สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลธรรมดา
บทเทศน์สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลธรรมดา
(ปี B)
บทอ่าน :โยบ. 7:1-4, 6-7 ;   1 คร. 9:16-19, 22-23 ;    มก. 1:29- 39
พระวรสารสัมพันธ์กับ CCC   2602
จุดเน้น บ่อยๆ การเสียสละและการทนทุกข์  นำมาซึ่งความสำเร็จ แต่หนทางสู่ความครบครัน  เรียกร้อง (การเสียสละและการทนทุกข์) ยิ่งกว่า
              จอฟฟรีย์  โชเซอร์  กวีอังกฤษยุคกลาง  เคยกล่าวว่า  “ไม่ได้เสี่ยง  ก็ไม่ได้กำไร”  ประโยคนี้สะท้อนทัศนคติของนักบุญเปาโลในบทอ่านที่ 2  วันนี้  ที่กล่าวว่า  “ข้าพเจ้าเป็นทุกอย่างสำหรับทุกคน  เพื่อข้าพเจ้าจะได้ใช้ทุกวิถีทางช่วยบางคนให้รอดพ้น”  ท่านเปาโลจะพยายามทุกอย่าง  ก่อนหน้านี้เปาโลได้พยายามทำดีที่สุด  เพื่อเบียดเบียนและประหารชีวิตคริสตชนจำนวนมาก  เมื่อพระเจ้าได้สัมผัสใจของเปาโล  และทรงให้ท่านมีทัศนะใหม่แห่งความเชื่อ  ท่านกลายเป็นอัครสาวก  และพยายามเทศน์สอนให้เกิดบรรดาศิษย์ใหม่ๆ สำหรับพระศาสนจักรเดียวกันที่ครั้งหนึ่งเคยพยายามกำจัด  บางครั้งความรู้สึกผิดในอดีต  ท่านจึงกล่าวว่า  “หากข้าพเจ้าไม่ประกาศข่าวดี  ข้าพเจ้าย่อมได้รับความวิบัติ”

              เปาโล มิได้แสวงหา  ชื่อเสียง หรือ  โชคชะตา  ท่านเพียงต้องการแบ่งปันรางวัลยิ่งใหญ่ที่พระเจ้าทรงสัญญาในพระวรสาร – คือ  พระพรแห่งชีวิตนิรันดร์  เปาโลได้อุทิศตนทั้งหมดเพื่อพันธกิจการประกาศข่าวดี  ท่านได้กล่าวว่า  “ข้าพเจ้ายอมเป็นทาสรับใช้ทุกคน”  ท่านมิได้เป็นบุคคลเดียวในพระคัมภีร์วันนี้ที่ใช้ประโยคดังกล่าว

              โยบ ได้กล่าวเช่นกันว่า  “ชีวิตมนุษย์บนแผ่นดิน... เป็นเหมือนทาสโหยหาเวลาเย็น”  ครั้งหนึ่ง  โยบเคยร่ำรวย  เป็นคนชอบธรรม  มีลูก 10 คน  ซาตานขออนุญาตพระเจ้ามาทดสอบความเชื่อของโยบ  ทำให้สูญเสียความมั่งคั่ง  สุขภาพ  บ้านเรือน  ลูก  และฝูงสัตว์  โยบไม่เหลือสิ่งใด  เพื่อนๆ ก็ละทิ้ง  ภรรยาก็พูดเยอะเย้ยว่า  “ท่านยังยึดมั่นในความดีพร้อมอยู่อีกหรือ  จงสาปแช่งพระเจ้าและตายเสียเถอะ”  (โยบ 2:9)  บางทีโยบรู้สึกอยากตาย  แต่ก็จะไม่ได้เห็นความสุขอีก  อย่างไรก็ตาม  ผ่านสิ่งต่างๆ ทั้งหมด  โยบยังคงรักษาความเชื่อ  และสรรเสริญพระเจ้าได้  นี่เป็นส่วนชีวิตซื่อๆ ของทาสที่ซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพ

               พระเยซูเจ้าไม่เคยอ้างว่าเป็นทาส  แต่กระนั้น  พระองค์ทรงนอบน้อมพระบิดา  ทรงสละชีวิตบนไม้กางเขนเพื่อเรา  และยังถวายพระองค์ต่อเนื่องในพิธีมิสซา  ในพระวรสารพระเยซูเจ้าทรงรักษาแม่ยายของเปโตรจากไข้  นางลุกขึ้นไปรับใช้ทุกคน  พระเยซูเจ้าทรงช่วยนาง  นางจึงปรารถนารับใช้ผู้ที่อยู่รอบเธอ  นี่ไม่ใช่ทำแบบทาส  แต่เป็นความนอบน้อมแบบโยบ  นักบุญเปาโล  และที่พระเยซูเจ้าทรงสอน

              หลังจากที่พระเยซูเจ้าทรงรักษาแม่ยายของเปโตรแล้ว  พระองค์ทรงรักษาประชาชนอีกจำนวนมาก  แล้วจึงไปอธิษฐานภาวนา  ไปชาร์จแบตเตอรี่ใหม่  พระเยซูเจ้าเพิ่มพลังด้วยการอธิษฐานภาวนา  เปโตร

             บอกกับพระองค์ว่า  “ทุกคนกำลังแสวงหาพระองค์”  พระองค์ตรัสตอบว่า  “ให้เราไปที่อื่นกันเถิด”  ไปที่อื่น  และประกาศข่าวดี

              ความคิดเรื่องความนอบน้อม  และการหลอมความตั้งใจของเรากับพระประสงค์ของพระเจ้า  ชัดเจนในบทอ่านวันอาทิตย์นี้  มีความหมายอะไรสำหรับเรา?            
            เราเต็มใจมอบชีวิตแด่พระเจ้า  และรับใช้พระองค์ไหม?

               เราตั้งใจทนทุกข์ยากและเสียสละ  เพื่อให้พระประสงค์สำเร็จไหม?

             สำหรับหลายคน  เมื่อพวกเขาอธิษฐานภาวนา  บ่อยๆ บอกได้ยากว่าใครเป็นนาย  ใครเป็นคนใช้  บ่อยๆ เราบอกพระให้ทำตามที่เราต้องการ  มากกว่า  แสวงหา  สิ่งที่พระเป็น   เมื่อเราเห็นความซื่อสัตย์ของโยบ  ความมุ่งมั่นและการอุทิศตนของเปาโล  ให้เราถวายชีวิต (ที่เหลือ) เพื่อรับใช้พระเจ้า  เพื่อช่วยเพื่อนพี่น้องมากที่สุดเท่าที่สามารถ  ให้เขารู้จัก  และยอมรับข่าวดีแห่งความรอดพ้น

พระสังฆราชวีระ  อาภรณ์รัตน์  แปล
จาก  Homilies  โดย Catholic  Diocese  of  Lansing, 
(Jan. - Mar. 2012), หน้า  58 - 60.