“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันพฤหัสบดีที่ 16 เมษายน 2015
สัปดาห์ที่สองเทศกาลปัสกา
ยน 3:31-36…
31ผู้ที่มาจากเบื้องบนย่อมอยู่เหนือทุกคน
ผู้ที่มาจากแผ่นดินนี้
ย่อมเป็นของแผ่นดินนี้ และพูดอย่างคนของแผ่นดินนี้
ผู้ที่มาจากสวรรค์ย่อมอยู่เหนือทุกคน
32เขาเป็นพยานถึงสิ่งที่ได้เห็นและได้ยิน
แต่ไม่มีใครยอมรับคำพยานยืนยันของเขา


33ผู้ที่รับคำพยานยืนยันของเขา
ก็รับรองว่าพระเจ้าทรงสัตย์จริง
34ผู้ที่พระเจ้าทรงส่งมานั้นย่อมกล่าวพระวาจาของพระเจ้า
เพราะพระเจ้าประทานพระจิตเจ้าให้เขาอย่างไม่จำกัด
35พระบิดาทรงรักพระบุตร
และทรงมอบทุกสิ่งไว้ในพระหัตถ์ของพระบุตร
36ผู้ใดมีความเชื่อในพระบุตรย่อมมีชีวิตนิรันดร
ผู้ที่ไม่ยอมเชื่อฟังพระบุตร จะไม่พบชีวิตนั้น
การลงโทษของพระเจ้ากำลังอยู่เหนือเขาแล้ว

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง

• ภาพที่เราต้องจินตนาการกันต่อไปให้จบพระวรสารนักบุญยอห์นบทที่ 3 คือ การที่พระเยซูเจ้าทรงสนทนากับนิโคเดมัสในยามค่ำคืน ปกติเวลาค่ำคืน...อาจารย์ชายยิวจะสนทนากับศิษย์ และเทศน์สอนให้ความรู้แก่ศิษย์ของตน รับบีชาวยิวจะสอนและใช้ยามค่ำแบบนี้อบรมสอนสั่งบรรดาศิษย์ของตน พอคิดว่าเราอ่านยอห์นบทที่ 3 มาหลายวันต่อกัน... พ่ออยากจะสรุปเจตนาของการมาคุยกันครั้ง การมานั่งคุยกันในความมืด (ความมืดที่เดินมาสนทนากับความสว่างแท้คือพระเยซูเจ้า) ในการสนทนานี้มีหลายอย่างที่เป็นบทสอนหรือความเชื่อในพระเยซูเจ้าที่ถ้าเราอ่านตั้งแต่ตนจนจบ เราจะเห็นสิ่งเหล่านี้ชัดเจนมากๆ เมื่อสนทนาเสร็จแล้วพระองค์ออกไปประกาศข่าวดีในแคว้นยูเดีย และความจริงเหล่านี้ก็ได้รับการประกาศจากพระองค์ ดังนั้น พ่อขอนำเสนอคำสอนที่เราได้รับจากยอห์นบทนี้นะครับ
1. พระเยซูคืออาจารย์ที่มาจากพระเจ้า แต่ต่างจากรับบีทั้งหลายเพราะไม่มีใครทำเครื่องหมายอัศจรรย์อย่างที่ท่านทำได้ นอกจากพระเจ้าจะสถิตกับเขา
2. จำเป็นที่จะต้อง “เกิดใหม่ด้วยน้ำและพระจิตเจ้า”
3. จำเป็นต้องเชื่อในพระเยซูคริสตเจ้า “เชื่อในพระองค์”
4. พระเยซูคือพระบุตรของพระเจ้าผู้เสด็จลงมาจากสวรรค์
5. จำเป็นที่พระองค์ต้องถูกยกขึ้นบนไม้กางเขน เพื่อทุกคนที่เชื่อ จะได้รับความรอด
6. จำเป็นต้องเชื่อในพระองค์ จึงจะได้รับชีวิตนิรันดร
7. พระเจ้าทรงรักโลกและมนุษย์อย่าง และความรักแสดงออกโดยการมอบพระบุตรสุดที่รักแต่พระองค์เดียวของพระองค์
8. ผู้ที่เชื่อในพระบุตรจะไม่ถูกลงโทษ เพราะการตัดสินคือการที่มนุษย์ได้รับแสงสว่างแต่เขาได้ปฏิเสธความแสวงและรักความมืด เพราะกิจการของเขาชั่วร้าย

