บทเทศน์โดยพระสังฆราชฟรังซิสเซเวียร์  วีระ  อาภรณ์รัตน์

วันอาทิตย์ที่ 12 เทศกาลธรรมดา
25 มิถุนายน 2017
บทอ่าน    ยรม  20:10-13  ;    รม  5:12-15  ;    มธ  10:26-33
พระวรสารสัมพันธ์กับ    คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก (CCC)   14, 305, 363, 1034, 1816, 2145
จุดเน้น    เมื่อรับศีลล้างบาป  เราถูกเรียกให้เป็นประจักษ์พยานถึงความเชื่อ


           ทุกยุคทุกสมัย  พระคริสต์และพระศาสนจักรถูกเบียดเบียนมาตลอด  แม้คำสอนของพระองค์เรื่องความรัก  และความสงสาร (หรือบางทีเพราะสาเหตุนี้เอง)  บรรดาผู้นำและประชาชนได้สบประมาทพระเยซูเจ้า  แม้เวลาสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน  และการกลับคืนพระชนมชีพก็มิได้ชนะใจทุกคนว่า  พระองค์ทรงเป็นบุตรพระเจ้า  เป็นพระเมสสิยาห์ที่พวกเขารอคอย  ศิษย์บางคนได้ละทิ้งพระองค์  บรรดาอัครสาวกได้พบกับการถูกเยาะเย้ยและความตาย  บรรดาคริสตชนสมัยแรกนับไม่ถ้วนถูกประหารชีวิตเป็นมรณสักขียืนยันความเชื่อ  มีกลุ่มศาสนาแตกแยกทางความเชื่อและข้อปฏิบัติทางพิธีกรรม  มีสงครามการต่อสู้กัน เช่น สงครามครูเสด  มีทหารรับจ้างมาทำสงคราม  แย่งชิงอาณาจักรฝ่ายโลก  มีความแตกแยกในศาสนา  และแนวความคิดทางการเมือง

    วันนี้  เราพบประกาศกเยเรมีย์  พระเจ้าได้เรียกท่านขณะยังเป็นหนุ่มให้เป็นประกาศก  ในระหว่างการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง  ท่านกล่าวว่า “ข้าพเจ้าได้ทูลเสนอคดีของข้าพเจ้าให้ทรงทราบแล้ว”  แม้ถูกจับคุมขัง  ถูกเฆี่ยน  ถูกข่มขู่จากศัตรู  บรรดาผู้เคยเป็นมิตร  และวิกฤติภายในใจตนเอง  เยเรมีย์ก็ยังคงซื่อสัตย์มั่นคง  เพราะท่านรู้ว่าพระเจ้าทรงอยู่ข้างท่านเหมือนนักรบทรงพลัง

    นักบุญเปาโลเตือนใจชาวโรมว่า  อาดัมได้นำบาปและความตายเข้ามาในโลก  และดังนั้นความตายก็แพร่กระจายไปถึงมนุษย์ทุกคน  เพราะทุกคนทำบาป  ท่านได้เปรียบเทียบผลความไม่เชื่อฟังของอาดัมต่อพระประสงค์ของพระเจ้า  กับการเชื่อฟังอย่างสิ้นเชิงของพระคริสตเจ้าต่อพระประสงค์ของพระบิดา  และผลนั้นมนุษยชาติแต่ละคนก็ได้รับ  คนหนึ่งเป็นสาเหตุของสภาพแวดล้อมของมนุษย์  อีกคนหนึ่ง (พระเยซูเจ้า) เป็นแหล่งกำเนิดความรอดพ้น

    หลายอาทิตย์ที่ผ่านมา  เราฟังเรื่องราวพระวรสารที่พระคริสตเจ้าทรงเรียกบรรดาอัครสาวก  ทรงแบ่งปันเรื่องความรักเมตตาของพระบิดากับพวกเขาแต่ละคน  แต่ในเวลาเดียวกัน  พระเยซูเจ้าก็รู้ว่าพวกเขาพบปะโลกที่เป็นศัตรูต่อคำสอนของพระเยซูเจ้า    ในพระวรสารวันนี้  พระเยซูเจ้าทรงสั่งสอนพวกเขาต่อว่า  อย่ากลัวมนุษย์เลย... จงกล่าวออกมาในที่สว่าง  จงประกาศบนดาดฟ้า  พระบิดาผู้ทรงดูแลนกกระจอกทรงคุ้มครองพวกเขา  แต่เหนือสิ่งใด  พวกเขาไม่ควรปฏิเสธพระคริสตเจ้าต่อหน้าคนอื่นๆ

    เหมือนประกาศกเยเรมีย์และบรรดาอัครสาวก  พระเยซูเจ้าทรงเรียกเราด้วย  เมื่อรับศีลล้างบาป  เราได้กลายเป็นศิษย์ติดตามพระองค์  โดยอาศัยพระหรรษทานของศีลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ  และการสนับสนุนของชุมชนศริสตชนในเขตวัด  เราก็ถูกเรียกให้แบ่งปันความเมตตา  ความรักและความรอดพ้นโดยอาศัยพระเยซูคริสตเจ้า  เราเผชิญกับสังคมที่อาจเป็นศัตรูกับศาสนาคริสต์  และไม่สนใจคำสอนนี้  ดังนั้น  เราจะทำอย่างไร  เราเคยเงียบเกินไปไหม  อ่อนแอเกินไป  ไม่สนใจข่าวสารข้อมูลเกินไป  เราจะยืนขึ้นประกาศวัฒนธรรม (ที่พระเยซูเจ้าสอน)  หรือเราจะยอมแพ้ต่อการประจญต่างๆ  เราเคยปฏิเสธพระคริสตเจ้าต่อหน้าคนอื่นๆ ไหม    ให้เราภาวนาต่อไป  ขอพระหรรษทานของพระเป็นเจ้าสนับสนุนเรา  เพื่อเราจะเป็นประจักษ์พยานดีขึ้นต่อความจริงแห่งพระวรสาร  และความรอดพ้นต่อสังคมที่ต้องการฟัง

พระสังฆราช  วีระ  อาภรณ์รัตน์  แปล
จาก  Daily Homilies โดย Catholic  Diocese  of  Lansing,
(เมษายน-มิถุนายน  2017), หน้า 277-279.