“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2016
หลังวันพุธรับเถ้า

เทศกาลมหาพรต เราคริสตชนต้องจำศีลอดอาหาร เราต้องทำอย่างไร พ่อเห็นว่า เราคริสตชนต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ วันนี้ พ่อคิดว่าพระวาจาของพระเจ้าจากอิสยาห์วันนี้ เราคงต้องให้ความสำคัญมากๆที่จะอ่านและทำความเข้าใจ เราจะพบว่า “การจำศีลอดอาหาร การเข้ามหาพรต เราจะทำอย่างไรดี จะจำศีลอดอาหารอย่างไร จะทำตัวให้สมกับเป็นการเขาสู่มหาพรตอย่างไร”....

พ่อชอบอิสยาห์บทนี้ ตอนนี้มากๆ จริงๆ ทุกมหาพรต เมื่อบทนี้มาถึงนะ พ่อจะอ่าน ทบทวน และไตร่ตรองอย่างละเอียด อ่านให้สัตบุรุษในวัดฟังอย่างใส่ใจที่สุด บทสรุปประกาศสำคัญที่พ่อได้พบจากอิสยาห์ตอนนี้ คือ “ความดีเริ่มจากภายในออกสู่ภายนอก” (From inside out) ความดีอยู่ที่ความจริงใจที่มีต่อกัน การเป็นคนแห่งมีศาสนาหรือศาสนิกชนไม่ได้มาจากสิ่งอื่นๆ แต่ว่ามาจากความสำนึกภายในถึงความรักต่อพระเจ้าและต่อเพื่อนมนุษย์ การเคร่งครัดภายนอกไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด แต่เริ่มจากความจริงใจและความสัตย์จริงจากภายใน...

 

พี่น้องที่รัก พ่อเชิญชวนเราให้มั่นใจให้เราเชื่อร่วมกันจริงๆ นะครับ ว่า “พระวาจาของพระเจ้า...เสียงของพระเจ้า... สำคัญที่สุด ที่จะขัดเกลาจิตใจของเราให้สะอาด พระวาจาขอพระเจ้าทรงพลังที่สุดที่จะจัดการให้เราได้ยินได้ฟังและได้กลับใจ...”


โดยส่วนตัวพ่อชอบอิสยาห์บทนี้ที่เราอ่านให้วันนี้และพรุ่งนี้มากๆ (อสย 58) วันนี้พ่ออยากเชิญชวนให้อ่านอย่างดีๆ เพื่อให้เสียงของประกาศกอิสยาห์สอนใจพ่อและสอนใจเราให้ตรงกันระหว่างภายในกับภายนอกให้มากขึ้นสักหน่อยนะครับ เพราะเราจะได้ยินประชาชนของพระเจ้าในยุคของประกาศกอิสยาห์นั้นดูเหมือนตัดพ้อพระเจ้า ทั้งๆ ที่พวกเขาพยายามปฏิบัติตัวอย่างดี หมายความว่าดีอย่างที่พวกเขาคิดว่าดี เขาคิดได้ปฏิบัติศาสนกิจอย่างดี พ่อขอย้ำ “ดีอย่างที่พวกเขาคิดว่าดี” พวกเขาตัดพ้อพระเจ้าประหนึ่งว่าจะทำดีไปทำไม จะอดอาหารจำศีลไปทำไม พระเจ้าไม่ได้สนใจอะไรเลย... เราอ่านพระคัมภีร์กันก่อนนะครับ

 

อสย 58:1-9dก…
1จงร้องตะโกนให้เต็มกำลัง อย่าออมเสียงไว้
จงเปล่งเสียงเหมือนเป่าเขาสัตว์
จงประกาศให้ประชากรของเรารู้ว่าเขาได้ล่วงละเมิด
จงประกาศแก่เชื้อสายของยาโคบให้เขารู้บาปที่เขาได้ทำ
2เขาทั้งหลายแสวงหาเราทุกวัน
ปรารถนาจะรู้จักทางของเรา
ประหนึ่งว่าเขาเป็นประชากรที่ปฏิบัติความชอบธรรม
และมิได้ละทิ้งพระวินิจฉัยของพระเจ้าของตน
เขาขอให้เราให้การวินิจฉัยที่ชอบธรรม
และปรารถนาที่จะเข้ามาใกล้พระเจ้า

