บทเทศวันอาทิตย์ โดย ฯพณฯ ฟรังซิสเซเวียร์ วีระ อาภรณ์รัตน์
อาทิตย์ที่  30  เทศกาลธรรมดา
วันอาทิตย์แพร่ธรรม
วันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม  2011
บทอ่าน
: อสย. 56:1, 6 - 7 ;    กจ. 13:46 – 49 ;    มธ. 28:19 – 20

            ทุกวันอาทิตย์ที่สี่ของเดือนตุลาคม  พระศาสนจักรคาทอลิกถือเป็น  วันแพร่ธรรมสากล  (World  Mission  Sunday) ตั้งแต่ ค.ศ. 1926 สมเด็จพระสันตะปาปาปีโอ ที่ 11 ให้สมณองค์การประกาศพระวรสารสู่ปวงชน  รับผิดชอบดำเนินการส่งเสริมคริสตชน  ให้ตระหนักถึงความสำคัญของงานธรรมทูต
           พระเยซูเจ้าตรัสว่า  “ท่านทั้งหลายจงไปสั่งสอนนานาชาติ  ให้มาเป็นศิษย์ของเรา”  (มธ. 28:19)  นักบุญ
           เปาโลกล่าวว่า  “พวกเขาจะเชื่อได้อย่างไร  ถ้าไม่เคยได้ยิน  จะได้ยินได้อย่างไร  ถ้าไม่มีใครประกาศสอน  จะมีผู้ประกาศสอนได้อย่างไร  ถ้าไม่มีใครส่งไป”  (รม. 10:14-15)
           สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์  ที่ 16  ได้ออกสาส์นวันแพร่ธรรมสากล  2011  ถึงเรา  พ่อขอนำบางตอนมากล่าว  คือ 

ความรับผิดชอบร่วมกันของทุกคน

             พันธกิจแพร่ธรรมหมายถึงทุกคน  ทุกสิ่งและเสมอไป  ข่าวดีมิใช่เป็นสิทธิหรือสมบัติจำเพาะของผู้ที่ได้รับมา แต่เป็นของขวัญที่จะต้องแบ่งปันกัน  ข่าวดีนี้จะต้องส่งมอบต่อไปให้ผู้อื่น  ของขวัญและหน้าที่นี้ถูกนำมามอบไม่ใช่สำหรับคนบางคนเท่านั้น แต่สำหรับทุกคนที่ได้รับศีลล้างบาป  ผู้ที่เป็น “ประชาชาติที่ทรงเลือกสรรไว้... เป็นชนชาติศักดิ์สิทธิ์ เป็นประชากรที่เป็นกรรมสิทธิ์พิเศษของพระเจ้า” (1 ปต. 2 : 9)  เพื่อประกาศพระฤทธานุภาพของพระองค์

             เป็นสิ่งสำคัญยิ่งที่ทั้งผู้ที่ได้รับศีลล้างบาปและชุมชนพระศาสนจักรจะต้องมีส่วนร่วมไม่ใช่เพียงครั้งเดียวหรือในบางโอกาสเท่านั้น แต่จะต้องทำอย่างสม่ำเสมอดุจเป็นหนทางแห่งชีวิตคริสตชน  วันแพร่ธรรมมิใช่เป็นแค่วันพิเศษวันเดียวในรอบปี แต่เป็นโอกาสที่เราจะต้องหยุด  และไตร่ตรองว่า เราได้ตอบสนองต่อกระแสเรียกแห่งการเป็นธรรมทูต  ในฐานะที่เป็นการตอบสนองที่สำคัญที่สุดเพื่อชีวิตของพระศาสนจักรอย่างไร

การประกาศข่าวดีทั่วโลก
               การประกาศข่าวดีเป็นกระบวนการที่ค่อนข้างสลับซับซ้อน  และรวมปัจจัยหลายอย่างด้วยกัน  หนึ่งนั้นคือแรงบันดาลใจ งานธรรมทูตนั้นต้องใส่ใจเป็นพิเศษเสมอในเรื่องของการเอื้ออาทร นี่คือเป้าหมายอีกประการหนึ่งของวันแพร่ธรรมสากลด้วย  ซึ่งโดยสมณองค์กรสนับสนุนงานแพร่ธรรม (PMS : Pontifical Mission Societies) มีการวิงวอนขอความช่วยเหลือให้ทำการประกาศข่าวดีต่อไปในดินแดนธรรมทูต  ทั้งนี้หมายถึงให้การสนับสนุนสถาบันอันเป็นสิ่งจำเป็นในการจัดตั้ง และผนึกพลังของพระศาสนจักรโดยอาศัยครูสอนคำสอน บ้านเณร พระสงฆ์ รวมถึงการให้ทานเพื่อพัฒนาสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนในประเทศที่มีความยากจน การขาดอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การขาดอาหารของเด็ก โรคพยาธิ ขาดบริการสาธารณสุข และการศึกษาที่ยังอยู่ในสภาพที่ยังน่าเป็นห่วง  เหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งแห่งพันธกิจของพระศาสนจักร  ในการประกาศข่าวดีพระศาสนจักรให้ความสำคัญเกี่ยวกับชีวิตมนุษย์อย่างยิ่ง

             ขอให้วันแพร่ธรรมสากลปลุกความชื่นชมยินดีและความปรารถนาในแต่ละคนให้ “ออกไป” พบกับมนุษย์โดยการนำพระคริสตเจ้าไปให้ทุกคน ในพระนามของพระองค์ข้าพเจ้าขออำนวยพรมายังทุกท่าน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องทำงานหนักและทนทุกข์มากที่สุดเพื่อเห็นแก่ข่าวดี (จากนครวาติกัน วันที่ 6 มกราคม 2011 วันสมโภชพระคริสตเจ้าแสดงองค์)

             ประเทศไทยมีเสรีภาพในการนับถือศาสนา  เราได้รับพระพรให้เป็นคริสตชนคาทอลิก  แม้จะเป็นเพียงคนกลุ่มน้อย  ในสังฆมณฑลเชียงใหม่หากมีพี่น้องที่สนใจข่าวดี  เรื่องชีวิตและคำสอนของพระเยซูเจ้า  ท่านจะสนใจ  ต้อนรับ  และสนทนากับเขาได้ไหม

              พระสงฆ์  นักบวช  ครูคำสอน  ท่านมีหน้าที่เป็นธรรมทูตกับผู้อยู่ใกล้บ้านหรือในเขตวัดของท่าน  พ่อแม่ผู้ปกครองที่รัก  ท่านเป็นครูคำสอนคนแรกของลูก  ขอขอบคุณพระสงฆ์  นักบวช  และฆราวาสธรรมทูต  ทั้งชาวต่างประเทศและชาวไทย  ที่มาเป็นธรรมทูตในสังฆมณฑลของเรา

              เงินบริจาคในมิสซาวันอาทิตย์  ที่   23  ตุลาคม  นี้  จะนำไปช่วยงานแพร่ธรรมของพระศาสนจักร
              ขอให้เราสวดสายประคำ  ร่วมโครงการ  คาทอลิกไทยพร้อมเพรียง  ไม่สิ้นเสียงสายประคำ  ในเดือนตุลาคม  สวดสายประคำธรรมทูตเป็นพิเศษ  และช่วยกันทำให้คนใกล้เคียงมีสันติสุขยิ่งขึ้น  1  คน  ในเดือนนี้

พระสังฆราชวีระ  อาภรณ์รัตน์