บทเทศน์โดยพระสังฆราชฟรังซิสเซเวียร์  วีระ  อาภรณ์รัตน์

วันสมโภชพระตรีเอกภาพ
26 พฤษภาคม  2013
บทอ่าน    สภษ  8: 22-31 ;  รม  5: 1-5  ;  ยน  16: 12-15
พระวรสารสัมพันธ์กับ       คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก  (CCC)  91, 243, 244, 485, 687, 690, 692, 1117, 2466, 2615, 2617
ประมวลคำสอนด้านสังคมของพระศาสนจักร  (CSDC)   29, 104
จุดเน้น    การไตร่ตรองของพระธรรมล้ำลึกเกี่ยวกับพระเจ้า  ช่วยเราให้รู้จัก  รักและนมัสการพระองค์


    เป็นสิ่งดีที่บ่อยๆ มีเวลายืนไตร่ตรองต่อหน้าพระธรรมล้ำลึกเกี่ยวกับชีวิต  วันนี้พระศาสนจักรเชิญชวนเราให้ไตร่ตรองพระธรรมล้ำลึกเรื่องพระเจ้า  พระเจ้าหนึ่งเดียวสามพระบุคคล  เป็นเรื่องที่มนุษย์ได้สนใจไตร่ตรองมาตั้งแต่ปฐมกาล

    สาเหตุเพราะพระเจ้าได้เป็นอยู่  และ  ควรเป็นส่วนใหญ่ในชีวิตของเรา  เราควรไตร่ตรองพระธรรมล้ำลึกเกี่ยวกับพระเจ้า  เพื่อจะเข้าใจพระเจ้าดีขึ้นอีกเล็กๆ น้อยๆ  เพื่อชื่นชม  และสรรเสริญพระเจ้าลึกซึ้งยิ่งขึ้น  จะได้รักพระองค์  ฟังพระองค์  ปรารถนาจะอยู่กับพระองค์  และพยายามปฏิบัติตามพระประสงค์

    ใครคือพระเจ้าที่เรานมัสการ  พระคัมภีร์เผยแสดงอะไรแก่เรา  ความน่าพิศวงเรื่องการสร้างสรรค์โลก  พระจิตเจ้าตรัสอะไรกับเรา  แหล่งกำเนิดความเชื่อบอกเราว่า  พระเจ้าทรงเป็นอยู่  พระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า  “เราเป็น” (อพย 3: 14)  พระเจ้าทรงเป็นนิรันดร  พระเจ้าทรงรอบรู้ทุกสิ่ง  ปรีชาญาณและความจริงมาจากพระเจ้า  พระเจ้าทรงเป็นความรัก  (1 ยน 4: 16)  พระเจ้าทรงเป็นเอกภาพและชุมชน  คือ  พระตรีเอกภาพ  มาจากความรักของพระเจ้า  ก่อให้เกิดพระเมตตายิ่งใหญ่

    เรารู้ว่า  เมื่อเรากล่าวเกี่ยวกับพระเจ้า  พระตรีเอกภาพ  คือ พระบิดา  พระบุตร  และพระจิต  เมื่อเราฟังพระคัมภีร์  เราก็ได้ยินพระเจ้าตรัสกับเรา  “ก่อนอับราฮัมจะเกิด  เราเป็น” (ยน 8: 58)  “ทุกสิ่งถูกเนรมิตขึ้นโดยพระองค์” (คส 1: 16)  “เราเป็นหนทาง  ความจริง  และชีวิต” (ยน 14: 6)  “ให้ท่านทั้งหลายรักกัน  เหมือนดังที่เรารักท่าน” (ยน 15: 12)  “เพื่อให้เขาเป็นหนึ่งเดียวกัน  เช่นเดียวกับที่พระองค์และข้าพเจ้าเป็นหนึ่งเดียวกัน” (ยน 17: 21)  “เมื่อพระองค์เสด็จมา  พระจิตแห่งความจริงจะนำท่านสู่ความจริงทั้งปวง” (ยน 15: 13)  “ทุกสิ่งที่พระบิดาทรงมีนั้น  ก็เป็นของเราด้วย  ดังนั้นเราจึงบอกท่านว่า  พระจิตเจ้าจะทรงแจ้งให้ท่านรู้คำสอนที่ทรงรับจากเรา” (ยน 16: 15)  “จงรับพระจิตเจ้าเถิด  ท่านทั้งหลายอภัยบาปผู้ใด  บาปของผู้นั้นก็จะได้รับการอภัย” (ยน 20: 23)

    เราเข้าใจว่าเมื่อเรายืนยันความเชื่อเหล่านี้เกี่ยวกับพระเจ้า  ก็เท่ากับว่า  เรายืนยันความเชื่อนี้เกี่ยวกับชีวิตของเราเอง  เราเป็นอยู่ก็เพราะพระเจ้าทรงเป็นอยู่  ไม่มีชีวิตใดแยกออกจากพระเจ้า  พระเจ้านิรันดร์ทรงสร้างเราให้มีชีวิตนิรันดร์  พระจิตเจ้าภายในตัวเราช่วยให้เรามีชีวิตนิรันดร  เราต้องพยายามเป็นคนศักดิ์สิทธิ์  ดังที่พระเจ้าทรงเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์  พระองค์เสริมกำลังให้เราทำความดี  เรารู้ว่าสิ่งใดดีเพราะพระเจ้าประทานปรีชาญาณแก่เรา  พระเจ้าทรงสั่งเราให้รัก  พระองค์ทรงสร้างเราให้รัก  ให้เสียสละ  ให้มีเมตตาและกรุณา  ให้รับใช้  และช่วยเหลือคนอื่น  เมื่อความรักเติบโตในพระตรีเอกภาพ  ดังนั้น  ความรักต้องผูกพันเราในพระกายพระคริสตเจ้า  ให้เป็นประชากรหนึ่งเดียวเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า  ใช่แล้ว  ธรรมล้ำลึกแห่งชีวิตของเรา  อยู่ในพระธรรมล้ำลึกของพระเจ้า

    เป็นการดีที่เราจะยืนไตร่ตรองต่อหน้าธรรมล้ำลึกของชีวิตและพระเจ้า  ไม่ใช่เพื่ออยากรู้ทุกสิ่ง  แต่เพื่อตระหนักรู้อย่างเงียบๆ เกี่ยวกับธรรมล้ำลึกนี้  การพยายามรู้สิ่งที่ลึกซึ้งสูงสุด  จะทำให้มนุษย์เครียดและบางทีขาดความเชื่อ  พระธรรมล้ำลึกเรื่องพระตรีเอกภาพสร้างสรรค์สัมพันธภาพที่มีพลังระหว่างพระเจ้าและเรามนุษย์  เมื่อเราไตร่ตรองพระธรรมล้ำลึกของพระเจ้า  ก็เพื่อจะได้พิศวงต่อหน้าพระเจ้า    จะได้รู้จักพระองค์ดีขึ้น  และนมัสการพระองค์  เราไตร่ตรองพระธรรมล้ำลึกของพระเจ้าก็เพื่อจะรู้จักพระเจ้า  ว่าพระองค์ผู้ทรงสร้างเรา  ทรงประสงค์ให้เราเป็นคนอย่างไร


พระสังฆราชวีระ  อาภรณ์รัตน์  แปล
จาก  Homilies  โดย Catholic  Diocese  of  Lansing,
(เมษายน – มิถุนายน  2013), หน้า 200-202.