บทเทศน์โดยพระสังฆราชฟรังซิสเซเวียร์  วีระ  อาภรณ์รัตน์

อาทิตย์ที่ 16 เทศกาลธรรมดา
20 กรกฎาคม  2014  
บทอ่าน         ปชญ 12: 13, 16 -19 ;    รม 8: 26 – 27;  มธ 13: 24 – 43  หรือ  13: 24 - 30
พระวรสารสัมพันธ์กับ  คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก (CCC)  333, 827, 1034
จุดเน้น    พระคริสตเจ้าเสด็จมาเพื่อรักษาเราให้สมบูรณ์ขึ้น


     ลอร์ด  แอ็กตัน  นักประวัติศาสตร์และนักการเมือง  เป็นชาวอังกฤษและเป็นคาทอลิก  ได้กล่าวเมื่อหลายปีก่อนนี้ว่า “อำนาจก่อให้เกิดการทุจริต  กินสินบน  และอำนาจเต็มสูงสุดก็ยิ่งเกิดการทุจริตแบบสุดสุด”  จากประสบการณ์ของโลก  คำกล่าวนี้เป็นความจริงทีเดียว  อย่างไรก็ดี  เราเรียนรู้วันนี้ว่า  อำนาจที่ชอบธรรมเป็นสิ่งที่ดี  และความเมตตาเป็นลักษณะชีวิตคริสตชน

    บทอ่านจากพระวรสารวันนี้  นักบุญมัทธิวเล่าอุปมาของพระเยซูเจ้า  เรื่องข้าวพันธุ์ดีที่พระเจ้าทรงหว่านในนา  บรรดาผู้รับใช้ได้ถามนายว่า  ต้องการให้พวกเขาถอนข้าวละมานออกไหม  บรรดาผู้รับใช้กังวลใจว่า  ข้าวละมานจะทำให้ข้าวพันธุ์ดีเติบโตไม่เต็มที่  แต่นายกังวลว่า  เมื่อให้พวกเขาถอนข้าวละมาน  พวกเขาจะถอนข้าวสาลีติดมาด้วย

    แต่นายบอกบรรดาผู้รับใช้  ปล่อยให้ข้าวสองชนิดงอกขึ้น  เขากลัวว่าเมื่อพวกเขาถอนข้าวละมาน  พวกเขาอาจถอนข้าวสาลีติดมาด้วย  ดังนั้น  แม้ว่านายสามารถจัดการทุ่งนาให้ได้ผลสมบูรณ์  แต่ความสมบูรณ์ไม่ควรทำร้ายผู้บริสุทธิ์คนใดเลย  นายเมตตาผู้บริสุทธิ์  โดยทรงอนุญาตให้สิ่งไม่สมบูรณ์คงอยู่ต่อไป (ระยะเวลาหนึ่ง)

    พี่น้องควรพิจารณาเรื่องนี้  เพราะว่าการทำอะไรต้องสมบูรณ์แบบมากๆ (Perfectionism)  เป็นอาการป่วยหลงรักอำนาจ  ในวัฒนธรรมของเรามีอย่างน้อยการผจญ 3 อย่าง ในชีวิตจิตที่เกี่ยวข้องการเป็นโรคชนิดนี้

ประการแรก    เราเห็นบรรดาผู้รับใช้ในพระวรสาร  ทุ่งนาไม่เรียบร้อย  พวกเขาจึงคิดจะถอนข้าวละมานที่ไม่สมบูรณ์ออกไป  ในชีวิตจิตเราอาจกระตือรือร้นเกินไปจนถอนสิ่งที่ไม่บริสุทธิ์ออกไป  กล่าวคือ เราตัดคนที่เราคิดเองว่าเขาไม่บริสุทธิ์ออกไปจากชีวิตของเราในนามของคนดี (บริสุทธิ์)  ลืมคำพูดของนักบุญเปาโลที่ว่า  ความรักทนได้ทุกอย่าง  เราไม่จำเป็นต้องทนกับบาป  แต่เราควรอดทนกับคน

การประจญที่สอง    ในชีวิตจิตก็คือบางที่ธรรมดามาก  เรามักละเลยข้าวละมานในชีวิต  และแกล้งว่าเราอิสระจากบาป  หรือเราพูดกับตนเองว่าพระเจ้าทรงรู้แล้วว่าเราเสียใจ  เราจึงไม่ค่อยสนใจศีลอภัยบาป  เราดำเนินชีวิตแบบการทำอะไรต้องสมบูรณ์  และมักบอกตนเองว่า ฉันสบายดี  และไม่ต้องการให้พระเจ้าช่วยใดๆ ทั้งสิ้น

การประจญที่สาม    ต้องรอหาพระเจ้าจนกว่าเราสมบูรณ์  เราภาวนาเฉพาะเมื่อเรามีอะไรดีๆ จะพูดกับพระเจ้า    พี่น้องอ่าน (ฟัง) พระคัมภีร์เฉพาะเวลามีปริญญาในการศึกษาพระวาจา  เราปฏิบัติตามความเชื่ออย่างกระตือรือร้นขึ้นเมื่อเรามีชีวิตดีขึ้น  สิ่งที่เราลืม คือ พระเยซูคริสตเจ้าได้เสด็จมาเพื่อเรา  เพราะเราเป็นคนบาป

เราลืมว่าพระเยซูเจ้าทรงรักเรามาก  เพราะเราเป็นคนไม่สมบูรณ์แบบ (ยังมีข้อบกพร่อง) พระองค์ทรงต้องการให้เรานำความไม่สมบูรณ์ (ความบกพร่อง  อ่อนแอ) มาถวายพระองค์  พระองค์หวังว่า  เมื่อเราหันชีวิตกลับมาหาพระองค์  เราจะยอมให้พระองค์รักษาเรา  และช่วยเราให้สมบูรณ์สำหรับชีวิตหลังความตายนี้

พระสังฆราชวีระ  อาภรณ์รัตน์  แปล
จาก  Homilies  โดย Catholic  Diocese  of  Lansing,
(กรกฎาคม – กันยายน  2014), หน้า 308 - 309.