รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันเสาร์ที่ 23 กันยายน 2017
สัปดาห์ที่ยี่สิบสี่ เทศกาลธรรมดา
ลก 8:4-15…
          4ขณะนั้นประชาชนจำนวนมากเดินทางจากเมืองต่างๆ มาเฝ้าพระเยซูเจ้าและชุมนุมกัน พระองค์จึงทรงกล่าวเป็นอุปมาว่า 5”ชายคนหนึ่งออกไปหว่านเมล็ดพืช ขณะที่กำลังหว่านอยู่นั้น บางเมล็ดตกอยู่ริมทางเดิน จึงถูกเหยียบย่ำ และนกในอากาศจิกกินจนหมด 6บางเมล็ดตกบนหิน พองอกขึ้นมาก็เหี่ยวแห้งเพราะขาดความชุ่มชื้น 7บางเมล็ดตกกลางกอหนาม ต้นหนามที่งอกขึ้นพร้อมกันก็คลุมไว้จนตาย 8บางเมล็ดตกในที่ดินดี จึงงอกขึ้นและเกิดผลร้อยเท่า” พระองค์ตรัสดังนี้แล้วทรงเปล่งเสียงดังว่า “ใครมีหูสำหรับฟัง ก็จงฟังเถิด”


9บรรดาศิษย์ทูลถามพระองค์ว่า อุปมาเรื่องนี้มีความหมายว่าอย่างไร 10พระองค์จึงตรัสว่า “พระเจ้าโปรดให้ท่านรู้ธรรมล้ำลึกเรื่องพระอาณาจักรของพระเจ้าอย่างชัดเจน แต่สำหรับคนอื่นพระองค์โปรดให้รู้เป็นอุปมาเท่านั้น เพื่อว่า
เขาจะมองแล้วมองอีก แต่ไม่เห็น
ฟังแล้วฟังอีก แต่ไม่เข้าใจ

11“อุปมามีความหมายดังนี้ เมล็ดพืชคือพระวาจาของพระเจ้า 12เมล็ดที่ตกริมทางเดิน หมายถึงบุคคลที่ได้ฟังพระวาจา ต่อจากนั้น ปีศาจก็มาช่วงชิงพระวาจาออกไปจากใจของเขา มิให้เขามีความเชื่อและรอดพ้น 13เมล็ดที่ตกบนหินหมายถึงบุคคลที่ฟังแล้วรับพระวาจาไว้ด้วยความยินดี แต่ไม่มีราก เขามีความเชื่ออยู่เพียงชั่วระยะหนึ่ง เมื่อถึงเวลาถูกผจญ เขาก็เลิกเชื่อ 14เมล็ดที่ตกในกอหนาม หมายถึงบุคคลที่ฟังพระวาจาแล้วปล่อยให้ความกังวลถึงทรัพย์สมบัติและความสนุกของชีวิตมาบีบรัด จึงไม่เกิดผล 15ส่วนเมล็ดที่ตกในที่ดินดีหมายถึงบุคคลที่ฟังพระวาจาด้วยใจดีเลิศ ยึดพระวาจาไว้ด้วยความพากเพียรจนเกิดผล

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง

• “เมล็ดพืชคือพระวาจาของพระเจ้า” วันนี้พ่ออ่านพระวรสารนักบุญลูกา เรื่อง “ผู้หว่าน” กลับมาอีกครั้ง แต่เป็นการถ่ายทอดของนักบุญลูกา และพ่อก็นั่งพิจารณาอยู่นานว่า “เรื่องผู้หว่าน” ที่กลับมาอีกครั้ง พ่อจะให้อรรถาธิบายเรื่องนี้อย่างไร จะเทศน์อะไรดีหนอ
o เรื่องผู้หว่านเราก็ทราบกันดี อ่านมากันบ่อย และเราก็รู้ว่า อุปมาเรื่องผู้หว่านนี้กำลังท้าทายเราให้เปิดใจรับพระวาจาของพระเจ้า และบ่อยครั้ง เราก็ประเมินกันเสมอว่า เราเป็นดินชนิดไหน ทางเดินที่มีนกมาจิกกิน ดินปนหิน ดินในที่คลุมด้วยกอหนาม หรือเนื้อดินดี...
o พระวาจาวันนี้ อุปมาเรื่องผู้หว่านที่กลับมาในพระวรสารนักบุญลูกาวันนี้ พ่อจะเทศน์หรือให้อรรถาธิบายอย่างไรดี...

