บทเทศน์โดยพระสังฆราชฟรังซิสเซเวียร์  วีระ  อาภรณ์รัตน์

วันสมโภชพระเยซูเจ้าเสด็จสู่สวรรค์
(วันรณรงค์เพื่อกลุ่มชาติพันธุ์)
12 พฤษภาคม  2013
บทอ่าน    กจ  1: 1-11 ;  อฟ  1: 17-28 ;  ลก  24: 46-53
จุดเน้น    ในการเสด็จสู่สวรรค์  พระเยซูเจ้าทรงสัญญากับเราถึงความหวังเรื่องชีวิตนิรันดร์
    นักบุญลูกาเริ่มบทพระวรสาร  กล่าวถึง  เธโอฟีลัส  ว่าท่านกำลังเขียนประวัติศาสตร์  ท่านพยายามค้นคว้ารวบรวมพยานผู้รู้จักพระเยซูเจ้า  และเขียนประวัติศาสตร์นี้เพื่อให้เพื่อนสามารถมั่นใจในคำสอน  (จากพระวรสารของท่าน)


    ทั้งบทอ่านที่หนึ่ง  จากหนังสือกิจการอัครสาวก   และพระวรสารวันนี้   นักบุญลูกาเป็นผู้เขียน  พระคัมภีร์ทั้งสองฉบับ   เป็นผลการค้นคว้าสืบสวนสำหรับเพื่อนชื่อเธโอฟีลัส  และทั้งสองมีบทสอนเราหลายอย่าง  บทเรียนแรกสำหรับผู้ชอบสงสัย

    โลกปัจจุบันก้าวเร็ว  ไม่ค่อยมีเวลาสำหรับเรื่องเกี่ยวกับพระเจ้าผู้รับสภาพมนุษย์  ยิ่งมีเวลาน้อยกว่าอีกที่จะพูดเกี่ยวกับพระเจ้าผู้ทนทุกข์ทรมาน  สิ้นพระชนม์  ทรงกลับคืนชีพจากความตาย  และเสด็จสู่สวรรค์  ผู้ชอบสงสัยรู้สึกสบายใจกว่ากับความคิดว่า  เรื่องนี้ทั้งหมดเป็นเพียงอุปมาสอนใจ  คนสมัยใหม่ไม่ชอบเรื่องเกี่ยวกับพระเยซูเจ้าที่แสดงพระองค์  เดินผ่านกำแพงและเสด็จสู่สวรรค์  เมฆบังพระองค์จากสายตาของบรรดาศิษย์

    อย่างไรก็ดี  สำนวนภาษาของนักบุญลูกาในบทอ่านแรก (หนังสือกิจการอัครสาวก) ชัดเจน  นักบุญลูกาเขียนว่า  “(พระเยซูเจ้า) ทรงแสดงพระองค์แก่อัครสาวกเหล่านั้น  และทรงพิสูจน์ด้วยวิธีการต่างๆ ว่าหลังจากทรงรับทุกข์ทรมานแล้ว  พระองค์ยังทรงพระชนม์อยู่ตลอด  40 วัน  ที่พระองค์ทรงแสดงพระองค์แก่เขาทั้งหลาย”  นี่มิใช่เรื่องที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ  และชาวประมงบางคนเข้าใจผิด  พระเยซูเจ้าทรงแสดงองค์แก่พวกเขาหลายครั้ง  ตลอดเวลามากกว่าหนึ่งเดือน  เกี่ยวข้องกับประชาชนมากมายในสถานที่ต่างๆ

    บทเรียนที่หนึ่ง  นี่มิใช่เพียงเรื่องอุปมาสอนใจ  นี่เป็นเรื่องจริงเกี่ยวกับพระเยซูเจ้า 

บทเรียนที่สองจากนักบุญลูกา  บอกเราว่าพระเยซูเจ้าทรงสัญญาจะประทานบางสิ่งแก่เรา  เราจะรับพลังจากพระจิตเจ้า  ในบทอ่านที่สอง  นักบุญเปาโลบอกเราว่า  “ขอพระองค์โปรดให้ตาใจของท่านสว่างขึ้น  เพื่อจะรู้ว่าพระองค์ทรงเรียกท่านให้มีความหวังประการใด”  (อฟ  1: 18)


    พระเยซูเจ้าประทานพระจิตเจ้าแก่เรา  เราจะเห็น  เราจะสามารถเห็นสิ่งที่เห็นได้  และสิ่งที่เห็นไม่ได้  ดังที่เราสวดบทข้าพเจ้าเชื่อ  เราจะเห็นความหวังที่ซ่อนอยู่ในโลกของเรา  โดยอาศัยพลังของพระจิตเจ้า  เราจะเห็น  แต่เราจะเห็นมิใช่เพียงสำหรับเราเองเท่านั้น

    บทเรียนที่สาม  คือสิ่งที่พระเยซูเจ้าทรงสัญญา  ในพระวรสารนักบุญลูกากล่าวว่า  เราจะเป็นพยานสำหรับพระองค์ในโลกนี้  เราจะเป็นผู้ประกาศเรื่องการกลับใจ  การให้อภัยบาป  เราจะเป็นนักเทศน์มิใช่ด้วยคำพูดเท่านั้น  แต่ด้วยชีวิต

    บทเรียนสุดท้าย  พระเยซูเจ้าทรงสัญญาว่า  พระองค์จะกลับมาหาเรา  พระองค์จะนำเราไปสู่สวรรค์  คือ  เราจะมีชีวิตนิรันดร  ซึ่งเป็นผลของชีวิตศักดิ์สิทธิ์ (กิจการดี) ที่เราทำในโลกนี้


พระสังฆราชวีระ  อาภรณ์รัตน์  แปล
จาก  Homilies  โดย Catholic  Diocese  of  Lansing,
(เมษายน – มิถุนายน  2013), หน้า 175-177.