• เราอ่านยอห์นวันนี้ซึ่งเป็นส่วนสุดท้ายของพระวรสารยอห์นบทที่ 3 พ่อเห็นว่า บทสรุปก็เป็นสาระสำคัญเดียวกันคือ
• “พระบิดาทรงรักพระบุตร และทรงมอบทุกสิ่งไว้ในพระหัตถ์ของพระบุตร ผู้ใดมีความเชื่อในพระบุตรย่อมมีชีวิตนิรันดร ผู้ที่ไม่ยอมเชื่อฟังพระบุตร จะไม่พบชีวิตนั้น การลงโทษของพระเจ้ากำลังอยู่เหนือเขาแล้ว”

• การเชื่อฟังคือความรอดของเรา เชื่อและฟังพระเจ้า... พ่อชอบภาษาไทยคำนี้ที่เราได้รับจากภาพของนิโคเดมัสที่มานั่งฟังพระอาจารย์เจ้าในยามค่ำคืน พระองค์ตรัส นิโคเดมัสฟัง นิโคเดมัสได้เป็นศิษย์ของพระเยซูเจ้าอย่างลับๆ (เรื่องนี้ชัดเจนเมื่อตอนที่เขาร่วมกับโยเซฟชาวอริมาเธีย ฝังพระศพพระเยซูเจ้า) นิโคเดมัสเชื่อ และนั่งฟังพระองค์
• คงมิใช่เพียงภาพที่นิโคเดมัสมาฟังพระเยซูเจ้า แต่เขาได้เชื่อในพระองค์ ยอห์นเสนอภาพน่ารักให้เราได้อ่าน... การฟังพระเยซูเจ้า การเชื่อในพระองค์เท่านั้นคือความรอดพ้นและเป็นชีวิตนิรันดรของเราทุกคน

• พ่อมีประสบการณ์นิดหน่อยครับ... พ่อเองมองดูประสบการณ์ของตนเอง พ่อรู้ว่าพ่อเป็นเด็กที่เรียนไม่เก่งอะไรเลยจริงๆ ถ้าไม่มีพระเจ้า พ่อคงไม่ได้มาไกลถึงเพียงนี้ในเรื่องการศึกษาและความรู้ความเข้าใจ.. จริงๆ ตอนเด็กพ่อก็เป็นคนที่ผลการเรียนอ่อนแบบที่เขามักจะกล่าวเลี่ยงว่า “สติปัญญาปานกลาง” นี่คือความจริง คำว่า “ปัญญาดี หรือดีมาก” ไม่ใช่ธรรมชาติของพ่อเลยจริงๆครับ... แต่พ่อมีประสบการณ์อยู่อย่างที่พ่อเชื่อ คือ พ่อเป็นคนชอบฟัง ฟัง ฟัง ใครพูดอะไรน่าสนใจ พ่อจะตั้งใจฟังมาก เรียกว่า ตอนเรียนที่บ้านเณรใหญ่แสงธรรม พ่อตั้งใจฟังคุณพ่อ หรืออาจารย์ที่สอนมากๆ ตาพ่อจ้องจับไม่ปล่อยวางสายตาเลย หูตั้งใจฟังมาก มือก็จับปากกาจดบันทึกตลอดเวลา เรียกว่าแทบทุกคำจะอยู่ในสมุดของพ่อ มีเพื่อนๆ ชอบขอยืมสมุดบันทึกวิชาเรียนพ่อไปสำเนาหรืออ่านก่อนสอบ... พ่อเรียนไม่เก่ง พ่อเลยต้องตั้งใจฟังมาก.. จนเคยมีอาจารย์บางท่านกล่าวว่า “ผมสอนเณรสมเกียรติแล้วรู้เลยว่าเขาตั้งใจ มองตาเณรสมเกียรติแล้วรู้เลยว่า ผมยังสอนไม่พอ เขาไม่อิ่มกับสิ่งที่ผมสอน” คำพูดเหล่านี้น่าจะจริง เพราะอาจารย์ผู้ใหญ่ได้พูดในการประชุมสภาพระสังฆราช และพระสังฆราชท่านหนึ่งเล่าให้พ่อฟังเอง...

