“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

"พระคริสตเจ้าทรงเป็นผู้ใดสำหรับข้าพเจ้า" อธิบายพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมาระโก โดย บาทหลวงฟรังซิส ไก้ส์
“ท่านเห็นอะไรไหม ”

39.พระเยซูเจ้าทรงรักษาคนตาบอดที่เมืองเบธไซดา (มก 8:22-26)

822พระเยซูเจ้าเสด็จมาพร้อมกับบรรดาศิษย์ถึงเมืองเบธไซดามีผู้นำคนตาบอดคนหนึ่งมาขอให้พระองค์ทรงสัมผัส23พระองค์ทรงจูงคนตาบอดออกไปนอกหมู่บ้านทรงใช้พระเขฬะแตะตาของเขาทรงปกพระหัตถ์เหนือเขาตรัสถามเขาว่า “ท่านเห็นอะไรไหม” 24เขาเงยหน้าขึ้น ทูลตอบว่า “ข้าพเจ้าเห็นผู้คนเหมือนกับต้นไม้เดินไปเดินมา” 25พระองค์ทรงวางพระหัตถ์แตะตาของเขาอีกเขาก็เห็นชัดและหายเป็นปกติมองเห็นทุกอย่างได้ชัดเจน26พระเยซูเจ้าทรงส่งเขากลับบ้านตรัสว่า “อย่าเข้าไปในหมู่บ้าน”

 

a)    อธิบายความหมาย
ข้อความตอนนี้คล้ายคลึงกับเรื่องพระเยซูเจ้าทรงรักษาคนใบ้หูหนวก (เทียบ 7:31-37) ทั้งในด้านโครงสร้างการเล่าเรื่องและรายละเอียดหลายประการ ยิ่งกว่านั้น  เราพบเรื่องทั้งสองนี้เพียงในพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมาระโกเท่านั้น นักวิชาการบางคนจึงคิดว่า นักบุญมาระโกอาจจงใจเล่าเหตุการณ์หนึ่งเดียวในสองรูปแบบ แต่นักวิชาการส่วนใหญ่คิดว่า เหตุการณ์ทั้งสองเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงและนักบุญมาระโกเล่าเรื่องคล้ายกัน เพราะลีลาการเขียนของเขาเรียบง่ายยังไม่พัฒนาเท่าใดนัก หรือเพราะเขาได้รับการเล่าเรื่องในรูปแบบตายตัวเช่นนี้แล้วจากธรรมประเพณีเราจะพบว่านักบุญมาระโกจะเล่าเรื่องการรักษาคนตาบอดอีกครั้งหนึ่งในบทที่ 10:46-52คือบารทิเมอัสที่เมืองเยริโค

- พระเยซูเจ้าเสด็จมาพร้อมกับบรรดาศิษย์ถึงเมืองเบธไซดาพระเยซูเจ้าเสด็จลงเรือพร้อมกับบรรดาอัครสาวกจากบริเวณเมืองดาลมานูธา(เทียบ 8:10) มาถึงเมืองเบธไซดาที่อยู่ไม่ห่างไกลทางทิศตะวันออกของสถานที่ซึ่งแม่น้ำจอร์แดนไหลเข้าทะเลสาบกาลิลีในข้อต่อไป นักบุญมาระโกเรียกเมืองเบธไซดาว่า “หมู่บ้าน” (ข้อ 23 และ 26)เมืองเบธไซดานี้จึงไม่ใช่เมืองยูเลีย ซึ่งเป็นเมืองใหม่ที่กษัตริย์ฟิลิปทรงสร้างถวายเกียรติแด่ “เจ้าหญิงยูเลีย” พระธิดาของจักรพรรดิออกัสตัสแต่คงเป็นที่อยู่อาศัยของชาวประมงแถบชายทะเลสาบ เป็นบ้านเกิดของนักบุญเปโตร นักบุญอันดรูว์ และนักบุญฟิลิป อัครสาวก (เทียบ ยน 1:44; 12:21)  

- มีผู้นำคนตาบอดคนหนึ่งมาเช่นเดียวกับกรณีการรักษาคนใบ้หูหนวก (เทียบ 7:32)  มีผู้อื่นเป็นคนนำเขาไปพบพระคริสตเจ้า

- ขอให้พระองค์ทรงสัมผัส น่าสังเกตว่า การวอนขอของบรรดาพี่น้องแทนผู้เดือดร้อนมีความสำคัญมาก

- พระองค์ทรงจูงคนตาบอดออกไปนอกหมู่บ้านพระเยซูเจ้าทรงปรารถนาที่จะหลีกเลี่ยงความอยากรู้อยากเห็นของประชาชน (เทียบ 7:33)  

- ทรงใช้พระเขฬะแตะตาของเขา ทรงปกพระหัตถ์เหนือเขา เช่นเดียวกับในกรณีรักษาคนใบ้หูหนวก (เทียบ 7:33) พระเยซูเจ้าทรงใช้พระเขฬะแตะตาของคนตาบอด เพื่อทรงอนุโลมให้เป็นไปตามความเชื่อถือของประชาชนทั่วไปที่มั่นใจว่าน้ำลายมีฤทธิ์รักษาโรคหลายชนิด

- ตรัสถามเขาว่า “ท่านเห็นอะไรไหม” การที่พระเยซูเจ้าตรัสถามเช่นนี้ไม่หมายความว่า พระองค์ทรงสงสัยในผลสำเร็จของการรักษา แต่นักบุญมาระโกเล่าเรื่องการรักษาคนตาบอดอย่างเป็นขั้นตอน เพื่อแสดงว่าพระองค์ทรงกำลังเปิดสติปัญญาของบรรดาศิษย์ทีละเล็กทีละน้อย เพราะเขาเป็นเหมือนคนตาบอดฝ่ายจิตใจซึ่งยากที่จะเข้าใจพระองค์ เขามีตาแต่มองไม่เห็น (เทียบ 8:18)

- เขาเงยหน้าขึ้น ทูลตอบว่า “ข้าพเจ้าเห็นผู้คนเหมือนกับต้นไม้เดินไปเดินมา” ในต้นฉบับภาษากรีก คำพูดเหล่านี้ของคนตาบอดไม่ค่อยชัดเจน แต่ต้องการเน้นความยากลำบากของการรักษาโรค ทำให้อัศจรรย์ที่พระเยซูเจ้ากระทำนั้นยิ่งใหญ่

- พระองค์ทรงวางพระหัตถ์แตะตาของเขาอีก พระเยซูเจ้าทรงสัมผัสคนตาบอดอีกครั้งหนึ่ง เป็นสัญลักษณ์แสดงว่าพระองค์ทรงจำเป็นต้องกระทำบางสิ่งบางอย่างอีกต่อไป เพื่อบรรดาศิษย์จะได้เข้าใจพระธรรมล้ำลึกของพระองค์มากยิ่งขึ้น (เทียบ 8:27-30)

- เขาก็เห็นชัด และหายเป็นปกติ มองเห็นทุกอย่างได้ชัดเจน ในที่สุด เมื่อบรรดาศิษย์ยอมรับว่าตนยังมองเห็นไม่ชัดเจนว่าพระองค์ทรงเป็นผู้ใด พระเยซูเจ้าก็จะทรงส่องแสงสว่างเหนือเขาต่อไป และเมื่อพระองค์ทรงกลับคืนพระชนมชีพแล้ว เขาจะได้เห็นอย่างชัดเจนและเข้าใจพระองค์อย่างสมบูรณ์

- พระเยซูเจ้าทรงส่งเขากลับบ้าน เป็นนัย ๆ ว่าผู้หายจากตาบอดเชื่อฟังพระองค์ และเดินทางกลับบ้าน ส่วนบารทิเมอัส เมื่อหายจากตาบอดก็จะเดินทางติดตามพระองค์ไป (เทียบ 10:52)  

- ตรัสว่า “อย่าเข้าไปในหมู่บ้าน”พระบัญชาของพระเยซูเจ้ามีจุดประสงค์เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ประชาชนไปป่าวประกาศความยิ่งใหญ่ของพระองค์ และก่อให้เกิดความนิยมชมชอบผิดๆเพราะประชาชนคิดว่าพระองค์เป็นพระเมสสิยาห์กษัตริย์ผู้จะทรงช่วยเขาให้เป็นอิสระ พ้นจากการปกครองของชาวโรมัน ดังที่นักบุญมาระโกเน้นหลายครั้ง (เทียบ 1:44; 5:43; 7:36)

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก