บทเทศน์โดยพระสังฆราชฟรังซิสเซเวียร์  วีระ  อาภรณ์รัตน์อาทิตย์ที่ 5 เทศกาลธรรมดา
5 กุมภาพันธ์ 2017
บทอ่าน
    อสย 58 : 7 -10  ;    1 คร 2: 1- 5 ;    มธ 5: 13-16
พระวรสารสัมพันธ์กับ    คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก (CCC)   326, 782, 1243, 2821
จุดเน้น    พระเจ้าทรงอวยพรเรา  และทรงเรียกเราให้เป็นแสงสว่างต่อหน้าผู้อื่น  เชิญชวนผู้อื่นให้มีสัมพันธ์ใหม่กับพระเยซูเจ้า


           ในระหว่าง  ค.ศ. 1995  การล้างเผ่าพันธุ์ในประเทศรวันดามีเรื่องเล่าว่าวัดหนึ่งถูกทำลาย  ชาวบ้านในวัดนั้นพยายามสร้างวัดใหม่ด้วยตนเอง  วัดนั้นเคยตั้งอยู่ใจกลางชุมชน  อย่างไรก็ดี  ไม่มีไฟฟ้าใช้  และยังมีบรรยากาศกลัวถูกโจมตีอีก   สัตบุรุษที่กระจัดกระจายกันจะรอจนมืด  แล้วมารวมตัวร่วมมิสซาวันอาทิตย์ทุกสัปดาห์  เมื่อมีเสียงระฆังอัศจรรย์น้อยๆ ก็บังเกิดขึ้น

    ในฐานะประชาชนพวกเขาก็ทำหน้าที่สร้างชุมชนวัด  เขานำตะเกียงส่องทางมาวัด  และส่องสว่างในวัด  เมื่อเสร็จพิธีพวกเขาก็กลับบ้าน  วิธีเดิมคือถือตะเกียงกลับบ้าน  มีบางคนสังเกตเรื่องนี้  เกี่ยวเนื่อง  ระหว่างเหตุการณ์น่าอัศจรรย์ใจนี้กับพระวรสารวันนี้  เพราะชุมชนเห็นความโศกเศร้า และการถูกทำลายแต่มันเป็นเครื่องหมายว่าพระเจ้ายังประทับอยู่กับเขา  ในชีวิตของชุมชน  เป็นเครื่องหมายว่าชีวิตกำลังคืนสู่ปกติ  แสงสว่างของพระเจ้ายังอยู่กับพวกเขา  และภายใน (จิตใจ) ของพวกเขา

    ดังนั้นพี่น้อง  สำหรับเราผู้มีความเชื่อที่มาชุมนุมกันในวันอาทิตย์ (วันของพระเจ้า)  เรารวมกันในแสงสว่างของพระคริสตเจ้า  พระองค์ทรงเชิญเราให้เป็นแสงสว่างส่องโลก  เป็นพระคริสตเจ้าในโลก  และในชีวิตของผู้อื่น  ภาพลักษณ์แสงสว่างมีพลัง  เราทุกคนรู้ดีว่ามันสำคัญต่อชีวิตอย่างไร  เมื่อเรามีแสงสว่าง เราก็มั่นใจขึ้น  เราสามารถมองเห็นถนนหนทาง  แม้มันดูเหมือนไม่ราบเรียบ  และวกวน  แสงสว่างเป็นสิ่งจำเป็น  ทำให้เราเห็นวิสัยทัศน์ของชีวิต  และช่วยให้ผู้อื่นมาร่วมในวิสัยทัศน์ของเรา

    ดังนั้นพระวาจาของพระเยซูเจ้าที่ว่า  “ท่านทั้งหลายเป็นแสงสว่างส่องโลก  เมืองที่ตั้งอยู่บนภูเขาจะไม่ถูกปิดบัง”  จึงเป็นประโยคเชิญชวน และให้กำลังใจการเป็นคริสตชนเป็นดังนี้แหละ  ชีวิตของเราควรส่องสว่างพร้อมกับการประทับอยู่ของพระเจ้า  พร้อมทั้งความรัก  การเอาใจใส่  และความกระตือรือร้น  เราต้องแสดงออกด้วยวิธีที่เห็นได้  ตามที่ประกาศกอิสยาห์บอกเราในบทอ่านที่หนึ่งวันนี้  “จงแบ่งปันอาหารกับผู้หิวโหย  นำคนยากไร้ที่อยู่อาศัยเข้ามาในบ้าน  ให้เสื้อผ้าแก่ผู้ที่ท่านเห็นว่าไม่มีเสื้อผ้าสวม  และไม่หันหน้าหนีจากญาติพี่น้อง  ต่อสู้การกดขี่ข่มเหง  การโกหก  และพยานเท็จ”  ประกาศกอิสยาห์สอนเราให้เห็นวิสัยทัศน์  หรือ  แผนที่ชีวิต  ตามพระประสงค์ของพระเจ้า

    ภาพลักษณ์ของแสงสว่างและเกลือ  น่าสนใจ  และกระตุ้นใจเรา  ไม่มีใครอยู่เพื่อตนเอง  แสงสว่างจะไม่ดีถ้าไม่มีใครใช้ประโยชน์มัน   ดังที่พระวรสารบอกเรา  “ไม่มีใครจุดตะเกียงแล้วเอามาวางไว้ใต้ถัง  (ซ่อนไว้) แสงสว่างมีความหมายชนะความมืด  ไม่ควรเอาไปซ่อนไว้  เกลือก็เหมือนกันไม่มีประโยชน์ถ้าหมดรสเค็ม

    ดังนั้นความเชื่อของเราไม่มีคุณค่าถ้ามีเพื่อเราเท่านั้น  ถ้าเรามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพระเจ้า  โดยอาศัยการภาวนาและมิสซานี้  พระเจ้าประทานกำลังให้เราเข้มแข็ง  และจึงต้องออกไปแบ่งปันความเชื่อกับผู้อื่น  ทำเช่นนี้  เราจึงปฏิบัติตามคำสั่งของพระวรสาร  เรื่องการเป็นศิษย์ของพระคริสตเจ้า  และนำพระสิริรุ่งโรจน์มาสู่พระเจ้า

พระสังฆราช  วีระ  อาภรณ์รัตน์  แปล
จาก  Daily Homilies โดย Catholic  Diocese  of  Lansing,
(มกราคม-มีนาคม  2017), หน้า 56-58.