพราะว่าน้ำที่หล่อเลี้ยงต้นไม้เหล่านี้ไหลมาจากสักการสถาน
o ผลของต้นไม้เหล่านี้ใช้เป็นอาหาร และใบก็ใช้เป็นยารักษาโรค”
-------------------------------

อรรถาธิบายประเด็นสำคัญ

• พ่ออ่านไป พ่อคิดถึงพระสีข้างของพระเยซูเจ้าบนกางเขนเลยครับ... พี่น้องเห็นด้วยไหมครับ พระองค์คือพระวิหารของพระเจ้า ความตายของพระองค์คือชีวิตของมนุษย์ทุกคนตลอดไป

• พ่อคิดถึงเพลงเพราะๆเพลงหนึ่งวัดของเราครับ “เชิญมาตักตวงความรักจากธารชีวิต ลำธารศักดิ์สิทธิ์มีอิทธิฤทธิ์เหลือคณา ลำธารแห่งนี้มีน้ำแห่งความเมตตา ไหลหลั่งลงมาพาใจชื่นชม.... ลำธารสดใสรินไหลจากองค์ทรงฤทธิ์ บันดาลชีวิตให้สุขสดศรีรื่นรมย์”

• วันนี้พ่ออยากให้ทุกท่านได้หลับตาและจินตนาการภาพนิมิตจากประกาศเอเสเคียล... เทียบเคียงกับรอยแผลที่ถูกเปิดที่สีข้าง (น่าจะเป็นด้านขวา) ของพระเยซู “พระวิหาร ลูกแกะปัสกา และองค์น้ำทรงชีวิต”

• ธารน้ำที่ไหลออกมาจากประตูพระวิหาร จากใต้ธรณีประตูพระวิหารด้านตะวันออก... ทิศทางที่หันไปหาพระเจ้า ทางตะวันออก...

• พ่อได้เห็นภาพของความอุดมสมบูรณ์ ธารน้ำคือเครื่องหมายของความอุดมที่มาจากพระเจ้า น้ำจากพระวิหารยิ่งไหลไกลออกไปยิ่งลึกมากขึ้น ลึกมากขึ้น

• การวัดเป็นเครื่องหมายให้เห็นว่า ธารน้ำนี้ไหลไปไกลและลึกมากขึ้นจนกระทั่งไม่สามารถจะลุยน้ำต่อไปได้

• เพราะนี่คือเครื่องหมายของลำธารแห่งความรักของพระเจ้า ลำธารแห่งพระพรของพระเจ้า จากพระวิหารของพระเจ้า ไหลไปไม่มีที่สิ้นสุด....

• พ่อคิดว่าเมื่อเราเข้าไปในวัด พระนิเวศน์ของพระเจ้า เราเข้าไปใกล้พระเจ้าทุกครั้งที่เราเข้าไปหาพระองค์ พระองค์คือน้ำทรงชีวิต... น้ำแห่งความรักและความดีเหลือเกิน พระเจ้าทรงความดีเหลือเกิน เมื่อเราได้เข้าไปสัมผัสพระองค์ชีวิตของเราคริสตชน

• ทันทีเมื่อก้าวออกจากวัดไปทุกๆ ครั้งนั้นชีวิตของเราคริสตชนควรจะเป็นอย่างไรในโลก
o เป็นเกลือดองแผ่นดินและเป็นแสงสว่างส่องโลก...
o พ่อคิดว่าชีวิตของเราต้องออกไปในโลก ในสังคม ด้วยคุณภาพของพระเจ้า ด้วยพระพรของพระเจ้า ความความรักและชีวิตของพระเจ้าจริงๆนะครับ
o เมื่อเราไปร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณ เมื่อเราได้เข้าไปในโบสถ์ร่วมกันพี่น้องคริสตชนที่มาชุมนุมกันทีเรียกว่า “มิสซา” เรากลับออกไป เราได้รับศีลมหาสนิทแล้ว ได้รับฟังพระวาจาของพระเจ้า ได้รับฟังบทเทศน์ประกาศพระวาจาของพระเจ้าและคำสอนเพื่อการเจริญชีวิตคริสตชนแล้ว เราก้าวออกไปเราน่าจะเกิดผลดีมากมายเลยนะครับ....

• จำคำนี้ได้ไหมครับ “พิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณสิ้นสุดแล้ว จงไปดำเนินชีวิตตามพระวาจาของพระเจ้าเถิด....” หรือ “จงไปปฏิบัติตามพระวาจาของพระเจ้าพร้อมกันเถิด...” ฯลฯ และเราตอบว่า “ขอขอบพระคุณพระเจ้า”....

• พี่น้องครับ ถ้อยคำเหล่านี้และพระพรที่เราได้รับจากพระนิเวศน์ของพระเจ้านั้น... “ได้เป็นความจริงไหมครับ” เราได้เข้ามาตักตวงความรักจากพระเจ้า ความรักที่ไหลหลั่งรินจากสีข้างของพระองค์บนไม้กางเขน ความรักที่ไหลจากพระวิหารคือพระกายของพระคริสตเจ้า

• เราได้รับความรักและพระพรของพระเจ้า และเราได้ออกไปดำเนินชีวิตอย่างไรบ้างครับ... พ่อมีข้อคิดจากหนังสือประกาศเอเสเคียลวันนี้มากๆ ครับจากการที่น้ำที่ไหลไปที่ใด พร้อมกับการพิศเพ่งพระสีข้างพระของพระเยซูเจ้า พระวิหารนิรันดร...

• ผลก็เกิดขึ้น เกิดความเปลี่ยนแปลง และสร้างคุณค่ามากมายครับ ลองพิจารณาดูนะครับ.... จะเห็นว่า น้ำจากพระวิหารนี้เกิดผลมากเหลือเกินจริงๆ....

• พระคัมภีร์เอเสเคียลเขียนว่า “น้ำนี้ไหลไปทางทิศตะวันออก ลงไปถึงลุ่มแม่น้ำจอร์แดน เข้าไปในทะเล ผลตามมาคือ เมื่อไหลเข้าไปในทะเล ก็ทำให้น้ำทะเลจืด

• แม่น้ำนี้ไปถึงที่ใด สิ่งมีชีวิตที่เคลื่อนไหวในนั้นก็จะมีชีวิต จะมีปลาจำนวนมาก

• เพราะน้ำนี้ไหลไปถึงที่ใด น้ำทะเลก็จืด

• แม่น้ำไหลไปถึงที่ใด ทุกสิ่งก็มีชีวิต

• ตามฝั่งทั้งสองฟากของแม่น้ำต้นไม้ผลทุกชนิดจะเจริญเติบโต
o ใบของมันจะไม่เหี่ยวแห้ง
o และผลของมันจะไม่วาย แต่จะเกิดผลใหม่ทุกเดือน
o เพราะว่าน้ำที่หล่อเลี้ยงต้นไม้เหล่านี้ไหลมาจากสักการสถาน
o ผลของต้นไม้เหล่านี้ใช้เป็นอาหาร และ
o ใบก็ใช้เป็นยารักษาโรค

• สรุปว่า มีแต่ผลดีทั้งสิ้นครับ... น้ำจากข้างพระวิหาร หรือ น้ำและพระโลหิตจากพระสีข้างพระเยซูเจ้าบนกางเขนที่ไหลรินออกมา... ทะลักออกมาเพื่อความรอดและความดีของโลกและของมนุษย์ทุกคน... น่าทึ่งนะครับ ไต่ตรองดีๆครับ

             พี่น้องที่รักครับ วันนี้พ่อขอสรุปว่า พ่อจินตนาการเห็นสัตบุรุษทั้งมวลเมื่อมาเข้าในพระนิเวศน์ของพระเจ้า เมื่อเราเข้ามาที่วัดเพื่อร่วมบูชาขอบพระคุณ ได้เข้ามาโดยเฉพาะวันศุกร์ศักดิ์สิทธ์เข้ามานมัสการกางเขน และพระเยซูผู้ถูกตรึง และรอยพระสีข้างที่ถูกเปิด... พ่อคิดว่า

• ถ้าเราได้รับผลจากการได้รับฟังพระวาจาและศีลมหาสนิท

• ถ้าเราได้รับพระพรของพระเจ้าเปี่ยมล้นจริงๆ

• ถ้าเราได้รับธารน้ำทรงชีวิตแท้จริงจากพระเจ้าแล้ว

               พ่อจินตนาการเห็นคริสตชนออกจากวัดไปเมื่อจบมิสซาแล้วนั้น เหมือนธารน้ำที่ไหลออกไปและก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีต่อรอบข้าง (ไม่ใช่ไหลออกไปเป็นนำวินาศหรือสึนามิสำหรับใครๆทั่วไปหมดนะครับ) แต่เราต้องทำให้รอบข้างและเพื่อนพี่น้องทุกคนได้รับผลแห่งความดีและความรักของพระเจ้าจริงๆ อยากให้ได้เกิดผลดังเช่นภาพนิมิตที่เอเสเคียลได้บรรยายไว้จริงๆ พ่ออยากให้เป็นเช่นนี้จังเลยครับ

               การไปวัดทุกวันอาทิตย์ คงมีคุณค่าสำหรับทำให้เราเป็นธารน้ำแห่งชีวิตที่ทำให้สังคมรอบข้าง และทุกคนได้สัมผัสกับความรักของพระเจ้าอย่างน่าอัศจรรย์จริงๆ ถ้าเป็นเช่นนั้น ชีวิตคริสตชนของเราคงได้เป็นคริสตชนแท้จริงครับ... คงน่าเสียดายและไร้ค่า ถ้าเราไปวัด ไปสัมผัสกับพระเจ้า ไปฟังพระวาจา และเมื่อกลับไปสู่สังคมเราไม่ได้ทำให้สังคมได้สัมผัสความรักของพระเจ้า สัมผัสความดีของพระเจ้าอย่างแท้จริง

                พี่น้องครับ พ่อคิดว่า ถึงเวลาแล้วนะครับที่เราจะต้องเป็นคริสตชนที่แท้จริงที่มีชีวิตพระ มีพระพรของพระอยู่ในชีวิตเรา สัมผัสชีวิตเราจริงๆให้ได้นะครับ.... ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่านเสมอไปครับ อ่านพระคัมภีร์ด้วยนะครับ...

              อย่าลืมตักตวงความรักจากธารชีวิตและนำชีวิตไปสู่ทุกคนเสมอนะครับ... อย่าให้น้ำและพระโลหิตจากพระสีข้างของพระเยซูเจ้าไร้ความหมายสำหรับชีวิตของเราเลยนะครับ เพราะพระองค์คือ “พระวิหารของพระเจ้า คือ ลูกแกะของพระเจ้า คือ น้ำทรงชีวิตนิรันดร”

 

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก