บทเทศน์โดยพระสังฆราชฟรังซิสเซเวียร์  วีระ  อาภรณ์รัตน์วันอาทิตย์สมโภชปัสกา
27 มีนาคม 2016  

บทอ่าน    กจ  10:34ก, 37-43   ;    คส  3:1-4   ;    ยน  20:1-9
พระวรสารสัมพันธ์กับ    คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก (CCC)   515, 626, 640, 641, 643, 652, 2174
จุดเน้น     สุขสันต์วันปัสกา  ให้เรายกถวายดวงใจและความปรารถนาหาพระเจ้าผู้น่ารัก  
ผู้ทรงนำชีวิตใหม่มาให้เรา  ทั้งบนแผ่นดินและในสวรรค์


    ข่าวดีที่เราฉลองวันนี้เป็นข้อเท็จจริงว่า  พระเยซูคริสตเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพจากความตาย  พ่อใช้คำว่า ข้อเท็จจริง (fact) เพราะเหตุว่า เมื่อ 2000 ปีที่แล้ว  ยังไม่มีการสำรวจทางวิทยาศาสตร์สามารถค้นพบร่างกายส่วนที่เหลือของพระเยซูคริสตเจ้า  เพราะเหตุว่า พระคูหาว่างเปล่าและไม่พบร่างใดๆ  บรรดาผู้เห็นเหตุการณ์เป็นประจักษ์พยาน  แม้พวกเขาจะสิ้นชีวิตแล้ว  แต่เรายังคงประกาศว่า  พระเยซูคริสตเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตาย  อัลเลลูยา

    วันนี้เป็นวันแห่งพระสิริรุ่งโรจน์  วันแห่งความหวังสำหรับเราทุกคน  บาปและการขัดแย้งของมนุษย์ไม่สามารถขัดจุดประสงค์และพระประสงค์ของพระเจ้าได้
    พระเยซูคริสตเจ้าได้ทรงรับทุกข์ทรมานอย่างน่ากลัว  ทรงถูกเย้ยหยัน  ถ่มน้ำลายรด  ทรงถูกเฆี่ยนอย่างโหดร้าย  ทรงถูกสวมมงกุฎหนาม  ทรงถูกตรึงกางเขน  สิ้นพระชนม์  และทรงถูกฝังในคูหา  วันนี้เราฉลองข้อเท็จจริงแห่งพระสิริรุ่งโรจน์  พระองค์ทรงกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตาย

    การกลับคืนชีพนี้  ทำให้เรามีความหวังในชีวิต  ความเชื่อของเรานี้ทำให้เราเข้าใจความจริงว่าพระเจ้ามิได้ทรงทอดทิ้งเรา  พระเจ้าทรงนำชีวิตใหม่มาให้เราและให้พระศาสนจักร  พระเจ้าทรงเรียกเราออกจากคูหาฝังศพ  เหมือนที่พระคริสตเจ้าได้เรียกลาซารัสให้มามีชีวิตใหม่

    อย่างไรก็ดี  มีความจริงประการหนึ่งที่เราต้องพบ  เมื่อเราเข้าสู่ชีวิตใหม่  ความรู้สึกอัศจรรย์ใจทุกประการที่มาพร้อมกับชีวิตใหม่  ต้องสมดุลกับข้อเท็จจริงว่า  เราต้องละทิ้งชีวิตเก่าก่อนจึงจะมีชีวิตใหม่  การมีสิ่งใหม่ๆ หมายความว่าเราต้องละทิ้งสิ่งเก่าๆ  และขบวนการนี้อาจทำให้เจ็บปวดได้

    พระเยซูคริสตเจ้าได้เดินทางสายนี้  หากเราเดินตามหนทางของพระองค์  ตามความจริง  และชีวิตของพระองค์  พระองค์ก็ร่วมเดินทางกับเรา  ทำให้การเดินทางของพระองค์เป็นของเราเช่นกัน
    อะไรคือกุญแจที่ปลดล็อคประตูแห่งการกลับคืนพระชนมชีพ  และชีวิตใหม่สำหรับพระองค์    พ่อขอแนะนำว่า คือ การยอมรับ (acceptance) พระองค์ยอมมอบตัวในพระหัตถ์ของพระบิดา  ในสวนเกทเสมนี  พระเยซูเจ้าอธิษฐานภาวนาว่า “พระบิดาเจ้าข้า  ถ้าพระองค์มีพระประสงค์  โปรดทรงนำถ้วยนี้ไปจากข้าพเจ้าเถิด  แต่อย่าให้เป็นไปตามใจข้าพเจ้า  ให้เป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์เถิด” (มก 14:36)    ขณะกำลังสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน  พระเยซูเจ้าตรัสว่า “พระบิดาเจ้าข้า  โปรดอภัยความผิดแก่เขาเถิด  เพราะเขาไม่รู้ว่ากำลังทำอะไร” (ลก 23:34)    พระวาจาสุดท้ายตรัสว่า “พระบิดาเจ้าข้า  ข้าพเจ้ามอบจิตของข้าพเจ้าไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์” (ลก 23:46)

    การยอมรับ หมายถึง  การสละ  การปล่อย  หมายถึงการละทิ้งวิถีชีวิตแบบเดิม  เราไม่หนีสวนเกทเสมนีของเรา  ต้องไม่หนีไม้กางเขนต่างๆ ของเรา
    กุญแจสู่ความสำเร็จของเรา คือ ต้องทำสิ่งที่พระเยซูเจ้าได้กระทำ  คือ ยอมมอบชีวิตไว้ในพระหัตถ์ของพระบิดาเจ้าสวรรค์

    วันนี้เราฉลองข่าวน่ายินดีว่า  ความหวังของพระคริสตเจ้าเป็นความหวังของเรา  เชื่อในพระเจ้า  พระเจ้าพระบิดาของเราทรงมอบพลังเพื่อเข้าสู่ชีวิตที่มีความสุขกว่า  ดีกว่า  และใหม่กว่าให้เรา  ไม่ว่าจะพบกับอำนาจแห่งความมืดและความชั่ว

    สิ่งเดียวที่ขัดขวางหนทางแห่งความสุข  ก็คือ  ความหยิ่ง  ที่จะไม่ยอมมอบตน  ขัดขวางเราไม่มอบชีวิตในพระหัตถ์พระเจ้า
    ดังนั้น  พี่น้องที่รัก  จงมอบทุกสิ่งที่พระเจ้าทรงต้องการ  ยอมละทิ้งตนเองในความรักทรงพลังของพระองค์  อำนาจมืดและความชั่วไม่สามารถชนะเราได้
พระสังฆราช  วีระ  อาภรณ์รัตน์  แปล
จาก  Homilies  โดย Catholic  Diocese  of  Lansing,
(มกราคม-มีนาคม  2016), หน้า 144-146.