3เขาพูดว่า “ทำไมข้าพเจ้าทั้งหลายจะต้องจำศีลอดอาหาร
ถ้าพระองค์ไม่ทอดพระเนตร
ทำไมข้าพเจ้าทั้งหลายจะต้องละเว้นความสุขสบาย
ถ้าพระองค์ไม่ทรงทราบ”

ดูซิ ในวันที่ท่านทั้งหลายจำศีลอดอาหาร
ท่านยังแสวงหาผลประโยชน์ของตน
และข่มเหงคนงานทุกคนของท่าน

4ดูซิ ท่านจำศีลอดอาหาร แต่ยังทะเลาะวิวาทและโต้เถียงกัน
ชกต่อยตีกันอย่างอยุติธรรม
การจำศีลอดอาหารดังที่ท่านปฏิบัติในวันนี้
จะไม่ทำให้เสียงของท่านได้ยินไปถึงเบื้องบนเลย

5นี่หรือเป็นการจำศีลอดอาหารที่เราพอใจ
คือวันที่มนุษย์ละเว้นความสุขสบาย
ก้มศีรษะลงเหมือนต้นอ้อ
ใช้ผ้ากระสอบและขี้เถ้าปูนอน
ท่านจะเรียกการทำเช่นนี้ว่าเป็นการจำศีลอดอาหาร
และวันที่พระยาห์เวห์พอพระทัยกระนั้นหรือ

6แต่การจำศีลอดอาหารที่เราต้องการ
คือการแก้โซ่ตรวนที่อธรรม แก้สายรัดแอก
ปล่อยผู้ถูกข่มเหงให้เป็นอิสระ
และหักแอกทุกอัน

7แบ่งปันอาหารกับผู้หิวโหย
นำคนยากจนไร้ที่อยู่อาศัยเข้ามาในบ้าน
ให้เสื้อผ้าแก่ผู้ที่ท่านเห็นว่าไม่มีเสื้อผ้าสวม
และไม่หันหน้าหนีจากญาติพี่น้อง

8แล้วความสว่างของท่านจะขึ้นมาเหมือนรุ่งอรุณ
แผลของท่านจะหายอย่างรวดเร็ว
ความชอบธรรมจะเดินนำหน้าท่าน
และพระสิริรุ่งโรจน์ของพระยาห์เวห์จะเดินตามท่าน
9ท่านจะทูลขอ และพระยาห์เวห์จะทรงตอบ
ท่านจะร้องขอความช่วยเหลือ
และพระองค์จะตรัสว่า “เราอยู่ที่นี่”

 

อรรถาธิบายบางประเด็น
• มีบางประเด็นที่เราควรจะให้ความสำคัญมากๆ ในคำเตือนของประกาศกอิสยาห์ พ่อคิดว่าเรามาติดตามและไตร่ตรองศึกษาให้ลายละเอียดกันสักหน่อยน่าจะเป็นการดี แม่นอนว่า เนื้อหาของพระคัมภีร์วันนี้ชัด ตรง และลึกซึ้ง หรือเรียกว่า คมมากๆทีเดียว

3เขาพูดว่า “ทำไมข้าพเจ้าทั้งหลายจะต้องจำศีลอดอาหาร ถ้าพระองค์ไม่ทอดพระเนตร ทำไมข้าพเจ้าทั้งหลายจะต้องละเว้นความสุขสบาย ถ้าพระองค์ไม่ทรงทราบ”


• พระเจ้าตรัสพ้อ และตำหนิพวกเขา เพราะพวกเขาไม่ได้กระกิจการศาสนาที่ทำออกมาจากใจจริง เพราะเขาจำศีลกันมากเหลือเกิน แต่พฤติกรรมของพวกเขาแตกต่างจริงๆ


• ดูเหมือนว่า พวกเขาจำศีลอดอาหารและทำสิ่งภายนอกมากมาย เขาจำศีลและดูเหมือนว่าพวกเขาได้ทำหลายอย่างภายนอกเพื่อพระเจ้า เพราะชาวยิวหรือฟาริสีที่เคร่งครัดจะกระทำสิ่งเหล่านี้ให้เด่นชัดให้ทุกคนรู้ “การภาวนา การทำทาน การจำศีลอดอาหาร” ทุกอย่างทำไปอย่างจริงๆจังมากๆ เป็นที่รับรู้และให้ทุกคนรับรู้ แต่บรรยากาศจริงๆ คืออะไร คำตอบคือพวกเขาเป็นแบบพวก “มือถือสากปากถือศีล” กันมากๆ


• คนเรามักจะชอบทำในสิ่งที่เป็นที่เห็นได้ ให้ใครๆได้แลเห็น ได้ชื่นชมสรรเสริญ ถือศาสนาแบบเคร่งครัดมากๆ แต่ชีวิตจริงๆ กับระบบชีวิตศาสนาที่จริงนั้น ไม่ได้สอดคล้องต้องกัน ไม่ได้ออกมาจากภายในจนกลายเป็นกิจการดีภายนอก จนว่าพวกเขาเรียกร้องให้พระเจ้าสนใจ แต่อันที่จริง ที่น่าสนใจคือการกระทำของเขาไม่เหมาะกับเป็นการกระทำทางศาสนาแท้จริง พวกเขาต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลง และต้องดำเนินชีวิตศาสนาจากภายในออกมาสู่ภายนอกต่างหาก
----------------------------------------------


ดูซิ ในวันที่ท่านทั้งหลายจำศีลอดอาหาร ท่านยังแสวงหาผลประโยชน์ของตน และข่มเหงคนงานทุกคนของท่าน
• ตรงนี้พ่อคงต้องเขียนตรงๆ ว่า “เอา...เอาเข้าไป หรือ ดู...ดูพวกเขาทำสิ... อดอาหารแต่ข่มเหงคนอื่น แล้วจะอดอาหารจำศีลกันไปทำไม”


• ชีวิตของพวกเขาเป็นอย่างนี้ได้อย่างไร จำศีลอดอาหารเคร่งครัด และคิดว่านั่นคือสิ่งที่พระเจ้าต้องพอพระทัย แต่ชีวิตยังแสวงหาผลประโยชน์เอามากๆ และที่สำคัญ คือ พวกเขานั้น “ยังข่มเหงคนงานทุกคน”


• พ่อคิดว่า “จำศีลอดอาหารแท้จริงคือสิ่งนี้” วันนี้เองมีคนเขียนมาถามพ่อว่า “พ่อ... วันพุธรับเถ้า ลูกลืม ลูกกินเนื้อแต่เช้าเลย ไม่ได้อดเนื้อเลย ทำอย่างไรดี” พ่อก็ต้องตอบและอธิบายให้เขาสบายใจ ความจริง การอดอาการ อดเนื้อ จำเป็น พ่อรีบบอกเขาว่า รีบไปทำกิจการดีชดเชย ดีกับเพื่อนพี่น้อง เมตตา ให้ทาน และแน่นอนเมื่อไปรับศีลอภัยบาปก็สารภาพว่าได้ลืมหรือไม่ได้อดเนื้อในวันบังคับ แต่ได้รู้ตัวและได้กระทำกิจการดีชดเชยอย่างดี พ่อว่าถ้ากระทำแบบนี้ถือว่าเป็นผู้ใหญ่มากๆในความเชื่อ เป็นการถือศาสนาอย่างดียิ่ง


• จะมีประโยชน์อะไร ถ้าจำศีลอดอาหาร แต่ว่า ยังแสวงกำไรเกินควร เอาเปรียบคนอื่น แน่นอนครับการค้าขายทำกิจการ เรื่องกำไรก็จำเป็นเพราะความยุติธรรมทางการค้าด้วย แต่ค้ากำไรเกินควร เอาเปรียบ และโลภ ไม่น่ารักเอามากๆ โลภมาก จนไปถึงการกดขี่แรงงานคนงานทุกคน ไม่ดีเลย ไม่ดีมากๆ แล้วจะจำศีลไปทำไมว่าอย่างนั้นเถิด
--------------------------------------------


4ดูซิ ท่านจำศีลอดอาหาร แต่ยังทะเลาะวิวาทและโต้เถียงกัน ชกต่อยตีกันอย่างอยุติธรรม การจำศีลอดอาหารดังที่ท่านปฏิบัติในวันนี้ จะไม่ทำให้เสียงของท่านได้ยินไปถึงเบื้องบนเลย
• จำศีลอดอาหารจริงจัง แต่ยังทะเลาะกันทั่วหน้า วิวาทไปทั่ว ตกลงอะไรจะดีกว่ากันระหว่างจำศีลอดอาหาร หรือการเลิกทะเลาะเบาะแว้ง เลิกโต้เถียงทำร้ายจิตใจกันด้วยคำพูด เลิกใส่ร้ายนินทากัน แบบไหนจะมีค่ากว่ากัน


• ถ้าคริสตชนเรารักวัดศรัทธาต่อวัด ชอบไปวัดไปวาสรรเสริญพระเจ้า แต่ชีวิตจริงกลับอยู่กันอย่างไม่สำนึกที่จะรักเมตตาต่อเพื่อพี่น้องรอบข้าง ถ้าชีวิตของเขายังคงทำร้ายเพื่อนพี่น้องด้วยวาจา ด้วยกำลังที่ทำร้ายกัน เอาเปรียบกันทางความคิดและจิตใจ แต่ก็ยังสรรเสริญพระเจ้า แบบนี้คือสิ่งที่พระเจ้าตำหนิ


• ถ้าคริสตชนเราเคร่งครัดกับเรื่องจำศีลอดอาหารมากๆ แต่ขณะเดียวกันถ้าเรายังมีชีวิตที่โต้เถียงกัน แต่นินทาทำร้าย วิจารณ์กันแบบไม่ให้เหลือแผ่นดินอยู่ ทำลายความเชื่อถือทำให้เสียชื่อเสียงเพียงเพื่อให้เราดูดีขึ้นนิด (ในความคิด)... เรื่องนี้พ่อคิดว่าเตือนสอนเราคริสตชนได้ดีมากๆในชีวิตของเรา ในชุมชนคริสตชนของเรา
-------------------------------------


5นี่หรือเป็นการจำศีลอดอาหารที่เราพอใจ คือวันที่มนุษย์ละเว้นความสุขสบาย ก้มศีรษะลงเหมือนต้นอ้อ ใช้ผ้ากระสอบและขี้เถ้าปูนอน ท่านจะเรียกการทำเช่นนี้ว่าเป็นการจำศีลอดอาหาร และวันที่พระยาห์เวห์พอพระทัยกระนั้นหรือ
• การจำศีลอดอาหาร การบำเพ็ญพรตเพื่อประกาศศรัทธาในพระเจ้าเป็นเพียงแค่นี้เองหรือ


• ทำตัวเศร้าโศก ก้มลงภาวนาอย่างศรัทธา


• ทำตนเคร่งครัด สวมเสื้อผ้ากระสอบ ตรงนี้เป็นเสียงประชดประชันการกระทำของประชาชนที่ถือศีลอดอาหาร ทำแต่เพียงภายนอก แน่ใจแล้วหรือว่านี่คือการถือศีลอดอาหาร เสียงของประกาศกอิสยาห์ประกาศเสียงตัดพ้อของพระเจ้าต่อการกระทำของพวกเขา


• เรื่องนี้พ่อคิดว่า เราคริสตชนควรได้ไตร่ตรองจริงๆเช่นเดียวกันในเทศกาลมหาพรต พ่อคิดว่า มหาพรตไม่ใช่อะไรที่จะต้องจัดการภายนอกให้เป็นแบบอีเว่นทางศาสนา แต่ต้องมาจากชีวิตและการเปลี่ยนแปลงจากภายใน from inside out


• การจำศีลอดอาหารหรือจิตตารมณ์ที่แท้จริงกันแน่ที่พระเจ้าต้องการ เพื่อประกาศศรัทธาในพระองค์... ต่อไปนี้เราต้องอ่านและเขาใจให้ดีกับการจำศีลอดอาหารที่พระเจ้าพอพระทัย อ่านให้ซึมลึกเข้าไปในหัวใจ จนเรากล้าเปลี่ยนแปลงตนเองนะครับ
-------------------------------------------


6แต่การจำศีลอดอาหารที่เราต้องการ คือการแก้โซ่ตรวนที่อธรรม แก้สายรัดแอกปล่อยผู้ถูกข่มเหงให้เป็นอิสระ และหักแอกทุกอัน
• ในข้อที่ 6 นี้พ่อย้ำและอยากเชิญชวนให้เราได้ใส่ใจร่วมกันในมหาพรตปีนี้ พี่น้องครับ


• ขอให้เราได้
1. “ปลดแอก” แก่และกันเถอะครับ
2. “ปลดโซ่ตรวน” ที่เราพันธนาการกันและกันด้วยความอธรรม ความโกรธ ความเกลียด หรือความชังและปลดปล่อยกันให้เป็นอิสระเถอะครับ ความเกลียดชังหรือความโกรธที่มีมานานแรมปีแรมชาติหรือมีต่อกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษและส่งต่อกันถึงลูกหลาน ทั้งๆ ที่ความโกรธเกลียดไม่ได้ถ่ายทอดทางสายเลือดสักหน่อย... พี่น้องที่รักในความเชื่อคริสตชนทุกท่าน โอกาสเทศกาลมหาพรตมาถึงเช่นนี้ พ่อคิดว่าถึงเวลาจริงๆที่เราต้องคืนดีกันเสียทีเถอะครับ ในปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม เรามาปลดปล่อย ปลดแอก แห่งความเกลียดชังต่อกัน โดยเฉพาะคนบ้านติดๆกันทั้งหลายในแวงวงวัดวาอารามคณะสงฆ์... เอาหมดเลยทุกชุมชน ชุมชนครอบครัว ชุมชนวัด ชุมชนนักบวชในคณะ ชุมชนครอครัวสงฆ์... มาปลอดแอกกันเถิดครับ ถ้ายังไม่ได้คืนดีต่อกัน จงให้อภัยและสวมกอดกันด้วยความรักด้วยอ้อมแขนที่อบอุ่นแทนการเทียมแอกและตีตรวนแห่งความเกลียดชังหรือขุ่น เคือง มัว ขบ กัด ฟัด ฟาด หรืออาฆาต ปลดแอกที่แสนหนักกันเถอะครับ แอกเทียมไม่ใช่กับคนครับ.. อย่าเข้าไปเทียมแอกกันเลยครับ....
---------------------------------------------------


7แบ่งปันอาหารกับผู้หิวโหย นำคนยากจนไร้ที่อยู่อาศัยเข้ามาในบ้าน ให้เสื้อผ้าแก่ผู้ที่ท่านเห็นว่าไม่มีเสื้อผ้าสวม และไม่หันหน้าหนีจากญาติพี่น้อง
• นี่แหละครับ จิตตารมณ์แห่งมหาพรตที่แท้จริง ความรักและการแบ่งปัน พี่น้องครับ... เชื่อพ่อนะครับ...
1. ให้อาหารแก่ผู้หิวโหย ดีกว่าอดอาหารไว้รับประทานมื้อใหญ่ต่อไปภายหลังหรือมานั่งฉลองลาเนื้อแล้วกรอล่อเนื้อกันกันจนเมามาย แถมบางทีอาจเผลอแร่เนื้อเถือไถกันจนเพื่อนพี่น้องของเราเหลือแต่กระดูกก็เป็นไป
2. ให้อาหารแก่คนที่อดยาก ดีกว่าที่จะอดอาหารแล้วเก็บเงินที่เหลือไว้ทำอย่างอื่น...
3. ช่วยคนยากไร้ให้ได้มีทีพักพิงทางใจอย่างอบอุ่น และให้ที่พักทางกายถ้าเราสามารถทำได้ ต้องทำนะครับ... เสื้อผ้ามีเท่าไรกันแล้ว มีกี่ตัวแล้วครับที่เราไม่เคยได้สวมใส่ บางคนเก็บเสื้อผ้าที่ใช้ในวัยสาว ในวัยเด็ก ไว้เต็มตู้ จนล้นและรก... แต่มีพี่น้องร่วมโลกเท่าไรที่ไม่มีเสื้อผ้าใส่ ไม่มีแม้แต่จะคลุมกายยามหนาวหรือให้ดูสมศักดิ์ศรีความเป็นคนของเขา... มหาพรตปีนี้รื้อตู้เสื้อผ้ากันดีไหมครับ จะได้มีที่ว่างให้อากาศบริสุทธิ์ได้เข้ามาให้ห้องของเรามากขึ้น มีกลิ่นอายของความรักและเมตตาเข้ามาในที่ว่างของหัวใจของเรามากขึ้น...
4. สำคัญที่สุด หันหน้าเข้าหาพี่น้องของเรานะครับ อย่าหันหน้าหนีหรือไม่แยแสกันเลย เพราะจะไม่น่ารักเลย... เราควรรัก ห่วงใย สนใจ และใส่ใจเพื่อนๆครับ บางทีเขาอาจจะมองเรา รอเรามานานแล้วอยากให้เราหันไปสักที... ทำเถอะนะครับ นี่คือ จิตตารมณ์มหาพรต... อดอาหารเยอะๆ สวดมากๆ ไม่ได้ช่วยอะไรถ้าไม่ได้กระทำสิ่งเหล่านี้ครับ
-----------------------------------------------------


8แล้วความสว่างของท่านจะขึ้นมาเหมือนรุ่งอรุณ แผลของท่านจะหายอย่างรวดเร็ว ความชอบธรรมจะเดินนำหน้าท่าน และพระสิริรุ่งโรจน์ของพระยาห์เวห์จะเดินตามท่าน 9ท่านจะทูลขอ และพระยาห์เวห์จะทรงตอบ ท่านจะร้องขอความช่วยเหลือ และพระองค์จะตรัสว่า “เราอยู่ที่นี่”


• ถ้าเราได้ทำอย่างที่ประกาศอิสยาห์สอนจริงๆนะครับ คำตรัสของพระเจ้าทางอิสยาห์นี้ก็เป็นจริงแน่นอน ชีวิตของเราจะสว่างสุกใสงดงามดุจรุ่งอรุณ....


• แผลของเราจะหายอย่ารวดเร็ว แผลใจ แผลแห่งจิตใจและความบอบช้ำหรือแผลเป็นที่มาจากความโกรธเกลียด และความอธรรม หรือตัณหาทั้งหลายจะหายไปอย่างรวดเร็ว


• เพราะการเข้าสู่มหาพรตแท้จริงที่อิสยาห์สอน... เราจะเดินตามความชอบธรรมของพระเจ้า พระเจ้าทรงนำหน้าเราตลอดไป และถ้าเป็นเช่นนี้จริงๆ เราประพฤติเช่นนี้จริงๆ วันใดที่เราเดือดร้อน ถ้าเราร้องหาพระเจ้า... พระเจ้าจะตอบว่าเราอยู่นี่อย่างแน่นอน..


พี่น้องที่รักครับ นี่แหละคือคำสอนมหาพรตของพระคัมภีร์ ประกาศกอิสยาห์ได้ประกาศอย่างชัดเจน เต็มที่เลยนะครับ ฟังและปฏิบัติตามครับ ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่านให้เดินทางในมหาพรตอย่างมีคุณค่าและความหมายที่สุดนะครับ


เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก