บทเทศน์โดยพระสังฆราชฟรังซิสเซเวียร์  วีระ  อาภรณ์รัตน์

วันสมโภชพระจิตเจ้า
19 พฤษภาคม  2013
บทอ่าน    กจ  2: 1-11 ;  1 คร  12: 3ข-7, 12-13  หรือ  รม  8: 8-17 ;  ยน  20: 19-23
พระวรสารสัมพันธ์กับ       คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก  (CCC)  575, 643, 645, 659, 730, 788, 858, 976, 1087, 1120, 1287, 1441, 1461, 1485, 2839
ประมวลคำสอนด้านสังคมของพระศาสนจักร  (CSDC)   491
จุดเน้น    พระศาสนจักรได้รับการฟื้นฟูอยู่เสมอ  เราได้รับการฟื้นฟูในพระจิตเจ้า  ตั้งแต่วันสมโภชพระจิตเจ้าครั้งแรก



    ชาวยิวได้ฉลองวันเปนเตกอสเตหลายร้อยปี  ก่อนที่จะกลายเป็นวันฉลองพระจิตเสด็จลงมา  วันเปนเตกอสเตของชาวยิวเป็นการฉลองวันที่ 50 หลังปัสกา  ซึ่งชาวยิวทุกคนทั้งชายหญิงและเด็กไปยังพระวิหารที่กรุงเยรูซาเล็ม  สำหรับเราคาทอลิกหมายถึง  การฉลอง  50 วันหลังจากพระเยซูเจ้าทรงกลับคืนชีพจากความตาย  สำหรับชาวยิวฉลองการที่โมเสสได้รับพระบัญญัติ  10 ประการบนภูเขาซีนาย  ที่ซีนายพระเจ้าทรงเผยแสดงพระองค์ด้วยเสียงฟ้าร้องและควันไฟ  (อพย  19: 16)

    ขณะที่ประชาชนมาชุมนุมกันที่พระวิหาร  พระจิตเจ้าเสด็จมาเหมือนเสียงลมพัดแรงกล้า  พร้อมกับเปลวไฟลักษณะเหมือนลิ้น  ประชาชนเริ่มพูดเรื่องเดียวกันในภาษาอื่นๆ  เหตุการณ์นี้เตือนใจเราให้นึกถึงเรื่องหอบาเบลในหนังสือปฐมกาล  บทที่ 11  เมื่อพระเจ้าทรงทำให้ประชาชนกระจายไปทั่วโลก  และทำให้ภาษาของเขายุ่งเหยิงวุ่นวายไป  ที่กระจัดกระจายไปสาเหตุเพราะบาปของมนุษย์  บัดนี้มารวมเป็นหนึ่งเดียวกัน  ขอบคุณพระจิตเจ้า  สิ่งที่ลูกหลานของอาดัมและเอวาได้สูญเสียไปที่หอบาเบล  พระเยซูเจ้าทรงฟื้นฟู  พระองค์ทรงเป็นอาดัมใหม่  ทรงบังเกิดจากพระนางมารีย์ผู้เป็นเอวาใหม่

    ในพระวรสารของนักบุญยอห์น  พระเยซูเจ้าทรงแสดงพระองค์กับบรรดาศิษย์ในห้องชั้นบน  ในคืนปัสกาครั้งแรก  ทรงเป่าลมเหนือเขาทั้งหลาย  และตรัสว่า  “สันติสุขจงสถิตอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด”  ในช่วงนั้นเอง  พระเยซูเจ้าทรงขจัดความกลัวจากใจของบรรดาศิษย์  ที่ลือกันว่ามีคนมาขโมยพระศพ  และช่วยให้พวกเขามั่นใจว่าพระองค์ทรงกลับคืนชีพและรับพระสิริรุ่งโรจน์  เหตุการณ์นี้ทำให้เรานึกถึงหนังสือปฐมกาล  (บทที่ 2:7)  เรื่องพระเจ้าทรงสร้างมนุษย์  “ทรงเป่าลมแห่งชีวิตเข้าในจมูกของเขา  มนุษย์จึงเป็นผู้มีชีวิต”  ในห้องชั้นบน  บนภูเขาซีโยน  (กรุงเยรูซาเล็ม) บรรดาอัครสาวกได้รับคำสั่งให้ไปเทศน์และสร้างอาณาจักรพระเจ้า  แต่พวกเขายังไม่สามารถทำพันธกิจนี้จนกระทั่งพระเยซูเจ้าทรงเป่าลม  ทรงประทานอำนาจของพระเจ้าเหนือพวกเขา

    ดังที่พระเจ้าทรงสร้างอาดัมและประทานชีวิต  ดังนั้นพระคริสตเจ้าทรงตั้งพระศาสนจักร  และประทานพระจิตเจ้าให้นำและคุ้มครองพระศาสนจักร  พระเจ้าทรงสร้างอาดัมให้รู้จัก  รักและรับใช้พระองค์  แต่อาดัมไม่เชื่อฟังจึงต้องรับผลของบาป  พระเจ้าทรงตั้งพระศาสนจักรให้คอยช่วยเหลือมนุษย์ทุกคน  จากที่อาดัมได้กระทำไว้  เพื่อให้เราทุกคนรู้จักพระเจ้า  รักและรับใช้พระองค์  ตราบใดที่พระศาสนจักรปฎิบัติตามคำสั่งสำคัญนี้  พระศาสนจักรก็นำมนุษย์กลับมาสู่ความไม่รู้จักตาย  ในบทข้าพเจ้าเชื่อ  เราประกาศความเชื่อในพระจิต  พระเจ้าผู้ทรงบันดาลชีวิต  ชีวิตที่พระจิตประทานให้พระศาสนจักร  โดยอาศัยศีลล้างบาปและศีลกำลัง  คือพระพรเดียวกันที่ประทานแก่ทุกคนที่เชื่อในพระองค์

    ความผิดของสัตบุรุษที่หอบาเบล  คือ  พวกเขาต้องการสร้างหนทางของตนเองไปสวรรค์  พวกเขารู้สึกว่าไม่ต้องการพระเจ้าเพื่อไปสวรรค์  บาเบลคือหอสูงที่ถูกสร้างเพราะความหยิ่งทะนงตัว  มิใช่สร้างบนฐานมั่นคงแห่งความเชื่อ  วันเปนเตกอสเต (ฉลองพระจิตเจ้า) พระเจ้าเสด็จมาหาเราในพระจิตเจ้า  ทรงเรียกเราสู่หนทางใหม่แห่งชีวิต  ในวันเปนเตกอสเตครั้งแรก  บรรดาศิษย์ใหม่หลายคนเริ่มชีวิตตามพระจิต  ด้วยพระพรที่ได้รับ  ดำเนินชีวิตในความรักเมตตา  ความยินดี  สันติสุข  ความอดทน  ความดี  ความเชื่อ  ความอ่อนโยน  และความมัสยัสถ์  แทนวิถีชีวิตแบบเก่าแห่งความเห็นแก่ตัว

    วันปัสกา  พระเยซูเจ้าตรัสว่า  “พระบิดาทรงส่งเรามาฉันใด  เราก็ส่งท่านทั้งหลายไปฉันนั้น”  ในคำพูด  เสียงลม  และเปลวไฟ  เหมือนดังในพระกายและพระโลหิต  พระเยซูเจ้าประทานพระจิตเจ้าให้เราอีกครั้ง  เพื่อฟื้นฟูเราให้ตระหนักถึงคำสั่งเดิมที่ทรงมอบให้แก่บรรดาศิษย์สมัยแรก  เพื่อเราออกไปทั่วโลก  และสร้างศิษย์เพิ่มขึ้น  วันนี้เราภาวนาพร้อมกับสัตบุรุษทุกกาลสมัยว่า  “เชิญเสด็จมาข้าแต่พระจิตเจ้า  เชิญเสด็จมาสถิตในดวงใจสัตบุรุษ  เชิญมาสถิตในเขตวัด  เชิญเสด็จมาสถิตในบ้านของข้าพเจ้าทั้งหลาย  และทรงเนรมิตแผ่นดินขึ้นใหม่”


พระสังฆราชวีระ  อาภรณ์รัตน์  แปล
จาก  Homilies  โดย Catholic  Diocese  of  Lansing,
(เมษายน – มิถุนายน  2013), หน้า 190-192.