ไตร่ตรองพระวาจา  โดย..คุณพ่อชวลิต  กิจเจริญวันพุธที่ 21 มิถุนายน 2017
สัปดาห์ที่ 11 เทศกาลธรรมดา
บทอ่าน 2คร 9:6-11 / มธ 6:1-6,16-18
         ทำไมพระเยซูเจ้าจึงพูดถึง การสวดภาวนา การทำพลีกรรม  และการทำบุญสุนทานให้กับสานุศิษย์ของพระองค์ เนื่องจากว่าชาวยิวถือว่าทั้ง 3 สิ่งที่กล่าวมานั้น เป็นองค์ประกอบสำคัญของชีวิตทางศาสนา ทั้งสามสิ่งนั้นเหมือนกับกุญแจดอกสำคัญ ที่คนที่มีความศรัทธาในศาสนา จำเป็นจะต้องรู้

เปรียบเหมือนกับเสาหลักสามต้น ที่ชีวิตที่ดีจะต้องตั้งอยู่บนนั้น พระเยซูเจ้าจึงได้ชี้ให้เห็นหัวใจของเรื่องว่า ทำไมท่านจึงสวดภาวนา ทำพิธีกรรม และทำบุญสุนทาน เพื่อที่จะดึงความสนใจของคนมาสู่ตัวท่านเอง เพื่อจะเป็นที่สังเกตของคนอื่น และจะมอบสิ่งที่ดีให้ท่านใช่หรือไม่? หรือท่านกำลังให้เกียรติแด่พระเป็นเจ้า?

         พระเยซูเจ้าทรงเตือนสานุศิษย์ของพระองค์ ไม่ให้แสวงหาเกียรติยศส่วนตัว โดยมองหาสิ่งที่ดีๆและแสวงหาคำสรรเสริญจากคนอื่น เพราะความศรัทธาที่แท้จริงนั้น เป็นสิ่งที่อยู่เหนือความรู้สึก ความศักดิ์สิทธิ์ที่แท้จริง คือความศรัทธาต่อพระเป็นเจ้า เป็นความคิดที่ให้ความเคารพ เพื่อจะได้นมัสการและเชื่อในพระองค์ มันยังเป็นพระพรพิเศษและยังเป็นงานของพระจิตเจ้าด้วย ที่ช่วยให้เรามีความศรัทธาโดยมอบชีวิตของเราให้แก่พระเป็นเจ้า ด้วยความปรารถนาที่ศักดิ์สิทธิ์ เพื่อที่จะทำให้พระเป็นเจ้าพอใจในทุกสิ่งทุกอย่าง (อสย11:1-2)

        นักบุญหลุยส์ คอนซากาได้นำพระวาจาของพระเยซูเจ้า มาเป็นแนวทางในการเจริญชีวิต ท่านจำศีลอดอาหาร ทรมานตัวเอง หามุมสงบเพื่อสวดภาวนา และไม่เคยมองหน้าของสตรี ท่านเป็นองค์อุปถัมภ์ของเยาวชนในสังคม ที่ถือว่าความมีวินัยที่เคร่งครัดถูกกำหนดไว้ ในการฝึกนักฟุตบอลและนักมวยเท่านั้น ปัจจุบันนี้ยังมีสังคมที่ขาดแคลนความสะดวกสบาย  หลงเหลืออยู่หรือไม่?

 อาจจะมี ถ้าคนในสังคมยินดีทำตามแบบอย่างของนักบุญหลุยส์ ที่ให้พระเยซูเจ้าเป็นผู้ชำระล้างจิตใจ ผ่านทางประสบการณ์ของความรักของพระองค์ แม้ในยามเจ็บป่วยหนักจากโรคติดต่อ ท่านก็ยังมีวินัยในการสวดภาวนา และได้เสียชีวิตขณะมีอายุเพียง 23 ปีเท่านั้น.