บทเทศน์โดยพระสังฆราชฟรังซิสเซเวียร์  วีระ  อาภรณ์รัตน์

อาทิตย์ที่ 15 เทศกาลธรรมดา
13 กรกฎาคม  2014  
บทอ่าน         อสค 55: 10 -11 ;    รม 8: 18 – 23;  มธ 13: 1 - 23
พระวรสารสัมพันธ์กับ  คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก (CCC)  29, 546, 787, 1724
                               ประมวลคำสอนด้านสังคมของพระศาสนจักร  (CSDC)   325
จุดเน้น    ให้สาระของอุปมานำเราไปสู่ความเชื่อที่บรรลุวุฒิภาวะมากยิ่งขึ้น


     ขอให้เราใช้เวลาไตร่ตรองอุปมาเรื่อง ผู้หว่าน จากพระวรสารวันนี้  พระเยซูเจ้าสอนอุปมาเรื่องนี้  ขณะที่ประทับ (นั่ง) อยู่ในเรือริมทะเลสาบ  ประชาชนจำนวนมากมายมาเข้าเฝ้าพระองค์  มากจนนักบุญมัทธิวบอกเราว่าพระเยซูเจ้าต้องลงไปในเรือเพื่อสอนประชาชน  ส่วนประชาชนยืนอยู่บนฝั่งฟังพระองค์

    เพื่อให้เราเข้าใจอุปมานี้ดียิ่งขึ้น  ให้เรามองภาพรวมนี้  กลุ่มแรก  บางเมล็ดตกบนริมทางเดิน  นกก็จิกกิน  กลุ่มที่สอง  บางเมล็ดตกบนพื้นหินที่มีดินเล็กน้อย  แต่รากไม่สามารถลงลึก  ทันทีที่งอกขึ้น  เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นก็ถูกแดดเผาและเหี่ยวแห้งตายไปในที่สุด   เราดีใจที่รู้ว่ามีบางเมล็ดตกในที่ดินดีจึงเกิดผล  เมื่อเราได้เห็นภาพรวม  ตอนนี้เรามามองหนทางที่อุปมาสอนเรา

    เมื่อพิจารณาอุปมาเรื่องนี้  บ่อยๆ เรามักถูกถามว่า  ตนเองอยู่ในดินชนิดใด  และเรายอมรับเมล็ดพันธุ์แห่งความเชื่ออย่างไร  ถ้าเรามองตนเป็นเมล็ดพืชที่กระจัดกระจาย

    พี่น้องควรตั้งคำถามตัวเอง  เมล็ดพันธุ์แห่งความเชื่อของฉันตกที่ใด  ความเชื่อของฉันอยู่บนดินดี  ดังนั้นฉันสามารถให้ผลมากแด่พระเจ้า  หรือตกบนพื้นที่มีดินผิวเผินไม่ลึก  ไม่สามารถเติบโตได้  ไม่เป็นพระพรสู่พระเจ้า  หรือความเชื่อของฉันตอนเริ่มก็แข็งแรงดี  แต่ในไม่ช้าเมื่อถูกแดดแผดเผาก็เหี่ยวแห้งตายไปเพราะไม่มีราก  แน่นอน  เราทุกคนหวังว่าความเชื่อเป็นเหมือนเมล็ดพันธุ์ที่ปลูกไว้ในที่ดินดี  ที่จะให้ผลมากมาย

    มีวิธีมองอุปมาเรื่องนี้อีกแบบหนึ่ง  เอาตัวเราออกไป  บางทีพระเยซูเจ้ากำลังสอนเราว่า  แม้จะมีการทดลองที่ไม่ประสบผลสำเร็จ  ก็ยังมีความหวัง  เมล็ดมากมายตกในที่ที่ไม่สามารถให้ผลผลิต  แต่ก็ยังคงมีความหวัง  พระเยซูเจ้าทรงนำข่าวดีนั้น  สัญญาให้ความหวัง  แม้เราประสบความมืดในชีวิต

    พระเจ้าทรงเรียกเราให้เปิดใจรับพระวาจา  คำตอบมิได้เกิดในตอนกลางคืน  มันต้องใช้เวลาเพื่อให้พระวาจาหยั่งรากลึกในหัวใจของเรา  ให้เราเริ่มด้วยการฟัง  และการพักผ่อนในพระวาจา  เมื่อได้รับแรงบันดาลใจแล้วเราจะปฏิบัติ    กิจการเกิดจากการเข้าใจดีๆ และตระหนักถึงความรับผิดชอบที่จะบังเกิดผล  ภายใต้การดลใจของพระจิตเจ้า  สาระของพระคัมภีร์มีความหมายลึกซึ้งมาก  มันมิได้ถูกซ่อนไม่ให้เรารู้  ดังเช่นเมล็ดที่ตกในที่ดินดี  ขอให้หัวใจของเราเป็นสถานที่ให้ความเชื่อหยั่งรากลึกยิ่งขึ้น

พระสังฆราชวีระ  อาภรณ์รัตน์  แปล
จาก  Homilies  โดย Catholic  Diocese  of  Lansing,
(กรกฎาคม – กันยายน  2014), หน้า 298 - 299.