บทเทศน์โดยพระสังฆราชฟรังซิสเซเวียร์  วีระ  อาภรณ์รัตน์วันอาทิตย์ที่ 16 เทศกาลธรรมดา
17 กรกฎาคม 2016

บทอ่าน    ปฐก  18:1-10ก   ;    คส  1:24-28   ;    ลก  10:38-42
พระวรสารสัมพันธ์กับ    ประมวลคำสอนด้านสังคมของพระศาสนจักร  (CSDC)  260
จุดเน้น     การบริการผู้อื่นต้องมีรากฐานจากการฟังพระวาจาพระเจ้า


    มันดูเหมือนไม่ยุติธรรมหรือ  แม้แต่เด็กก็คิดได้ว่าไม่ถูกต้อง  ที่คนหนึ่งนั่งสนทนากับแขก  ขณะที่พี่สาวทำงานทั้งหมดคนเดียวในครัว  เรื่องนี้สอนใจเราอย่างไร
    เราคงไม่สามารถเข้าใจเรื่องนี้  ถ้าเราอ่านราวกับเป็นบทเรียนเกี่ยวกับหน้าที่การต้อนรับแขก    เรื่องนี้ต่อจากอุปมาเรื่องชาวสะมาเรียใจดี  ที่เราได้ยินเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว  ในเรื่องนั้น  พระเยซูเจ้าสอนถึงนิสัยตรงกันข้ามของสมาชิกสมณะชาวยิวสองคน คือ สมณะและชาวเลวี  กับความประพฤติของชาวสะมาเรีย  ซึ่งถือว่าเป็นคนภายนอกที่น่ารังเกียจ  แม้เขาไม่รู้เกี่ยวกับธรรมบัญญัติของพระเจ้าเท่ากับสมณะและชาวเลวีคนนั้น  ชาวสะมาเรียได้ปฏิบัติตามเจตนาของธรรมบัญญัติดีกว่าผู้เชี่ยวชาญด้านธรรมบัญญัติ  อุปมานี้สอนถึงการไร้ผลของศาสนา  ซึ่งไม่มีการประยุกต์เข้ากับชีวิตประจำวัน

    เรื่องราววันนี้ของมารีย์และมารธา  มีบทสอนว่า  งานบริการอย่างกระตือรือร้นจะไม่บังเกิดผลเท่าที่ควร  ถ้าไม่มีรากฐานจากการตั้งใจฟังพระวาจาพระเจ้า  และได้รับการหล่อเลี้ยงจากการฟังนั้น  เพราะมันกลายเป็นเพียงธุระยุ่งวุ่นวาย  เมื่อพระเยซูเจ้าตรัสกับมารธาว่า  เธอเป็นห่วงและวุ่นวายหลายสิ่งนัก  พระองค์มิได้วิจารณ์เธอที่ทำหน้าที่ต้อนรับแขกที่มาเยี่ยมครอบครัว  แต่การทำดังนั้นโดยมิได้ตั้งใจฟังพระองค์ก่อน     พี่น้องอาจกล่าวว่า  มารธาเป็นคนแบบชอบทำกิจการดีๆ เป็นพิเศษ   กิจการดีที่ต้องใช้เวลามาก

    เรื่องราวในพระวรสารวันนี้  ไม่ได้ขอให้เราต้องเลือกระหว่างแบบมารีย์ หรือ มารธา  ศิษย์แท้ของพระเยซูเจ้าต้องเป็นทั้งสอง  พระวรสารของนักบุญมาระโกบอกเราว่า  เมื่อพระเยซูเจ้าทรงเรียกอัครสาวกทั้ง 12  พระองค์ทรงเรียกพวกเขาสำหรับจุดประสงค์ 2 ประการ คือ อยู่กับพระองค์  และส่งออกไปเทศน์สอน (มก 3:14)  อะไรสำคัญกว่ากันครับ  อยู่กับพระเยซูเจ้า หรือ ออกไปเทศน์สอนผู้อื่น  ความสัมพันธ์ของเรากับพระเยซูเจ้าต้องมาเป็นอันดับแรก  การอยู่กับพระองค์และฟังพระวาจา  ต้องเป็นพื้นฐานทั้งหมดที่เราทำเพื่อพระองค์

    เมื่อเราปฏิบัติโดยปราศจากการฟัง  เราทำผิดคล้ายภาคภูมิใจเกิน  เรากำลังสรุปว่าเรารู้สิ่งที่ต้องทำแล้ว  และไม่ต้องการคำแนะนำ  การปฏิบัติโดยมิได้ฟังพระวาจาพระเจ้าเป็นอันดับแรก  ก็หมายความว่า  ปฏิบัติสิ่งที่เราต้องการทำ  ไม่ใช่สิ่งที่พระเจ้า หรือสถานการณ์เรียกร้องเรา  วิธีแก้ไขคือ นั่งอยู่แทบพระบาทขององค์พระผู้เป็นเจ้า  เหมือนมารีย์แห่งเบธานีในพระวรสารวันนี้  และฟังพระวาจาของพระองค์

    เราสามารถทำได้อย่างไร  ลองกำหนดเวลาภาวนา  และอ่านพระคัมภีร์  พระเจ้าตรัสกับเราเงียบๆ  ฟังพระองค์  ตั้งใจฟังเทศน์ที่นี่ในมิสซา  เมื่อพี่น้องทำเช่นนี้  เราก็เหมือนมารีย์แห่งเบธานี  ได้เลือกเอาส่วนที่ดีที่สุด  ที่จะไม่มีใครเอาไปจากเราได้

    สรุป  การเปิดจิตใจฟังพระเยซูเจ้า  ฟังพระวาจาของพระองค์  จะช่วยนำเราให้เลือกส่วนที่ดีที่สุด  และช่วยเราให้ทำงานบังเกิดผลในการแบ่งปันพระวรสารกับผู้อื่น  และช่วยสร้างอาณาจักรพระเจ้าในสังคม  นี่เป็นวิธีแรกๆ แบบหนึ่งช่วยทำให้ความเชื่อและความรักในพระเยซูเจ้าเติบโตขึ้น  ให้เราได้รับพระพรแห่งสันติ  ความยินดี  และทำสิ่งที่พระเจ้าปรารถนาให้เราปฏิบัติสำเร็จสมบูรณ์

พระสังฆราช  วีระ  อาภรณ์รัตน์  แปล
จาก  Homilies  โดย Catholic  Diocese  of  Lansing,
(กรกฎาคม-กันยายน  2016), หน้า 321-322.