บทเทศน์โดยพระสังฆราชฟรังซิสเซเวียร์  วีระ  อาภรณ์รัตน์

สมโภชพระคริสตสมภพ (มิสซากลางคืน)
24  ธันวาคม   2013
บทอ่าน    อสย  9: 1-6  ;  ทต  2: 11-14  ;  ลก  2: 1-14
พระวรสารสัมพันธ์กับ    คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก  (CCC)  333, 437, 448, 486, 515, 525, 559, 695, 725
จุดเน้น    เจ้าแห่งสันติทรงบังเกิดใหม่แล้ว  ให้เราชื่นชมยินดีกันเถิด


    “ประชากรที่เดินในความมืด  แลเห็นความสว่างยิ่งใหญ่”  นี่คือคำพูด  คำสัญญา ที่ประกาศกอิสยาห์ได้ให้เราประมาณ  700 ปี ก่อนพระเยซูเจ้าทรงบังเกิด  ประมาณ  30 ปี หลังจากการกลับคืนพระชนมชีพ  นักบุญเปาโลได้เขียนจดหมายถึงทิตัสว่า  “พระหรรษทานของพระเจ้าปรากฏขึ้น”  เพียงไม่กี่ปีต่อมา  นักบุญลูกาได้บันทึกว่า  ทูตสวรรค์จำนวนมากร้องประกาศข่าวดีที่จะทำให้ประชาชนทุกคนยินดีอย่างยิ่ง  คืนนี้เราฉลองความสว่างนี้  เราฉลองพระหรรษทานนี้  เราฉลองข่าวดีนี้  พระผู้ไถ่ทรงบังเกิดแล้ว  ทรงนำอาณาจักรแห่งความยุติธรรมและสันติสุขมาให้เรา

    อย่างไรก็ดี  เมื่อเรามองดูสังคมโลกรอบตัวเรา  ยังคงมีความรุนแรง  ความยากจน  ความอยุติธรรม  และความทุกข์จากพิษภัยต่างๆ    พี่น้องอาจสงสัยว่า  เราจะสามารถพบอาณาจักรแห่งสันติสุขได้ที่ใด  เราจะพบว่าคำสัญญาของประกาศกเป็นจริงที่ใด  มีน้ำใจดีและสันติสุขบนแผ่นดินที่ใด

    คืนพระคริสตสมภพนี้  ขณะที่เราไตร่ตรองปัญหาต่างๆ ของสังคมโลกทุกวันนี้  เราต้องระลึกถึงอุปมาที่พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาศิษย์  เรื่องเมล็ดมัสตาร์ด  มันเป็นเมล็ดเล็กๆ  แต่เมื่องอกขึ้นเป็นต้นแล้ว  กลับมีขนาดใหญ่โต... กลายเป็นต้นไม้  จนกระทั่งนกมาทำรังอาศัยบนกิ่งได้ (มธ 13: 31-32)  นี่เป็นภาพลักษณ์ที่พระเยซูเจ้าสอนบรรดาศิษย์เรื่องพระอาณาจักรพระเจ้า  กว้างใหญ่  มีสันติสุข  ดังที่ประกาศกอิสยาห์ได้กล่าวถึง  อาณาจักรนี้เริ่มจากเล็กๆ  ดังกุมารน้อยในผ้าห่มและฟางในรางหญ้า  ที่ห่างไกลจากบ้านของพ่อแม่

    ผู้เลี้ยงแกะเป็นกลุ่มแรกที่ได้ยินข่าวดีนี้  ในสมัยนั้นถือว่าพวกคนเลี้ยงแกะเป็นประชากรชั้นต่ำที่สุดในอิสราเอล  แต่กษัตริย์ดาวิดก็เคยเป็นคนเลี้ยงแกะ  ซึ่งในยุคพันธสัญญาเดิมถือว่าต่ำต้อย  ไม่มีใครสนใจ  และอยู่ชายขอบ
    ดังนั้น  ความสว่างนี้  พระหรรษทานนี้  และข่าวดีที่เราฉลองคืนนี้  ได้เข้ามาสู่โลกในคอกสัตว์ยากจน  มีบรรดาคนเลี้ยงแกะที่สังคมไม่สนใจกลับเป็นพยานกลุ่มแรก  เรื่องนี้สอนเรามากเกี่ยวกับธรรมชาติของวันพระคริสตสมภพ     คืนนี้เราฉลองเจ้าแห่งสันติ  ซึ่งราชอาณาจักรมิใช่ประเทศอิสราเอล  หรือ สหรัฐอเมริกา  หรือ กรุงโรม  หรือ ที่อื่นใดในโลก  แต่เป็นหัวใจของเรา  เราชื่นชมยินดีในที่ปรึกษามหัศจรรย์  พระเจ้าผู้ทรงอำนาจ  และพระบิดานิรันดร  เขาจะสถาปนาไว้และเชิดชูด้วยความยุติธรรมและความรัก  ซึ่งเป็นแก่นชีวิตของเรา

    เราจงเปล่งเสียงสรรเสริญเทิดเกียรติพระเมสสิยาห์  พระผู้ไถ่  ผู้เสด็จเข้ามาในโลกเป็นกุมารน้อย  แต่พระกายทิพย์ในปัจจุบันยิ่งใหญ่กว่ามนุษยชาติ  พระกายทิพย์นี้เป็นหนึ่ง  ที่เอาใจใส่  รัก  ให้กำลังใจ  สั่งสอน  และส่องหนทาง  และเผยแสดงอาณาจักรแห่งสันติสุขด้วยมือ (ทำงาน) หลากหลาย  ค้ำจุนโลกที่กำลังป่วย  เยียวยารักษาและนำพามายังแสงสว่างด้วยเท้าก้าวเดินด้วยกัน     ทั้งด้วยเสียง  ด้วยมือ  ด้วยเท้าก้าวเดินด้วยกัน  ร่างกายเดียวกัน  ซึ่งเป็นของขวัญแก่โลก

    เราฉลองกุมารน้อยในวันพระคริสตสมภพ  ซึ่งเป็นของขวัญแก่โลก  พันธกิจของพระองค์  เพื่ออาณาจักรแห่งความยุติธรรมและสันติสุขได้เริ่มใหม่แล้วคืนนี้ในเราแต่ละคน

พระสังฆราช  วีระ  อาภรณ์รัตน์  แปล
จาก  Homilies  โดย Catholic  Diocese  of  Lansing,
(ตุลาคม – ธันวาคม 2013), หน้า 510-512.