• พ่อตั้งใจฟังจริงๆครับ และตั้งใจเวลาเรียนมาก ไม่ปล่อยเลย และจดบันทึก จำ เมื่อเราตั้งใจ ใส่ใจเราก็ไม่ลืมง่ายๆ ฝังอยู่ในใจ ยิ่งถ้าอาจารย์คนไหนสอนดีๆ เก่งในการสอน ถ่ายทอดน่าสนใจ พ่อจะจดจ่อและจำได้แม้เวลาผ่านไปนับสิบๆปีก็ตาม

• เวลาผ่านไป...เวลานี้พ่อมีความรู้สึกว่า การฟัง มีพลังและอำนาจ การฟังคือพลังของการเรียนรู้ และการฟัง คือ “หัวใจนักปราชญ์จริง” (สุ จิ ปุ ลิ คือ ฟัง คิด ถาม เขียน) สรุปว่า การฟังคือบ่อเกิดและพลังแห่งปรีชาญาณและการเรียนรู้ทุกชนิด..
o มีคนชอบบอกว่าพ่อสมเกียรติสามารถเทศน์ได้ (เทศน์ดี..เขาว่ากัน พ่อไม่กล้ารับประกัน) แต่พ่อก็รู้สึกว่า การเทศน์คือสิ่งที่พ่อมีความสุขมาก และที่สำคัญพ่อไม่ต้องเตรียมเทศน์มากมาย เรียกว่า อ่านพระคัมภีร์จบ คิดสักนาทีหรือไม่มีเวลาคิดก็เทศน์ได้ทันที เทศน์ไปคิดไป... พ่อจึงไม่เคยเขียนบทเทศน์ในการเทศน์ และที่เขียนอยู่ทุกวันเป็นปีๆนี้ก็เวลาเทศน์เองก็ไม่เคยตรงกับที่เขียน มีอะไรใหม่เสมอ เขียนทุกวันด้วยหวังจะแบ่งปันกับพี่น้องพระสงฆ์และคริสตชนที่ปรารถนา...
o มีคนบอกว่า พ่อเป็นนักบรรยาย เมื่อสามสี่วันก่อนในการประชุมนักธุรกิจคาทอลิก พ่อไปนั่งฟังสองวันเต็ม ทุกช่วง มีบรรยายเยอะมาก พ่อไม่โดดหายแม้สักช่วง นั่งฟังตลอดเลย ฟัง ฟัง วิทยากรพิเศษเก่งๆ จากต่างประเทศเยอะมาก...พ่อชอบฟัง... พระคุณเจ้าท่านหนึ่งพบพ่อระหว่างช่วงพัก ท่านก็คุยแกมหยอกพ่อว่า... “อ้าวเห็นมานั่งฟัง นึกว่าจะมาบรรยายกับเขาด้วย... ปกติเห็นเป็นแต่คนบรรยายตลอด วันนี้มาฟังเลยแปลกใจ” ว่าไปโน่นพระคุณเจ้าครับ.. แต่ก็จริงๆอย่างที่ท่านบอก เพราะผมพบพระคุณเจ้าเวลามีบรรยายให้กับสภาพระสังฆราชประจำ และผมก็เป็นคนบรรยายเสมอจริงๆ แต่พระคุณเจ้าจะทราบไหมหนอว่า... ปกติผมชอบฟัง ฟังได้เป็นเวลาวันๆไม่เบื่อ ขอให้เรื่องที่ฟัง “น่าฟัง” ถ้าไม่น่าฟังก็อย่าหวังว่าผมจะอดทน... อย่ามากก็นั่งเขียนเฟสบุคไป...

• พี่น้องที่รักครับ พ่อเป็นคนแบบนี้ เขียนได้ เทศน์ได้ และบรรยายได้เสมออย่างมีความสุข เพราะพ่อได้คำตอบจริงๆ พี่น้องเชื่อไหมว่า “การฟังคือพลังอันยิ่งใหญ่ที่สุด” สำหรับชาวอิสราเอล รับบีสอนคำสอนของโมเสส ประชากรต้องฟัง “อิสราเอลจงฟัง... Shema Israel นี่เป็นบัญญัติเลย” (เทียบ ฉธบ 6:4ff) บนภูเขาทาบอร์เสียงจากเมฆ เสียงของพระบิดาสั่งว่า “ท่านผู้นี้เป็นบุตรสุดที่รักของเรา จงฟังท่านเถิด” (เทียบ มก 9:2ff)

• พี่น้องที่รัก พ่อเชื่อมั่นและอยากแบ่งปันว่า “การฟังพระเจ้าฟังพระวาจาของพระเจ้า การฟังเทศน์สอนพระวาจาเสมอ การอ่าน(ฟัง) พระคัมภีร์เสมอ คือบ่อเกิด และยิ่งกว่านั้นสำหรับพ่อ คือ จุดสูงสุดของการเรียนรูทุกชนิด” พ่อยอมรับว่าพ่อไม่ชอบอ่านหนังสือเลยครับ ใครๆคิดว่าพ่อเป็นนักอ่าน... ใครๆนึกว่าพ่อค้นคว้ามากๆจึงเขียน บรรยาย เทศน์ได้เยอะ ไม่จริงครับ... พ่ออ่านหนังสือปีหนึ่งๆไม่จบสักเล่มครับ นี่คือความจริง (ไม่บาปเพราะไม่ได้โกหก แต่นี่คือความจริง) แต่พ่อชอบฟังจริงๆ ชอบฟังใครก็ตามที่พูดแล้วน่าฟัง น่าสนใจ พ่ออ่านแต่พระคัมภีร์เท่านั้นจริง ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็ฟังเขา ฟังจากวิทยุ จากสารคดี จากยูทูป ดูและฟังทุกรายการที่ชอบและสนใจ...และที่สำคัญมาก ชอบฟังเพลงดีๆ สาระดีๆ และดนตรีดีๆ เพียงเท่านี้จริงๆ ส่วนการฟังเทศน์ของคนอื่นพ่อก็จะตั้งใจฟัง แม้บางครั้ง ไม่น่าฟัง ไม่น่าสนใจ แต่พ่อตั้งใจฟังด้วยความใส่ใจ และบางครั้ง ก็ฟังด้วยความเห็นใจด้วย... และถ้าเป็นบรรดาพระสงฆ์ลูกศิษย์ พ่อยิ่งอยากฟัง เพราะรักพวกเขา อยากให้กำลังใจพวกเขา...

• พี่น้องที่รัก... พ่อชอบภาษาไทยของเรามากที่สรุปบวกการฟังเข้ากับความเชื่อหรือการเชื่อ จึงออกมาเป็นคำ “ความเชื่อฟัง” พ่อสรุปว่า “คนเราฟังเพราะเชื่อศรัทธา และการฟังเสริมกำลังความเชื่อ และความเชื่อศรัทธาทำให้เราอยากฟังมากขึ้นไป” พี่น้องว่าจริงไหมครับ
o พ่อสรุปว่า... พี่น้องครับ พี่น้องเชื่อในพระเยซูเจ้าใช่ไหม...พ่อไม่น่าถามไม่น่าสงสัย.. แต่คำถามที่อาจต้องตอบจากหัวใจคือพี่น้องรักที่จะฟังพระวาจา อ่านพระคัมภีร์ ฟังเทศน์ดีๆ เสมอไหมครับ... พ่อไม่เชื่อครับ ถ้อยคำที่บอกว่า “เทศน์ดีต้องเจ็ดนาที” นั่นเป็นการอ้างอย่างเบาความและเป็นการอ้างของคนเทศน์ไม่น่าสนใจต่างหาก... พ่อทดสอบมานาน พ่อเทศน์ไม่ยาวมาก วันอาทิตย์ 12-15 นาที แต่พ่อโดนตำหนิบ่อยว่า “พ่อเทศน์จำกัดเวลาทำไม ทำไมไม่เทศน์ต่อไปอีก เราอยากฟัง” (ตรงนี้พ่อว่าจริงเหมือนกันอาจไม่ใช่สำหรับทุกคน แต่พ่อเคยได้ยินคนบ่นพ่อเช่นนี้ เขียนบทเทศน์ทุกวันสามถึงสี่หน้า หลายคนบ่นว่ายาวจัง พ่อจะตอบว่า นั่นลูกอ่านนะ แต่พ่อเขียน ใครใช้เวลามากกว่ากัน) กับคณะนักบวช พ่อเทศน์เข้าเงียบครั้งละหนึ่งชั่วโมง หยุดครึ่งชั่วโมง แล้วเทศน์ต่อ พ่อเคยได้ยินซิสเตอร์ตำหนิ “พ่อหยุดทำไม ต่อไปเลย สองชั่วโมงเลย”
o บางทีพี่น้องเองก็ไปฟังทอล์กโชว์ จากดาราหาตังค์ เขาพูดเป็นชั่วโมง ยอมจ่ายเป็นพันๆ ไปฟัง เขาพูดไม่มีสาระ จับคนอื่นมาเป็นตลกหาตังค์ พูดสองแง่สามง่ามลามกวกไปมา แล้วคนฟังก็หัวเราะ และก็สรุปว่า เขาพูดดี.. ทั้งที่เจตนาของเขาคือ “เงิน”

• “ผู้ที่เชื่อในพระบุตรจะมีชีวิตนิรันดรท่านเชื่อเช่นนี้หรือ” พระเยซูเจ้าถามมาร์ธา (ดู ยน 11)
o พี่น้องครับ นิโคเดมัส ไม่ทราบว่า ฟังพระองค์เท่าไรในคืนนั้น...
o บรรดาศิษย์เชื่อ ฟังพระองค์ตลอดสามปี และทำตามพระองค์สอน
o พี่น้องคริสตชนที่รักครับ... ฟัง ฟัง ฟัง พระเยซู ฟังพระวาจา ฟังเสียงของพระเจ้าให้มาก ฟังเทศน์ด้วยความรัก (พระสงฆ์ ก็ต้องเทศน์อย่างดีที่สุด สุดกำลัง และฟังให้มากเหมือนกัน อีกทั้งดำเนินชีวิตตามคำเทศน์สอนด้วย)

• พี่น้องครับ เชื่อพ่อ พ่อไม่เก่ง ไม่ฉลาด แต่พ่อโชคดีอยู่อย่างหนึ่งซึ่งพวกเราทุกคนโชคดีเช่นกันที่พระพระวาจาที่ทรงตรัสกับเราทุกวันครับ.. ฟัง อ่าน ไตร่ตรอง และดำเนินชีวิต และพี่น้องจะเสริมความเชื่อให้เข้มแข็งครับ คงแปลแน่ ถ้าบอกว่ารักพระเจ้า เชื่อพระเจ้า แต่ไม่ฟังพระองค์เลย อ่อนพระคัมภีร์ ก็อ่อนหมดทุกอย่างจริงๆนะครับ... “เราจะไปหาใครพระเจ้าข้า พระองค์ผู้เดียวมีพระวาจาที่ให้ชีวิตนิรันดร” (ดู ยน 6:68)

• ฟังพระเจ้า พระปรีชาญาณ เราจะฉลาดที่สุด แม้ว่า กระแสโลกอาจจะบอกว่าเราโง่ก็ตาม... พระองค์สิ้นพระชนม์บนกางเขนเพื่อเรา เขาก็ว่าโง่และสะดุด.. แต่สำหรับพระองค์ นี่คือความรักและเป็นบ่อเกิดของความปรีชาแท้จริงในความรักและความจริง... ขอพระเจ้าอวยพร ฟังนะครับ

 

 

 

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก