"พระคริสตเจ้าทรงเป็นผู้ใดสำหรับข้าพเจ้า" อธิบายพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมาระโก โดย บาทหลวงฟรังซิส ไก้ส์
“เขาตรึงพระองค์บนไม้กางเขน”  
83. พระเยซูเจ้าทรงถูกตรึงบนไม้กางเขน (2)

 

ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน

  1. ข้อความนี้ไม่ใช่คำบรรยายที่น่าสยดสยองของการตรึงกางเขน แต่เป็นข้อเขียนที่ช่วยเราให้เข้าใจแผนการและพระอานุภาพของพระเจ้า เพราะสิ่งที่ดูเหมือนโง่เขลาในสายตามนุษย์และเป็นข้อขัดข้องมิให้ชาวยิวรับไว้ได้ แต่ในแผนการเฉลียวฉลาดของพระเจ้าเป็นเครื่องมือที่ทรงใช้เพื่อชัยชนะ พระคริสตเจ้าผู้ทรงถูกตรึงบนไม้กางเขนทรงบันดาลความชอบธรรมและความศักดิ์สิทธิ์แก่โลก (เทียบ 1 คร 1:22-30) นักบุญเปาโลได้ตีความหมายของไม้กางเขนเช่นนี้ประมาณ 20 ปี ก่อนที่นักบุญมาระโกนิพนธ์พระวรสาร นี่คือความหมายที่ผู้มีความเชื่อทุกคนต้องยึดมั่น

  2. คริสตชนจึงต้องเห็นและเชื่อพระปรีชาญาณและพระอานุภาพของพระเจ้าในพระธรรมล้ำลึกแห่งไม้กางเขน วิธีเดียวที่ถูกต้องในการเข้าใจพระธรรมล้ำลึกแห่งไม้กางเขน คือการพิจารณาสิ่งที่พระเจ้าทรงเปิดเผย คือสิ่งที่ตาไม่เคยเห็นและหูไม่เคยได้ยิน และจิตใจของมนุษย์คิดไม่ถึง คือสิ่งที่พระเจ้าทรงเตรียมไว้สำหรับผู้ที่รักพระองค์ (เทียบ 1 คร 2:6-9) ดังนั้น ไม้กางเขนจึงไม่เป็นเพียงสิ่งที่เรากราบไหว้หรือสัญลักษณ์ของการบำเพ็ญตบะและการปฏิเสธตนเอง แต่เป็นการเปิดเผยสมบูรณ์ของพระเจ้า คือไม่เป็นเพียงการเปิดเผยสิ่งที่พระเจ้าทรงกระทำ แต่โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เป็นการเปิดเผยว่าพระเจ้าทรงกระทำสิ่งใดเพื่อเราและพระองค์ทรงเป็นผู้ใด

  3. เราต้องวอนขอพระจิตเจ้าทรงบันดาลให้เราเข้าใจพระคัมภีร์และพระสัญญาของพระเจ้า เพื่อจะได้รับรู้ว่าพระเยซูเจ้าทรงเป็นกษัตริย์และพระผู้ช่วยมนุษย์ให้รอดพ้น รู้จักต้อนรับเหตุการณ์ยากลำบากและความทุกข์ทรมานในชีวิตประจำวันของเรา

  4. เราต้องขอบพระคุณพระเยซูเจ้า เพราะพระองค์ทรงยอมรับทรมานและสิ้นพระชนม์เพื่อเรา พระองค์ทรงอดทนต่อความชั่วร้ายและความทุกข์ทรมานทั้งหมดในโลก โดยไม่ถามพระองค์เองว่า “จำเป็นต้องรับทรมานเช่นนี้หรือ ใครบังคับให้ทำ ช่างเป็นเรื่องไร้สาระจริง ๆ ” พระเยซูเจ้าทรงยอมเป็นผู้รับใช้ของมนุษย์ทุกคน ทรงปลดเปลื้องพระองค์จากทุกสิ่ง ทรงทำให้พระองค์พร้อมสำหรับทุกคน ทรงถ่อมพระองค์ลงจนถึงความตาย เป็นความตายบนไม้กางเขน นี่เป็นกิจการแสดงความรักแท้จริงอย่างเต็มเปี่ยมปราศจากเงื่อนไข ซึ่งพระองค์ทรงยอมรับอย่างอิสระและด้วยความสมัครพระทัย

  5. เราจงภาวนาว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า โปรดทรงเปิดดวงใจของข้าพเจ้า เพื่อจะได้เข้าใจพระวาจาของพระคัมภีร์ พระองค์ประทับอยู่ในสถานที่ซึ่งข้าพเจ้าไม่เคยคิดที่จะพบพระองค์ ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า โปรดทรงช่วยข้าพเจ้าให้ยอมรับว่า พระองค์ทรงเป็นผู้ช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้น แม้ในสถานการณ์ที่อยู่ห่างไกลจากความศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ อาเมน”