บทเทศวันอาทิตย์ โดย ฯพณฯ ฟรังซิสเซเวียร์ วีระ อาภรณ์รัตน์
อาทิตย์ที่  23  เทศกาลธรรมดา
วันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน  2011
บทอ่าน
: อสค 33:7-9 ;    รม 13:8-10 ;    มธ 18:15-20
พระวรสารสัมพันธ์กับ
คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก (CCC)  ข้อ   553, 1444, 1088, 1373, 2472
ประมวลคำสอนด้านสังคมของพระศาสนจักร  (CSDC)  ข้อ  52
จุดเน้น พระเยซูเจ้าทรงเรียกเราให้ทำงานส่งเสริมเอกภาพ  สันติภาพ  และการคืนดีกันในโลก


ชาติต่างๆ  ภาคภูมิใจที่มีเอกราช  มีประชาธิปไตย  มีกฎหมายคุ้มครองสิทธิ  และส่งเสริมสวัสดิการสังคม  (การอยู่ดีกินดี)  ของประชาชน  ถึงแม้หลักการเหล่านี้นำผลประโยชน์มาสู่ประเทศชาติบ้านเมือง  ก็ยังมีจุดด้อยด้วยเหมือนกัน  เราเห็นชัดในการค้าต่างๆ  ที่โฆษณาและมีข่าวประชาสัมพันธ์ในโทรทัศน์

เมื่อสิ่งเหล่านี้ผ่านไป  เราจะพบว่าคุณค่า  (จริยธรรม)  ของสังคมมีแนวโน้มตกต่ำลง  อย่างไรก็ตาม  การโฆษณาสินค้าเหล่านี้เป็นเพียงอาการของระบบความคิด  เบี่ยงเบนเราที่แพร่หลายทั่วไปในสังคม  ระบบความคิดนี้เห็นกฎหมาย  ไม่ใช่เป็นเครื่องส่งเสริมความยุติธรรม  แต่เป็นเครื่องมือให้ได้กำไรมากกว่า  ผลตามมาคือ  มีการฟ้องร้องคดีที่ไม่จริงจัง  มีเก็บเบี้ยประกันสูงขึ้น  และการเสียมารยาทต่อผู้อื่น

ยาแก้พิษชนิดหนึ่งต่อทัศนคติเช่นนี้  พระเยซูเจ้าทรงสอนเราในพระวรสารวันนี้  พระเยซูเจ้าทรงสอนชัดเจนว่า  ผู้ใดต้องการติดตามพระองค์  ต้องอุทิศตนทำงานส่งเสริมเอกภาพและการคืนดี  (สมานฉันท์)  ในสังคม  พระศาสนจักรมิได้เพียงช่วยเหลือด้านสิ่งของต่างๆ เท่านั้น  แต่ต้องเป็นรูปแบบให้ผู้อื่นรู้จักใช้สิ่งของเหล่านี้อย่างถูกต้อง  ดังที่เราได้ยินในพระวรสาร  พระองค์สอนกระบวนการสร้างสามัญสำนึกให้บรรดาศิษย์ใช้  เพื่อขจัดการทะเลาะหรือความขัดแย้ง

เป็นเพราะว่ากระบวนการนี้มีรากฐานในความรัก  มิได้แสวงหาค่าตอบแทน  หรือเพื่อได้รับผลประโยชน์ส่วนตัว  กระบวนการนี้สำคัญ  เพราะความขัดแย้งเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้  ดังนั้น  เมื่อเราพบบางครั้งกับบางคนมีเหตุผลหนึ่ง  หรือกับคนอื่นอีกอย่างหนึ่ง  เราต้องไม่รู้สึกแย่  มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต  ก่อนใดหมดเราต้องคิดและภาวนาขอให้สิ่งเหล่านั้นผ่านไป  และถ้าเราพบว่า  เรามิได้เป็นต้นเหตุของปัญหา  เราต้องพูดตรงๆ กับบุคคลที่เกี่ยวข้อง  หากทำแล้วยังไม่ได้ผล  เราควรหาความช่วยเหลือจากบุคคลกลางที่มีเจตนาดีจะช่วยเราแก้ปัญหา

เมื่อได้ปฏิบัติตามด้วยเจตนาที่ถูกต้อง  กระบวนการนี้ช่วยแก้ไขความยากลำบากมากที่สุดที่เราอาจมีกับผู้อื่น  เป็นการช่วยหว่านเมล็ดพันธุ์ที่ช่วยโลกให้ดีขึ้น  ช่วยเราให้มีสันติยิ่งขึ้นในจิตใจ  ปราศจากค่าธรรมเนียมทางกฎหมายราคาแพงๆ  การปฏิบัติตามคำสอนของพระเยซูเจ้า  จะช่วยเราให้ได้รับสิ่งดีหลายทางที่เราไม่อาจคาดคิดได้