• พ่อไตร่ตรอง ที่สุด พ่อคิดว่าวันนี้พ่อคิดถึงประโยคที่ว่า “เมล็ดพืชคือพระวาจาของพระเจ้า” วันนี้ พ่อมาสังเกตที่คำนี้ พระวาจาของพระเจ้าเป็นเมล็ดพืช พ่อมีประสบการณ์นิดหน่อยครับ
o ครั้งนึ่งนานมาแล้ว พ่อได้รับเชิญให้ไปบรรยายให้กับการประชุมใหญ่ เป็นการสัมมนาใหญ่ประจำปีของสภาการศึกษาคาทอลิกแห่งประเทศไทย ที่โรงแรมเอเชียพัทยา พ่อจำได้ว่าครั้งนั้นพ่อเขาเชิญพ่อไปบรรยายเรื่อง “การศึกษาคาทอลิก”
o พ่อจำได้ว่า พ่อได้ตอบรับเชิญไปแบบที่เรียกว่าจำยอมต้องรับเพราะคนเชิญนั้น พ่อเชิญเขาบ่อยๆและเขาไม่เคยปฏิเสธ... แต่พ่อไม่ใช่นักการศึกษา พ่อไม่ได้เรียนอะไรเกี่ยวกับเรื่องการศึกษาเลยแม้แต่น้อย ไม่มีประสบการณ์บริหารโรงเรียนคาทอลิกเลย... พ่อมีแต่พระคัมภีร์ที่พ่อเรียนมา และมีอยู่ในมือในใจและในสมองอยู่บ้าง
o พ่อจำได้ว่า พ่อเดินคิดไตร่ตรองและก็เขียนหลายสิ่งหลายอย่างออกมา... แต่ที่สุด พ่อมาถึงคำที่ว่า “การศึกษา” คือ คำว่า “Education” และพ่อก็ใคร่ครวญคำนี้ในภาษาลาตินและภาษาอื่นๆเทียบเคียงที่พ่อจะศึกษาได้
o ที่สุด พ่อได้พบความ คำว่าการศึกษา หรือ education นี้ มีรากจากภาษาลาตินที่สวยงามมาก เพราะความหมายคือการดึงหรือทำให้ “ศักยภาพ” ที่มีอยู่แล้วได้ปล่อยพลังแห่งศักยภาพนั้นออกมา เติบโตออกมา...
o ที่สุด พ่อก็พยายามหารูปเพื่อทำสไลด์หรือภาพนำเสนอที่เหมาะสม... จังหวะดีมากครับ พ่อได้เห็นภาพ “เมล็ดพันธุ์ที่กำลังงอกออกมาเป็นหน่อเล็กๆที่แทงตัวเองออกมาจากเมล็ดนั้น” พ่อชอบมาก เหมาะมากกับการนำเสนอ เรื่องการศึกษา ซึ่งหมายถึง “การดึงเอาศักยภาพที่มีอยู่แล้วในเมล็ดให้งอกออกมา เติบโตออกมา จนกลายเป็นต้นไม้ใหญ่ในที่สุด”

• พี่น้องที่รัก พ่อจำได้ว่า ที่สุด รูปเมล็ดที่งอกออกมานั้นกลายเป็นภาพหลักที่พ่อใช้เพื่อการบรรยายงานใหญ่ในครั้งนั้น และวันนี้ เมื่อได้อ่านอุปมาเรื่องผู้หว่านอีกครั้ง พ่อคิดถึงความหมายสำคัญ คือ “เมล็ดคือพระวาจาของพระเจ้า”
o พี่น้องครับ พ่อรู้สึกได้จริงๆว่า ในพระวาจาของพระเจ้า “ในเมล็ดแห่งพระวาจา” นั้น ๆมีพลังแห่งการงอกออกมา เติบโต และกลายเป็นต้นไม้ใหญ่ที่ส่งพลังออกมาเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่เท่าที่ศักยภาพนั้นจะเติบโตออกมาได้
o พ่อคิดถึงต้นไม้ใหญ่โตมโหฬารขนาดไหน บ่อยๆ ก็มาจากเมล็ดเล็กๆ ที่เมื่อได้หว่านลงไปแล้ว ก็ส่งพลังจากภายในออกมาจนสามารถเกิดเป็นต้นและเกิดผลได้มากมายจริงๆ

• ใช่ครับ พี่น้องครับ ข้อคิดสำคัญวันนี้ คือ
o “เมล็ดพืชคือพระวาจาของพระเจ้า”... พ่อเขียนไป พ่อรู้สึกดีจริงๆ ว่า... จำเป็นมากครับ จำเป็นมากจริงๆที่พวกเรา พ่อเอง และพี่น้องคริสตชนที่รักทุกท่านครับ ที่พวกเราจะต้องช่วยกัน “หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งพระวาจาของพระเจ้า”
o พ่อคิดว่าถึงเวลาสำคัญแห่งชีวิตคริสตชนของเราที่จะต้องร่วมกันเป็น “ศิษย์พระคริสต์” ที่เจริญชีวิตเพื่อ “ประกาศข่าวดีใหม่” กันให้เข้มข้นมากๆครับ พ่ออ่านพระคัมภีร์วันนี้ พร้อมกับสมัชชาฯใหญ่ของพระศาสนจักรคาทอลิกในประเทศไทย พ่อมั่นใจ
o และคิดว่าถึงเวลาแล้วครับ ถึงเวลาจริงๆนะที่พวกเราจะต้องช่วยกัน ร่วมมือกัน “หว่านพระวาจาของพระเจ้า หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งพระวาจาของพระเจ้า” ให้มากที่สุดครับ ถึงเวลาที่เราต้องออกแรงเต็มที่ครับ

• หน้าที่สำคัญของเราคือ
o รักพระวาจา อ่านพระวาจาของพระเจ้าให้มากกว่าที่เคย
o ช่วยกันหว่านครับ ประกาศพระวาจาของพระเจ้าให้เต็มกำลังของเรา
o ช่วยกันดึงศักยภาพแห่งพระวาจาของพระเจ้า คือ หลังแห่งความเชื่อ ความรัก และความหวังเต็มเปี่ยม...ครับ

• เร็วๆนี้มีโฆษณาทางทีวีครับ... ที่ชาวนาพยายามทำนา พรวนดิน ปลูก โดยไม่ใช้ปุ๋ยเคมี หัวใจของคำในโฆษณา คือ “ต้องเชื่อในพลังของดิน” โฆษณานั้น ย้ำคำซ้ำแล้วซ้ำอีก “เชื่อในพลังของดิน” พ่อยากจะเลียนแบบจากโมฆษณานั้น และย้ำเตือนตนเองพร้อมกับพี่น้องครับว่า “พี่น้องครับ เราต้องเชื่อในพลังแห่งเมล็ดพันธุ์แห่งพระวาจา”.. ย้ำว่า “เราต้องเชื่อในพลังของพระวาจาของพระเจ้า” นะครับ

• พ่อเชื่อว่าถึงเวลาที่เราจะต้องมุ่งช่วยกัน “หว่าน” หว่านพระวาจาของพระเจ้าด้วยการ
o ฟัง อ่านพระวาจามากขึ้น
o เจริญชีวิตตามพระวาจาของพระเจ้ามากกว่าที่เคยครับ
o ประกาศพระวาจา เล่าเรื่องพระวาจา ในประสบการณ์ที่เราได้เจริญชีวิตตามพระวาจาของพระเจ้าให้มากกว่าที่เคยครับ

• พ่อขอเชิญชวนให้เราเชื่อใน “ศักยภาพหรือพลังแห่งพระจาของพระเจ้า” คือ “พลังแห่งความเชื่อ พลังแห่งความรัก และพลังแห่งความหวังเต็มเปี่ยม” ซึ่งพลังนี้มีอัดแน่นเต็มเปี่ยมในพระคัมภีร์หรือในพระวาจาของพระเจ้าจริงๆครับ... มั่นใจได้เลยครับ

• ขอให้เราเชื่อในพลังของเมล็ดพันธุ์แห่งพระวาจา และให้เราได้ช่วยกันหว่านพระวาจาของพระเจ้าด้วยกันสุดกำลังแห่งความเป็นคริสตชนของพวกเรานะครับ.. และที่สำคัญให้พลังแห่งพระวาจาของพระเจ้าที่เราได้รับ คือ พลังแห่งความเชื่อ ความรัก และความหวัง อีกทั้งความเมตตากรุณามากมาย... ที่พระเจ้าได้หว่านไว้ในชีวิตเราได้ส่งพลังออกมาอย่างจริงจังจากชีวิตขอเราเสมอนะครับ...

• ขอพระเจ้าอวยพรครับ